- Celebrities
เปิดโปรไฟล์ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กับนโยบาย “อนาคตใหม่ไทย 2 เท่า”
By Sanook D Pipat • on Oct 01, 2018 • 4,554 Views
ในช่วงปีที่ผ่านมาท่ามกลางกระแสการเมืองที่นิ่งสงบภายใต้รัฐบาล คสช. ที่กำลังมีแผนจะจัดการเลือกตั้งในต้นปี 2562 ซึ่งวางกันไว้ที่เดือนกุมภาพันธ์
หนึ่งในตัวเลือกที่ชาวโซเชียลไทยให้ความสนใจจับตาเป็นพิเศษ คงจะหนีไม่พ้น ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตนักธุรกิจ ที่ผันตัวมาเดินเส้นทางการเมือง ในฐานะหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ จากการออกสื่อและขึ้นเวทีเสวนาหลายครั้ง
ภาพของ ธนาธร ชัดเจนมากขึ้นในฐานะคนรุ่นใหม่ที่ไม่ยอมจำนน ยืนหยัดจะนำพาประชาธิปไตยแบบสร้างสรรค์กลับมาสู่สังคมไทย หลายครั้งที่คำถามเป็นการทายท้าผู้มีอำนาจในสังคม แนวคิดที่เห็นประชาชนเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศ และลดความไม่เท่าเทียมที่เกิดขึ้นในสังคม สิ่งนั้นยิ่งทำให้คนในโซเชียลชื่นชอบมากขึ้น และมองว่า ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จะเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่เบื่อหน่ายเต็มทีแล้วกับวงจรการเมืองแบบเดิมๆ
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ชื่อเล่น เอก ปัจจุบันอายุ 39 ปี เขาเป็นลูกชายของ พัฒนา กับ สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ นักธุรกิจผู้บริหาร กลุ่มบริษัทไทยซัมมิท
แต่นามสกุล จึงรุ่งเรืองกิจ ทำให้เป็นที่สนใจในวงการเมือง เพราะธนาธร มีศักดิ์เป็นหลานอาของ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ (อดีตรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในสมัยรัฐบาลของทักษิณ ชินวัตรและเลขาธิการพรรคไทยรักไทย ที่ตอนนี้เปลี่ยนขั้วไปจับมือกับพรรคพลังประชารัฐ ที่รู้กันดีว่าเป็นขั้วของ คสช.) แต่ ความเป็นอา-หลานระหว่าง ธนาธรกับสุริยะ ดูเหมือนว่าจะมีแนวคิดทางการเมืองที่ไปคนละขั้วเลยทีเดียว
ประวัติทางการศึกษา
ปริญญาตรี หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิตสองสถาบัน (หลักสูตรนานาชาติ) คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล มหาวิทยาลัยนอตติงแฮม
ปริญญาโท ใบที่ 1 สาขาเศรษฐศาสตร์การเมือง ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ปริญญาโท ใบที่ 2 สาขาการเงินระหว่างประเทศ ที่โรงเรียนธุรกิจสเติร์น มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก (NYU) สหรัฐอเมริกา, ปริญญาโท ใบที่ 3 สาขากฎหมายธุรกิจระหว่างประเทศ ที่มหาวิทยาลัยซังคท์กัลเลิน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ความสนใจในเรื่องของสังคมและเศรษฐกิจ
เมื่อปี 2543 ระหว่างที่ธนาธร เรียนอยู่ที่ธรรมศาสตร์ ได้เข้าร่วมการชุมนุมประท้วงรัฐบาลของนายชวน หลีกภัย หลายครั้ง เช่น กลุ่มสมัชชาคนจน, กรรมกรไทยเกรียง, เครือข่ายสลัมสี่ภาค, การประท้วงกรณีท่อก๊าซไทย-มาเลย์ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับคนในสังคมที่โดนเอารัดเอาเปรียบ ในช่วงที่เรียนที่อังกฤษ เขาเริ่มสนใจแนวคิดรูปแบบสังคมนิยมของคาร์ล มากซ์ และวลาดีมีร์ เลนิน ต่อมาในช่วงของการทำปริญญาโทว่าด้วยเศรษศาสตร์ ระหว่างที่เรียนจุฬาฯ ธนาธร ได้ทำหัวข้อ “ลักษณะการสะสมทุนของชนชั้นนำทางธุรกิจระหว่างปี พ.ศ. 2516–2540” ซึ่งวิทยานิพนธ์บทนี้ถูกระงับการเผยแพร่ต่อสาธารณะชน
ในปี 2545 พัฒนา จึงรุ่งเรืองกิจ พ่อของธนาธร เสียชีวิต ทำให้ธนาธร ในวัย 23 ปี ต้องหันเหชีวิตกลับมาสานต่อธุรกิจครอบครัวนั่นคือ บริษัทไทยซัมมิท ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ชั้นนำ มีฐานการผลิตในไทยและหลายประเทศทั่วโลกเช่น จีน, อินเดีย, อินโดนีเซีย, ญี่ปุ่น, มาเลเซีย, อเมริกา และเวียดนาม เป็นกลุ่มบริษัทที่มี บริษัทในเครือรวมกว่า 40 บริษัท ครอบคลุมหลายอุตสาหกรรม ซึ่งการเข้ามาเป็นรองประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัทไทยซัมมิท ทำให้บริษัทเติบโตขึ้นมีรายได้ในปี 2560 กว่า 8 หมื่นล้านบาท
ในช่วงเดือนสิงหาคม ปี 2560 ธนาธร ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความที่สร้างกระแสฮือฮาไปในโลกโซเชียล และมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างวงกว้าง โดยเป็นภาพถนนชื่อว่า ไทย ซัมมิท ในสหรัฐฯ และระบุว่า บ้านเลขที่หนึ่ง ถนนไทยซัมมิท ในรัฐแคนตั้กกี้ คือที่ตั้งของโรงงานผลิตตัวถังรถยนต์แห่งใหม่ของกลุ่มไทยซัมมิท เทคโนโลยีการผลิตโครงสร้างรถยนต์น้ำหนักเบาที่ได้รับการยอมรับจาก Tesla รถยนต์ Tesla Model 3 ใช้ชิ้นส่วนโครงสร้างจากเทคโนโลยีและทำให้สร้างธุรกิจกับ Tesla ได้ปีละ100 ล้านเหรียญสหรัฐ ผู้ว่าการรัฐแคนตั้กกี้เห็นถึงความสำคัญของการจ้างงานคุณภาพและเทคโนโลยีสีเขียว จึงได้มอบถนนไทยซัมมิท หรือ “Thai Summit Drive” พร้อมกับบ้านเลขที่ 1 ของถนนเพื่อเป็นเกียรติให้กับไทยซัมมิท
เข้าสู่เส้นทางการเมือง
ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนโฉมการเมืองไทยไปสู่ อนาคตใหม่ ธนาธร ได้ลาออกจากการทำธุรกิจและร่วมกับ รศ. ปิยบุตร แสงกนกกุล อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดตั้งพรรคอนาคตใหม่ และได้ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค โดยพรรคอนาคตใหม่ ได้รับการรับรองจัดตั้งพรรคอย่างเป็นทางการในวันที่ 28 กันยายน
แนวนโยบายพรรคอนาคตใหม่ “3 ป.”
1. ปลดล็อก กฎหมาย นโยบาย ระเบียบต่าง ๆ ที่ขัดขวางการพัฒนาประเทศและเอื้อต่อทุนผูกขาด
2. ปรับโครงสร้าง การจัดสรรงบประมาณและทรัพยากร มุ่งเน้นการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น
3. เปิดโอกาส ให้ประชาชนเข้าถึงทรัพยากรต่าง ๆ และใช้ศักยภาพดังกล่าวพาตัวเองไปสู่อนาคตใหม่ที่ดีขึ้น
“ไทย 2 เท่า”
ล่าสุด วันที่ 1 ตุลาคม พรรคอนาคตใหม่ – Future Forward Party ได้เปิดตัวพรรคอย่างเป็นทางการโดยประกาศวิสัยทัศน์ “อนาคตใหม่ไทย 2 เท่า” โดยทางเฟซบุ๊คทางการของพรรคอนาคตใหม่ระบุว่า
ต้องการส่งเสริมความ ‘เท่าเทียมกัน’ และ ‘เท่าทันโลก’ โดยมุ่งเน้นให้ประเทศไทย จะต้องเป็นชาติที่พัฒนาไปอย่างมีทิศทางบนหลักการที่ประชาชนต่างมีสิทธิเสรีภาพ มีโอกาสในการเติบโตก้าวหน้าอย่างเสมอภาค ขณะเดียวกันต้องยืนหยัดอย่างมีศักดิ์ศรีในประชาคมโลก แข่งขันให้ได้มีประสิทธิภาพท่ามกลางการพัฒนาเศรษฐกิจยุคดิจิทัล
ตลอดระยะเวลาครึ่งปีที่ผ่านมา ธนาธร ได้เดินสายแสดงวิสัยทัศน์ทางการเมืองตามเวทีเสวนา เข้าร่วมรับฟังปัญหาจากชาวบ้านในหลายพื้นที่และนำเรื่องราวที่พบเจอมาเล่าผ่านเฟซบุ๊ค ได้รับความสนใจจากกลุ่มคนรุ่นใหม่ในสังคมออนไลน์เป็นอย่างมาก
ล่าสุด กับการเดินทางไปยังสหรัฐอเมริกาและแคนาดา และได้ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์บนเวที Concordia Summit การประชุมคู่ขนานกับการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ โดย ธนาธร เผยผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัวว่า
นี่ไม่ใช่แค่การพูดในนามของหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่เท่านั้น แต่ยังเป็นการพูดต่อชาวโลก ในฐานะคนไทยคนหนึ่งผู้ไม่ยอมจำนน และต้องการอนาคตใหม่ที่ดีกว่า ผู้ที่ไม่ยอมให้ประชาธิปไตยถูกพรากไปจากเราโดยไม่ต่อสู้
“ความฝันของเราคือการทำการเมืองที่สร้างสรรค์และมีชีวิตชีวาให้เกิดขึ้นในประเทศไทย สร้างประชาธิปไตยที่เข้มแข็งให้ได้ และความฝันของเราก็ใกล้ความจริงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมีผู้เข้าร่วมเดินทางไปกับอนาคตใหม่มากขึ้นทุกวัน เราผู้ถูกขโมยสิทธิเสรีภาพไป จะต่อสู้อย่างสันติด้วยพลังทั้งหมดที่มี เพื่อทวงคืนฝันนั้นกลับมา ผู้ฟังที่ลุกขึ้นมอบเสียงปรบมือให้ผมทั้งฮอล เป็นเครื่องหมายว่าความฝันนี้ไม่ใช่แค่ของผม หรือของคนไทย แต่เราในฐานะเพื่อนมนุษย์ ต่างมีฝันที่เหมือนกัน ฝันที่จะได้อยู่ในสังคมประชาธิปไตย ที่ซึ่งอำนาจเป็นของประชาชน และเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง”
– (เฟซบุ๊ค : Thanathorn Juangroongruangkit – ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ)
ภาพประกอบจากเฟซบุ๊ค Thanathorn Juangroongruangkit – ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
ABOUT THE AUTHOR
Sanook D Pipat