- Entertainment
รีวิว Still on My Mind The Musical เมื่อรัชดาลัยหยิบเรื่องใกล้ตัวมาเล่าเป็นละครเวที
By Sanook D Pipat • on Nov 06, 2018 • 2,113 Views
เมืองไทยรัชดาลัย เธียเตอร์ ของ บอย ถกลเกียรติ วีรวรรณ โปรดักชั่นละครเวทีมิวสิคัล แนวหน้าของเมืองไทยที่ผลิตผลงานออกมาต่อเนื่องทุกปี และขึ้นชื่อคำว่า “เล่นใหญ่” เพราะก่อนหน้านี้แต่ละผลงานล้วนแต่มีความอลังการทั้งฉาก เสื้อผ้า นักแสดง และเรื่องราวที่มักจับวรรณกรรม/บทประพันธ์ที่เอื้อต่อการสร้างสรรค์เทคนิค เช่น ข้างหลังภาพ เดอะมิวสิคัล ที่ยกเอาน้ำตกมิตาเกะจากประเทศญี่ปุ่นมาไว้กลางเวที,แม่นาคพระโขนง เดอะมิวสิคัล บันดาลให้แม่นาคเหาะเข้ามาหาคนดูกลางโรงละคร,สี่แผ่นดิน เดอะมิวสิคัล ที่เนรมิตพระที่นั่งอันตสมาคมและพระบรมมหาราชวังมาให้คนดูตื่นตาตื่นใจ
….แต่สำหรับโปรเจ็กต์ล่าสุด Still on My Mind The Musical ที่กำลังเปิดม่านการแสดงอยู่นี้ ถือเป็นอีกประสบการณ์ละครเพลงที่รัชดาลัย เลือกจะเล่นน้อยๆ แต่เข้าไปถึงหัวใจของคนดู โดยหยิบประเด็นของสถาบันครอบครัว จุดเล็กๆที่หลายคนมองข้ามนำมาขยายสเกลให้เห็นความชัดเจนมากขึ้น
[wonderplugin_video iframe=”https://www.youtube.com/watch?time_continue=30&v=pyI1GNrjyfk” videowidth=600 videoheight=400 keepaspectratio=1 videocss=”position:relative;display:block;background-color:#000;overflow:hidden;max-width:100%;margin:0 auto;” playbutton=”https://bsite.in/wp-content/plugins/wonderplugin-video-embed/engine/playvideo-64-64-0.png”]
Still on My Mind The Musical
เป็นเรื่องราวของครอบครัวหนึ่ง ที่มี พล (กบ ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี) เป็นหัวหน้าครอบครัว เขากำลังประสบปัญหาบริษัทที่ทำงานมาเป็นสิบๆปีเลิกจ้างงาน ในขณะที่ อร (นิโคล เทริโอ) ผู้เป็นภรรยากำลังรุ่งโรจน์อยู่กับธุรกิจขายตรงและประสบความสำเร็จแซงหน้าสามี แต่เธอก็ต้องคอยแก้ปัญหาทุกอย่างในบ้านเพราะทั้งสามีและลูกๆ ทำอะไรก็ไม่ได้ดั่งใจสักอย่าง ลูกๆ ที่กำลังเติบโตเป็นวัยรุ่น ติดเพื่อน ติดเกม ติดโซเชียลก็หลงลืมการให้ความสำคัญกับคนในครอบครัว
จนกระทั่งจุดเปลี่ยนของเรื่องราวเกิดขึ้น เมื่อครอบครัวที่เคยรักกันแน่นแฟ้นต้องพังทลายลง ในจุดนั้นพวกเขาทุกคนจึงรู้ซึ้งของคำว่า…
“คนเรามักจะเสียดายเมื่อของบางอย่างหายไป…แต่เวลาที่ของสิ่งนั้นอยู่ใกล้ๆกลับไม่รู้สึกสนใจมันเลย”
บทละครเวทีของ Still on My Mind The Musical เป็นการสร้างเรื่องราวใหม่หมดไม่ได้อ้างอิงจากบทประพันธ์แต่นำเค้าโครงของบริบททางสังคมไทย โดยเฉพาะครอบครัวในกรุงเทพฯ มาเป็นพื้นยืนของตัวละคร ทำให้บทมีความสมัยใหม่ ดูง่าย เข้าถึงคนดูได้ถึงทุกเพศ ทุกวัย เช่น สะท้อนถึงปัญหาเศรษฐกิจ เหน็บแนมการเมือง ชีวิตที่เร่งรีบในกรุงเทพฯ ที่ทุกคนต่างดิ้นรน ส่วนวัยรุ่นก็ติดเกมส์ ติด Live จนไม่เป็นอันทำอะไร
ในทุกฉากจะสะท้อนตัวตนของแต่ละช่วงวัยให้ผู้ชมได้เห็นว่า วัยรุ่นยุคนี้เป็นแบบนี้ คนเป็นพ่อเป็นแม่คิดแบบนี้ เปิดมุมมองให้คนแต่ละช่วงวัยได้ทำความเข้าใจกัน ผ่านบทเพลงมากกว่า 10 เพลงที่ถูกรังสรรค์ขึ้นมาใหม่หลากหลายแนวทั้งป๊อป แร๊พ แจ๊ส ถูกนำมารวมกันในละครเวทีเรื่องนี้
และมีบทเพลงพระราชนิพนธ์ Still on My Mind The Musical เป็นหัวใจสำคัญของเรื่อง พร้อมกับสอดแทรกคำสอนของในหลวง รัชกาลที่ 9 ไว้อย่างพอดีเหมาะสมไม่เยอะจนเกินไป ทำให้เราไม่รู้สึกว่านี่คือละครเทิดพระเกียรติ แต่เป็นละครสำหรับครอบครัวโดยแท้จริง
ฉากที่ชอบเป็นพิเศษคือตอนที่ ตัวละคร “พล” ซึ่งทำหน้าที่ของสามี พ่อ และหัวหน้างาน เขากำลังตกที่นั่งลำบากแต่ก็ได้ร้องเพลง “ไม่มีคำว่าแพ้” เพื่อปลุกสติและหัวใจให้ลุกขึ้นมาสู่ต่อปัญหาที่ถาโถมเข้ามา และฉากที่ อร นั่งปรับทุกข์กับพ่อของตัวเองว่าทำไมทุกคนในครอบครัวถึงทำอะไรไม่ได้ดั่งใจไปหมดทุกเรื่องแต่คุณพ่อก็สอนกลับลูกสาวว่า หากเราไม่คาดหวังทุกสิ่งย่อมสมดั่งใจ
ในส่วนของงานโปรดักชั่น ฉาก แสง สี เสียง ถือว่าจัดเต็มสมมาตรฐานความเป็นรัชดาลัย แม้เนื้อเรื่องจะไม่ได้เอื้อให้ทำฉากใหญ่อลังการแบบเรื่องอื่นๆ แต่ก็เป็นงานฉากที่ดูแล้วอบอุ่น และสื่อเรื่องราวได้ดี ทั้งตึกรามบ้านช่องของกรุงเทพฯ, ฉากงานเต้นรำที่บางปูทำให้คนดูที่เป็นผู้สูงวัยได้หวนนึกถึงบรรยากาศเก่าๆ
และฉากหัวใจของเรื่องนี้คือฉากบ้านของครอบครัวตัว มีเปียโนหลังเก่า ซึ่งแทนสัญลักษณ์ของความสุขในบ้าน,มีรูปที่มีทุกบ้านติดอยู่เพื่อสะท้อนให้เห็นการน้อมนำคำสอนของพ่อมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน,โต๊ะกินข้าวที่เปรียบเหมือนมุมแห่งความสุขของบ้านที่ทุกคนมาร่วมวงทานข้าวอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา อีกฉากที่เรามองว่าทางทีมสร้างค่อนข้างฉลาดในการเล่าเรื่องคือฉากของโลกโซเชียล โดยการจับเอาตัวละครวัยรุ่นที่ชอบแชท แชร์ Live ถ่ายรูปหรือระบายปัญหาความรักลงโลกโซเชียลจับมารวมกันไว้ในฉากเดียวสร้างเสียงหัวเราะและรอยยิ้มให้กับคนดู
นักแสดงเป็นพาร์ทที่สำคัญที่สุดของ Still on My Mind The Musical ที่ทุกคนล้วนสอบผ่านและทำให้คนดูเชื่อได้อย่างสนิทใจว่าเป็นพ่อ แม่ ลูกกันจริงๆ
กบ ทรงสิทธิ์ รับบทเป็นพ่อ ถ่ายทอดพลังของพ่อผู้พ่ายแพ้และกำลังจะลุกขึ้นสู้ เขาต้องแบกรับความรับผิดชอบของทั้งครอบครัวและเพื่อนร่วมงาน ฝ่าฟันปัญหาให้ผ่านพ้นไป,นิโคล เทริโอ ก็กลายเป็นแม่ที่มีความจู้จี้ขี้บ่นไปในทุกเรื่อง เหมือนกับในชีวิตจริงแม่เราของหลายๆคนก็มักจะเป็นแบบนี้ ทั้งสองเข้าคู่กันเหมือนว่าใช้ชีวิตผ่านร้อนผ่านหนาวกันมานานหลายปี
ส่วนตัวละครแย่งซีนประจำเรื่องนี้ตกเป็นของ ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปการแสดง “สุประวัติ ปัทมสูต” รับบทเป็นคุณตา ที่ออกมาฉากไหนก็สร้างรอยยิ้มให้กับคนดูตลอด และ ตะวัน พันวา นักแสดงละครเวทีเลือดใหม่ รับบทเป็น นล ลูกชายของบ้านที่มีเสียงร้องสะกดคนดูตั้งแต่โน๊ตแรกที่ร้องออกมา
ทั้งนี้ โดยภาพรวมของนักแสดงถือว่ายอดเยี่ยมทั้งเสียงร้องและการแสดงที่ถ่ายทอดอารมณ์สื่อถึงคนดู
Still on My Mind The Musical อาจจะไม่ใช่ละครเวทีฟอร์มยักษ์ที่เน้นเทคนิคฉาก หรือความอลังการแบบที่รัชดาลัยเคยทำมา แต่รับรองว่านี่จะเป็นละครเวทีที่เข้าไปอยู่ในใจคนดูได้แน่นอน สร้างพลังใจและข้อคิดให้เราเห็นความสำคัญของคนในครอบครัว อย่ามองข้ามความรักของพ่อแม่ไปจนกระทั่งวันหนึ่งเราต้องสูญเสียมันไป
เมื่อละครจบลงเราจะได้รับความรู้สึกอิ่มเอมใจรวมถึงได้ย้อนดูตัวเองว่าทุกวันนี้เราทำหน้าที่ของตัวเองในครอบครัวได้ดีแล้วหรือยัง? ละครเปิดแสดถึง 11 พฤศจิกายนนี้ (อาจมีการเพิ่มรอบการแสดง) ณ เมืองไทยรัชดาลัย เธียเตอร์ บัตรที่จำหน่ายที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ ทุกสาขา
ABOUT THE AUTHOR
Sanook D Pipat