- Lifestyle
รู้จัก #ฝุ่นพิษ PM 2.5 และวิธีการเลือก ‘หน้ากากอนามัย’ ป้องกัน
By ทีมงาน bsite • on Jan 14, 2019 • 2,826 Views
เป็นเรื่องราวที่กำลังฮือฮาอย่างมากในช่วงนี้ กับปัญหาฝุ่นละอองเป็นพิษในกรุงเทพฯ ที่ถือว่าเข้าขั้นวิกฤตอย่างหนัก จนเกิดเป็นคำที่ฮิตติดเทรนด์ถึง 3 คำด้วยกัน #ฝุ่นละออง #ฝุ่นกรุงเทพ และ #PM25
และแม้ว่ามันจะไม่ใช่คำติดเทรนด์ แต่ด้วยสภาพอากาศที่เราเห็นและที่เราสูดเข้าไป ก็ทำให้รู้สึกและสัมผัสได้ตั้งแต่จมูกถึงลำคอว่า มันกำลังส่งผลร้ายต่อร่างกายอย่างไม่ต้องสงสัย และอะไรคือฝุ่น PM 2.5 ที่เขากำลังพูดถึง มันส่งผลร้ายแค่ไหน และมีวิธีในการป้องกันอย่างไร มาดูกันค่ะ
#PM25
แฮชแท็กที่ติดเทรนด์นี้ ไม่ใช่ชื่อวงบอยแบนด์หรือเกิร์ลกรุ๊ปที่ไหน แต่เป็นค่าฝุ่นที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย โดย ฝุ่นพิษ PM 2.5 เป็นสารพิษที่มองไม่เห็น ไม่มีกลิ่น แต่เป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างหนัก เข้าสู่ร่างกายทางโพรงจมูก เป็นสาเหตุของโรคมะเร็งปอด โรคหัวใจขาดเลือด โรคหลอดเลือดในสมอง และโรคที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจ
จากการตรวจวัดในจุดตรวจทั่วกรุงเทพ พบว่ามีปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอนอยู่หลายจุด โดยจุดส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่ย่านเขตเมืองและย่านเศรษฐกิจ ฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอนนี้ เป็นฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กมาก ๆ แม้แต่หน้ากากอนามัยที่เราใช้กันในปัจจุบันก็เอาไม่อยู่
สิ่งที่น่ากลัวก็คือ พบว่ามีการตรวจพบฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานสูงมาก (ที่กำหนดไว้คือไม่ควรเกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) แต่เชื่อหรือไม่ว่าบางจุดมาสูงถึง 116 ลูกบาศก์เมตรเลยทีเดียว ถึงขั้นที่แม้แต่นักวิชาการยังเสนอให้รัฐบาลประกาศหยุดทำงานในช่วงนี้ 1-2 วันเลยทีเดียว (นักวิชาการ มธ.ชี้ฝุ่นพิษทั่วกรุงวิกฤต แนะหยุดงาน—ที่มา ข่าวสด)
PM 2.5 มาจากไหน
PM 2.5 คือฝุ่นพิษที่พบอากาศ เป็นสารพิษที่มีขนาดเล็กมากและอันตรายมากถึงขั้นเป็นมะเร็งได้เลยทีเดียว PM 2.5 เกิดจากการเผาไหมที่ไม่สมบูรณ์จากท่อไอเสียรถยนต์ โรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ รวมถึงควันบุหรี่ มีส่วนประกอบของปรอท แคดเมี่ยม และสารอื่น ๆ อีกมากมายที่สามารถทำลายระบบประสาท ทำให้เป็นอัมพาต เป็นมะเร็ง
มลพิษทางอากาศในพื้นที่กรุงเทพฯ เกิดได้จากหลายสาเหตุ สาเหตุที่ถือว่าเป็นวิกฤติหนักได้แก่สภาพการจราจรที่หนาแน่น ในแต่ละวันนั้น มีการใช้รถยนต์จำนวนมากและมีการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อมีการสัญจรอยู่ตลอดเวลาจึงทำให้เกิดมลพิษเพิ่มขึ้นทุก ๆ นาทีเลยทีเดียว นอกจากนี้ โครงการก่อสร้างต่าง ๆ ยังเป็นแหล่งกำเนิดฝุ่นละอองชั้นดี ยิ่งทุกวันนี้กรุงเทพมีการก่อสร้างหลายจุด ไม่ว่าจะเป็นการขุดก่อสร้างรถไฟฟ้า ก่อสร้างอาคาร ขุดถนน ทำท่อระบายน้ำเป็นต้น ซึ่งล้วนแต่เป็นบ่อเกิดปัญหามลพิษทางอากาศที่กระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนในทุกวัน
วิธีการเลือกหน้ากากอนามัยที่ถูกต้อง
หลังข่าวปัญหาฝุ่นพิษแพร่กระจาย ผู้คนก็แห่กันไปซื้อหน้ากากอนามัยทำให้ตอนนี้เกิดปัญหาหน้ากากขาดตลาดทั้งร้านค้าทั่วไปและแม้แต่ในออนไลน์ก็สั่งยากเช่นกัน อย่างไรก็ตาม หน้ากากอนามัยที่กระทรวงสาธารณสุข แนะนำว่าเหมาะสมในการใช้ป้องกันฝุ่นพิษ มีวิธีการเลือก ดังนี้
- หน้ากากอนามัยชนิด N95 เป็นหน้ากากอนามัยที่ได้รับความนิยมสูงสุดในขณะนี้ เป็นหน้ากากที่ได้มาตรฐานและได้รับการยอมรับว่าสามารถป้องกันเชื้อโรคได้ดีที่สุด เพราะป้องกันได้ทั้งฝุ่นละอองและเชื้อโรคที่มีขนาดเล็กถึง 0.3 ไมครอน เหมาะสำหรับป้องกันมลพิษ ฝุ่นละอองขนาดเล็กอย่างที่พบเห็นกันทุกวันนี้ ควันพิษ ไอเสียรถยนต์ และไอระเหยของสารเคมีต่างๆ ได้เป็นอย่างดี
- หน้ากากอนามัยแบบผ้าฝ้าย เป็นหน้ากากคล้ายแบบเยื่อกระดาษ เน้นการป้องกันการกระจายของน้ำมูกหรือน้ำลายจากการไอจาม แต่อาจไม่สามารถกรองเชื้อโรคที่มีขนาดเล็กมากๆ ได้ สามารถป้องกันฝุ่นละอองขนาดใหญ่กว่า 3 ไมครอนขึ้นไป แต่ฝุ่นละอองที่พบในปัจจุบันนี้มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอนจึงไม่สามารถป้องกันได้
- หน้ากากอนามัยแบบเยื่อกระดาษ 3 ชั้น หน้ากากชนิดใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง เป็นแบบที่คนส่วนใหญ่คุ้นเคย เป็นหน้ากากที่เหมาะสำหรับป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรคจากการไอหรือจาม ป้องกันผู้สวมใส่จากเชื้อโรคจำพวกเชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อราได้ แต่หากเป็นเชื้อไวรัสซึ่งมีอนุภาคเล็กระดับไมครอนอาจจะไม่สามารถป้องกันได้ จึงไม่เพียงพอหากต้องการป้องกันฝุ่นพิษ
สรุปแล้ว หน้ากากที่เหมาะสำหรับป้องกันฝุ่นพิษได้ดีที่สุดคือ หน้ากาก N95 ส่วนหน้ากากประเภทอื่นนั้น ช่วยป้องกันได้เพียงส่วนหนึ่ง เพราะขอบของหน้ากากอนามัยทั่วไปยังไม่มิดชิดเข้ากับผิวหน้าของผู้สวมใส่ เชื้อโรคจึงสามารถเล็ดลอดผ่านบริเวณดังกล่าวได้
ABOUT THE AUTHOR
ทีมงาน bsite
Biographical Info