- Entertainment
ขัดใจไหม? #TheFaceThailand5 การฟาดฟันของ ‘เมนเทอร์’ ตัวพ่อตัวแม่ขนมา ‘กลบ’ ผู้แข่งขัน
By ทีมงาน bsite • on Mar 18, 2019 • 2,200 Views
เดินทางเข้าสู่ Ep. ที่ 3 แล้วสำหรับ The Face Thailand Season 5 หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมถึงปล่อยมาถึง Ep.3 แล้วเราถึงมาเขียน นั่นก็เพราะเราต้องการให้พื้นที่แก่ Season 5 ต้องการให้โอกาสหลังโดนถล่มยับไปกับ 2 ตอนแรกไป โดยเฉพาะคำวิจารณ์การจัดทัพตัวเมนเทอร์ ความวุ่นวายในการเลือกผู้เข้าแข่งขัน รวมทั้งการเปิดพื้นที่อย่างไม่จำกัดเพศของรายการ
ดังนั้น เราว่าถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องออกมาพูดความในใจในฐานะแฟนรายการ The Face Thailand แต่มากไปกว่าความบันเทิง อย่างไรเสียเราก็มองว่า The Face Thailand ได้ให้บทเรียนสำคัญแก่เราในการเรียนรู้ชีวิตได้ดีอีกด้วย
Cat Fight ของเหล่าเมนเทอร์
ที่ผ่านมาเป็นเพียงเสียงกระซิบกระซาบว่า เอ๋… แท้จริงแล้ว หรือการแข่งขันรายการ The Face Thailand ที่แท้ก็อาจจะเป็นเพียงแค่การโชว์การฟัดฟันของเหล่าเมเทอร์หรือเปล่า อรรถรสของรายการที่แท้จริงก็คือ เมนเทอร์มาตีกันเองนี่แหละ หาใช่การแข่งขันของผู้สมัคร ที่ดูเหมือนว่าจะเป็นเพียงน้ำจิ้มของรายการเท่านั้น แต่พ้อยท์นี้เริ่มเห็นภาพที่ชัดขึ้นเรื่อยๆ
ประเด็นนี้เริ่มให้เห็นชัดเจนอย่างไร?
ซีซันที่ผ่านๆ มา ก็อาจจะไม่ชัดเจนเท่าไหร่ แต่เมื่อการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ของเหล่าเมนเทอร์เพื่อให้เกิดความเข้มข้นหรือสีสันดั่งที่รายการว่ามานั้น ตอนนี้สีสันที่ว่ากำลังจะกลายเป็นเส้นเมนหลักจนทำให้เกือบเป็นเนื้อหาหลักของรายการไปหมดแล้ว แม้แต่ตอนที่ตัดโปรโมท Ep. ต่อไปก็ยังคงเป็นการปะทะฝีปาก หรือโชว์สกิลการฟาดฟันกันของเมนเทอร์นะ (จริงไหม)
ภาพมันชัดมากขึ้นสุดก็คงเป็นซีซันนี้ ที่หลังเปิดตัวเมนเทอร์ 4 คนแล้วได้รับคำวิจารณ์ในแง่ลบเสียส่วนมาก จนตอนต่อมาเราเห็นการเพิ่มมาสเตอร์เมนเทอร์ไปทีเดียวเลย 3 คนใน 3 ทีมเลย (ซึ่งจุดนี้ไม่แน่ใจว่าเป็นไอเดียก่อนหรือหลังคำวิจารณ์) แต่นั่นก็ทำให้เราเริ่มงงงวยในทิศทางของ The Face Thailand ว่าต้องการอะไร??
ย้อนกลับไปใน The Face All Star การมี #มาสเตอร์เมนเทอร์ลูกเกด เราพอเข้าใจได้ว่า มาเพื่อคุมโทนให้รายการยังคงความสนุก โดยที่หน้าที่มาสเตอร์เมนเทอร์ จะให้ความเป็นธรรมและให้คำแนะนำกับทุกๆ ทีมเท่าเทียมกัน ไม่ได้เลือกข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง นั่นจึงทำให้เกมไม่ดูขัดเกินไป เมนเทอร์แต่ละคนยังคงได้เป็นตัวเอง ผู้แข่งขันก็ยังได้รับคำแนะนำที่ดีเยี่ยมจากขุ่นแม่ลูกเกดทุกคนอยู่ ได้ฝึกฝนแม้จะตกรอบ นั่นจึงไม่ทำให้รายการดูคุมโทนเช่นเดิม
แต่ทว่า… ในซีซันล่าสุดนี้ กับการมีมาสเตอร์เมนเทอร์ เพิ่มอีก 3 คน ของแต่ละทีมขึ้นมา เรายังไม่เห็นเหตุผลว่าเพื่ออะไร?
และนั่นยิ่งเป็นการตอกย้ำถึง ‘ความอ่อน’ ของเมนเทอร์หรือไม่ ว่าไม่อาจช่วยพัฒนาศักยภาพของผู้เข้าแข่งขันได้ ซึ่งนั่นคือหน้าที่สำคัญของคนเป็นเมนเทอร์
ที่สำคัญ การที่รายการได้เลือกมาแล้วว่า บุคคลคนนี้สมควรเป็นเมนเทอร์ นั่นแปลว่าเขาจะต้องมีความสามารถศักยภาพสมบูรณ์เพียงพอที่จะมาให้ความรู้ แนะนำสั่งสอนคนอื่นได้ว่าจะต้องทำอย่างไรที่จะพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้นดีขึ้น ไม่ใช่แค่ ‘รู้’ ว่าจะเล่นรายการนี้อย่างไร ประสบการณ์แค่ผ่านรายการเรียลลิตี้มาไม่ได้เพียงพอที่จะให้มาเป็นผู้ให้คำปรึกษาใครได้เลย
แต่กับการที่รายการยังหา #มาสเตอร์เมนเทอร์ มาเพิ่มในรายการนี้ สามารถสะท้อนได้หรือไม่ว่า เมนเทอร์ที่รายการเลือกมาทั้ง 4 คนนั้น อาจจะยังไม่มีศักยภาพเพียงพอ? นี่เป็นคำถามที่สะกิดใจผู้ชมทุกคน
ทว่า … หรือว่าการไฟท์กันของเหล่าเมนเทอร์ อาจจะเป็นเมนหลักที่แท้จริง ที่รายการต้องการจะนำเสนอมากกว่า ?? ดังนั้น ภาพจึงชัดเจนมากในซีซันนี้ว่า
ท้ายที่สุดแล้วรายการต้องการนำเสนอ ดราม่าของเหล่าเมนเทอร์ นั่นเอง
‘ความอ่อน’ สะท้อนตั้งแต่แคมเปญแรก
ไม่เพียงแค่นั้น ภาพชัดขึ้นไปอีกแบบ HD เลย ตั้งแต่เริ่มในแคมเปญแรก!
เมื่อการรับโจทย์จาก 2 เมนเทอร์ ทีม “จีน่า-แบงก์” ผิดพลาดในพ้อยท์สำคัญของการทำโจทย์ให้กับลูกค้า แถมยังเหมือนกับว่าลาก “พี่อาร์ต” ไปตบกลางสีแยกอีกด้วย
ความพ่ายแพ้นี้สะท้อนเรื่องการขาดประสบการณ์อย่างชัดเจนของ 2 เมนเทอร์หน้าใหม่ เป็นความพ่ายแพ้อย่างไม่ควรเกิดขึ้นสำหรับคนที่เป็นมืออาชีพ การตีโจทย์ลูกค้าให้แตกเป็นไพรออริตี้แรกที่คนทำงานจะต้องทำความเข้าใจในแบบพื้นฐานได้ง่ายๆ เพราะในโลกความเป็นจริงคุณอาจไม่มีโอกาสแก้ตัวในครั้งที่สองสำหรับลูกค้าอีกต่อไป นั่นยังไม่รวมถึงการทำให้ทีมงานเสียเวลาไปกับข้อผิดพลาดง่ายๆ ที่ว่ารับบรีฟผิด ไม่ใช่ การบรีฟผิด!
อย่างไรก็ตาม เราเข้าใจดีว่าการรับโจทย์สำคัญด้วยการให้เวลาแค่ 10-15 นาทีแน่นอนว่า มันน้อยมาก กับการทำงานใหญ่งานสำคัญแบบนี้ และใช่! ในโลกความเป็นจริงมันก็ไม่ได้มีใครมารับบรีฟกันสั้นๆ ง่ายๆ แบบนี้หรอก แต่คำถามก็ต้องมีต่อว่า ทว่า ทีมของ “มารีญา – ซาบรีน่า” สามารถทำได้ในจุดนี้อย่างไม่พลาดได้อย่างไร? ในเวลาที่เท่ากัน หรือนั่นจะสะท้อนถึงความเชี่ยวชาญอย่างแท้จริง ความเก่งที่แท้จริงของเมนเทอร์? นั่นอาจจะเป็นประเด็นที่ต้องไปขบคิด
แค่จุดนี้ก็เหมือนว่า “จีน่า-แบงก์” หนักแล้ว แต่หลังประกาศผล ก็โดน “เจ่เจ้ อาร์ต” เรียกคุยก่อนเด็กเข้าห้องดำอีก! อู้ยยยยยยย ยิ่งเหมือน ตอกๆๆ สับๆๆ ว่า พวกเธอคือจุดอ่อนเข้าไปอีก
ทว่า นี่ก็เป็นเพียงแค่ Ep. แรก ยังมีอีกหลายแคมเปญหลายมาสเตรอ์คลาสที่ทั้งจีน่า-แบงก์จะได้มีโอกาสพิสูจน์ฝีมือกันต่อ ซึ่งเราเชื่อว่าทั้งสองคนจะต้องมีของดีที่จะได้งัดออกมาสู้กับทีมอื่นอย่างแน่นอน
รวมทั้งรายการเองด้วยจะได้พิสูจน์ข้อกังขาที่ว่า
รายการนี้ต้องการ “หาเมนเทอร์” หรือต้องการ “หา The Face Thailand” กันแน่จ๊ะ.
ฝากไว้ให้ Kiss .
Copyright© Bsite.In
ขอบคุณภาพจาก Facebook The Face Thailand
ABOUT THE AUTHOR
ทีมงาน bsite
Biographical Info