กลายเป็นชัยชนะที่แฟนๆ ลิเวอร์พูล ‘เฮ’ กันไม่สุดเสียงเท่าไหร่ แม้จะเปิดบ้านถล่มทีมน้องใหม่ นอริช ไป 4-1 ก็ตาม

สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า ลิเวอร์พูล ต้องเสีย อลิสซอน เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตูมือหนึ่งของทีมไปตั้งแต่ยังไม่จบครึ่งแรกในเกมเปิดฤดูกาลเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา

โดย อลิสซอน มีอาการกล้ามเนื้อน่องฉีก และรายงานล่าสุดระบุว่าเขาจะต้องพักราวๆ 4-8 สัปดาห์เลยทีเดียว

ซึ่งนั่นหมายความว่าประมาณ 2 เดือนนับจากนี้ไป ลิเวอร์พูล จะลงสนามโดยไม่มีโกลมือหนึ่งอย่างมากที่สุดถึง 11 เกม ไล่ไปตั้งแต่ เชลซี (ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ), เซาธ์แฮมตัน (เยือน), อาร์เซน่อล (เหย้า), เบิร์นลี่ย์ (เยือน), นิวคาสเซิล (เหย้า), แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่มนัดแรก, เชลซี (เยือน), ลีกคัพ รอบสาม, เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด (เยือน), แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่มนัดที่สอง และ เลสเตอร์ (เหย้า)

ทำให้ตอนนี้ความกังวลใจเริ่มก่อตัวเกิดขึ้นในหมู่สาวกหงส์แดง เพราะไม่มีใครรับประกันว่าการหายไปของ อลิสซอน ครั้งนี้ จะส่งผลกระทบต่อผลงานของทีมมากน้อยแค่ไหน?

เพราะต้องไม่ลืมว่า เมื่อฤดูกาลที่แล้วผู้รักษาประตูบราซิลเลี่ยนคนนี้ถือเป็นหนึ่งในคีย์แมนสำคัญที่เข้ามาช่วยแก้ปัญหาเกมรับ โดย ลิเวอร์พูล กลายเป็นทีมที่เสียประตูน้อยที่สุดในลีกเพียง 22 ลูก แถมเจ้าตัวยังสามารถเก็บคลีทชีทได้ถึง 27 นัด จากการลงเฝ้าเสาไปทั้งหมด 51 เกมในทุกรายการ

พูดง่ายๆ ว่า ถ้าไม่เหนือบ่ากว่าแรงจริงๆ อลิสซอน แทบจะไม่เคยปล่อยให้ลูกบอลผ่านมือเข้าไปซุกที่ก้นตาข่ายเลย มิหนำซ้ำหลายๆ เซฟของเขา ยังเป็นเซฟสำคัญที่ช่วยให้ ลิเวอร์พูล เก็บผลการแข่งขันที่ต้องการได้ในท้ายที่สุดอีกด้วย

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น คำถามที่ตามมาก็คือ อาเดรียน โกลมือสองที่ ลิเวอร์พูล เซ็นสัญญามาแบบไม่มีค่าตัวจะมาทำหน้าที่ตรงนี้แทนได้ดีขนาดไหน?

“อาเดรียน เป็นผู้รักษาประตูที่ดี เขานิ่งเวลาที่ได้ครองบอล และรับลูกยิงได้ดี นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเราถึงเซ็นเขามา” เจอร์เก้น คล็อปป์ พูดถึงนายทวารชาวสแปนิช

“เขาเป็นคนที่มีความมั่นใจสูง การที่เขามาที่นี่ ผมคิดว่าเขาคงไม่ต้องการแค่มานั่งเป็นตัวสำรองไปตลอดสองปี เขาเตรียมตัวเองให้มีความพร้อมอยู่เสมอ ในสถานการณ์แบบนี้ คุณต้องการใครบางที่มีประสบการณ์การเล่นในลีก เขาอายุ 32 เขามีความนิ่ง มีอารมณ์ร่วม เล่นบอลกับเท้าได้ดี ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ สำหรับเรา”

แม้ว่าจากบทสัมภาษณ์ข้างต้น ดูเหมือนว่า คล็อปป์ จะมั่นใจในตัวของ อาเดรียน อยู่ไม่น้อย แต่อดีตนายทวารที่เคยลงสนามให้เวสต์แฮมมา 125 นัดคนนี้ มีโอกาสได้ลงเล่นเพียง 5 เกมเท่านั้นเมื่อฤดูกาลก่อน และถูกทีมขุนค้อนปล่อยตัวฟรีหลังหมดสัญญา

ซึ่งเราคงต้องติดตามกันต่อไปว่า การร้างสนามไปนานขนาดนั้นจะส่งผลต่อฟอร์มการเล่นส่วนตัวของ อาเดรียน หรือไม่?

อีกจุดหนึ่งที่น่าเป็นห่วงไม่น้อยก็คือ ลิเวอร์พูล คว้าตัว อาเดรียน มาแทนที่ของ ไซม่อน มินโญเล่ต์ ก่อนหน้าจะเปิดฤดูกาลเพียงไม่กี่วัน ทำให้ อาเดรียน เพิ่งลงซ้อมร่วมกับทีมได้ไม่เท่าไหร่ ตรงนี้จะส่งผลต่อการเล่นร่วมกับนักเตะคนอื่นๆ ในทีม (โดยเฉพาะแผงแบ็คโฟร์) หรือไม่?

นอกจากนี้ แฟนๆ หงส์แดง คงทราบกันดีว่า การออกบอลแรกของ อลิสซอน ถือเป็นอาวุธลับอีกอย่างหนึ่งของทีม ซึ่งหลายๆ ครั้งนำไปสู่การได้ประตู แต่พอกลายเป็น อาเดรียน จะมีอะไรแบบนี้ให้เห็นบ้างมั้ย? คงต้องมารอดูกัน

ยังครับ ปัญหาเรื่องผู้รักษาประตูของ ลิเวอร์พูล ยังไม่หมดแค่นั้น เพราะนอกจากโกล์มือหนึ่งจะเจ็บแล้ว โกลมือสามอย่าง ควีวีน เคลเลเฮอร์ ที่เพิ่งหายกลับมาจากอาการข้อมือหัก ก็ยังฟิตไม่พอที่จะลงสนามได้อีกต่างหาก

ล่าสุด มีข่าวว่า ลิเวอร์พูล กำลังจะเซ็นสัญญา 1 ปีกับนักเตะฟรีเอเจนต์อย่าง แอนดี้ โลเนอร์แกน โดยผู้รักษาประตูวัย 35 ปีซึ่งเคยเดินทางไปทัวร์อเมริการ่วมกับทีมช่วงปรีซีซั่นมาแล้ว จะเข้ามาเป็นตัวสำรองให้กับ อาเดรียน ในช่วงที่ เคลเลเฮอร์ กำลังเรียกความฟิตกลับมา

แบบนี้ต้องเรียกว่าเจอเรื่องปวดหัวตั้งแต่นัดแรกของฤดูกาลกันเลยทีเดียว แต่ทั้งหลายทั้งปวง การแก้ปัญหาคงไม่มีวิธีไหนที่จะดีไปกว่า การที่ทั้ง เจอร์เก้น คล็อปป์, นักเตะ, ทีมงาน รวมไปถึงแฟนบอลทุกคน ต้องรวมใจเป็นหนึ่งเดียวเพื่อช่วยกันพาทีมผ่านพ้นช่วงเวลาแบบนี้ไปให้ได้

นี่คืออีกหนึ่งบททดสอบ ที่จะทำให้ทีมแข็งแกร่งยิ่งขึ้นครับ ผมเชื่อแบบนั้น…

เครดิตภาพ : Liverpool Echo, Evening Standard