เปิดตัวไปแล้วกับ “ฮาวทูทิ้ง…ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ” ต้องขอสภาพเลยว่าตอนได้ดู Teaser ครั้งแรกก็ไม่ได้รู้สึกถึงความหวือหวาอะไร เพียงแต่ความสงสัยว่าหนังจะออกมาในรูปแบบไหน สิ่งแรกที่เห็นใน Teaser แล้วตกใจคือ ออกแบบตัดผมสั้น! ซันนี่ไว้หนวดหนา! เป็นหนังเกี่ยวกับการจัดบ้าน! แล้วมีเรื่องรักๆ เข้ามาเสริม เห้ยยย! มันน่าติดตามนะเอาดีๆ แต่ด้วยความหนังของเต๋อ นวพล มันกลายเป็นแบรนด์ไปแล้ว คือหนังเต๋อๆ อะยังไงก็ต้องไปดูให้ได้นี่ตั้งจิตกับตัวเองไว้บวกกับความ Viral Marketing ที่เต๋อ นวพล ทำออกมาได้ดีทุกครั้งที่ปล่อยหนังออกมาเลยก็ว่าได้

ตามมาด้วยรายชื่อนักแสดงที่น่าดึงดูดมากๆ อย่าง ออกแบบ-ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง มารับบท “จีน” ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ มารับบท “พี่เอ็มแฟนเก่าจีน” เนื้อเรื่องดำเนินโดยจีนที่เรียนจบกลับมาจากสวีเดน แล้วอยากรีโนเวทบ้านให้เป็นโฮมออฟฟิศแนวมินิมอล แต่ของในบ้านเยอะเกิน คือเยอะชนิดที่เรียกว่าเทียบไม่มีที่นอน แต่ของเหล่านั้นมันก็เต็มไปด้วยเรื่องราวของคนให้และคนรับ โดยในหนังเนียจีนกับเจย์สองพี่น้องเห็นตรงกันว่าอยากรีโนเวทบ้านใหม่ ต่างจากม๊า (รับบทโดยคุณอาภาศิริ นิติพน) ที่ไม่อาจทิ้งทั้งของและอดีตได้เลยมีฉากให้จีนกับม๊าทะเลาะกันเรื่องการทิ้งของออกมาให้เห็นเป็นระยะ ด้วยความที่อยากทำบ้านใหม่มากของจีน จึงได้มีฉากขายของเก่าบางอย่างทิ้งไป แต่มันเป็นของที่ตัดสินใจได้ลำบากมาก จนเป็นสาเหตุให้จีนกับม๊าทะเลาะกันครั้งใหญ่มากในเรื่อง และเชื่อว่าฉากนี้ถ้าคุณได้ดูจะรู้สึกเหมือนกัน มันเป็นฉากที่ทำให้รู้สึกจุกในความเรียลทั้งสีหน้าท่าทางของนักแสดงในฉากนั้นสื่ออารมณ์ออกมาได้ทรงพลังมาก จึงไม่ใช่เรื่องยากที่คนดูจะอินตามได้โดยง่าย

ชอบการเอา insight คนกับสิ่งของมีผูกเรื่องคือการทิ้งอะไรไปมันตัดสินใจยากมาก บทที่เล่นกับอารมณ์คนชอบเก็บของ แล้วไหนจะมี emotional ต่อสิ่งของ ความหลัง ความผูกพัน จนทำให้คุณตัดสินใจทิ้งมันไม่ลง จึงเป็นที่มาให้จีนตัดสินใจเอาของทุกอย่างส่งคืนเจ้าของทีของคน จนเหมือนได้นั่ง Time machine กลับไปสู่อดีตอีกครั้ง และหนึ่งในอดีตที่จีนทิ้งไปได้เจอกล้องกับฟิล์มที่พี่เอ็มฝากเอาไว้

เรื่องราวของจีนกับพี่เอ็ม (ออกแบบกับซันนี่) จีนได้ทิ้งพี่เอ็มไปเรียนต่อที่สวีเดนเป็นเวลา 3 ปี โดยที่ไม่ได้ติดต่อกลับมาเลยแม้แต่ครั้งเดียว จนเมื่อจีนได้ตัดสินใจเอากล้องไปคืนพร้อมกับขอโทษกับเรื่องที่ผ่านมาในอดีต แล้วก็พบว่าพี่เอ็มได้เยี่ยวยาตัวเองและ move on มีคนรักใหม่แล้ว

ต้องขอสารภาพเลยว่าสิ่งที่คนดูคาดหวังคือจะได้เห็นซันนี่ออกมาเรื่อยๆ ปรากฎว่าซันนี่ออกน้อยมาก แต่ใครว่าการออกมาน้อยคนจะไม่จำ คือออกน้อยแต่ต่อยหนักมากแม่ ทั้งบทพูดและอารมณ์คือมันลงตัวไปหมด แต่ละฉากที่ซันนี่ออกมาคือ impact คนดูจริงๆ ซันนี่ได้ถ่ายทอดบทพูดให้เข้าถึงใจคนดูแบบชนิดที่เรียกว่าหมัดฮุคหมักเดียวจอดเลย ยิ่งฉากสุดท้ายของการเจอกันระหว่างจีนกับพี่เอ็ม ถ้าตัวเราเป็นจีนคงตัวชาไปหมด เพราะทุกคำพูดมันตอกกลับการกระทำของจีนทุกประการ

หลังจากดูจบขอชื่นชมการเรียงลำดับเรื่อง คือมันดีมากดูแล้วเข้าใจง่ายอะ มันคือการเอาเหตุการณ์จริงๆ ที่คุณพบเจอได้มาร้อยเรียงจนเป็นบทภาพยนต์ที่สมบูรณ์แบบได้ขนาดนี้ จะเรียกว่าอะไรดี คือตัวละครมันมีชีวิตอะ มันมีความเป็นธรรมาชาติ แล้วทุกตัวละครในเรื่องเล่นออกมาได้เป็นธรรมชาติมากๆ และความธรรมชาติอีกอย่างคือนักแสดงในเรื่องหน้าสด หรือเมคอัพอ่อนมากจนแทบดูไม่ต่างจากหน้าสด ด้วยความที่ออกแบบเป็นคนหน้าเก๋อยู่แล้วหรือเปล่าเลยทำให้ไม่ขัดแถมยังน่ามองและดูได้เรื่อยๆ  ความลงตัวของภาษาการพูด ภาษากาย ที่สื่อออกมาได้เข้าถึงจิตใจของคนรุ่นใหม่ และอีกอย่างที่ชอบคือ Mood&Tone สีฟิล์มในเรื่องคือมันลงไปหมด นี่แหละพลังแห่งเต๋อ นวพล ทำหนังออกมาได้ไม่ผิดหวังจริงๆ

ถ้าให้เล่ายาวกว่านี้ก็คงจะเผลอสปอยออกมาโดยไม่รู้ตัวเป็นแน่ แต่ไม่เป็นไรเพราะหนังได้เข้าฉายแล้ว 26 ธ.ค.2562 นี้ทุกโรงภาพยนต์ ดูจบแล้วพอกลับถึงบ้านคุณจะมีไฟในการหาของเก่ามาทิ้ง และจะเกิด emotional ต่อสิ่งของชิ้นนั้นโดยไม่รู้ตัว