คำว่า “มินิมอล” ในนิยายของคุณคืออะไร? ถ้าในส่วนของเรานั้นคือความเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยความหมาย เอาตรงๆ คือตอนนี้ได้รับอิทธิพลจากหนัง “ฮาวทูทิ้ง…ทิ้งยังไงไม่ให้เหลือเธอ” มาพอสมควรจนได้เกิดคอนเทนต์นี้ขึ้นมา เพราะมันเป็นแรงบันดาลใจอย่างหนึ่งที่ทำให้เราอย่างเริ่มจัดบ้าน จัดระเบียบตัวเองใหม่และเปลี่ยนตัวเองเล็กน้อย แต่ในที่นี้จะให้ทิ้งทุกอย่างในบ้านทั้งหมดเหมือน “จีน” (ออกแบบ ในเรื่อง) ก็คงได้มีทะเลาะกับม๊าจนบ้านแตกแน่ๆ เราเลยเลือกวิธีที่ save ตัวเองสักหน่อย คือการจัดระเบียบแค่ตัวเอง อะไรก็ตามที่เป็นการจัดระเบียบให้ดูเรียบร้อยขึ้นมาคือจะทำให้หมด ไม่ว่าจะเป็นมุมส่วนตัวของตัวเองที่บ้านหรือที่ทำงาน การจัดห้องนอนตัวเองก็ได้ งั้นเรามาเริ่ม “7 days minimal challenge เปลี่ยนตัวเองในแบบมินิมอลตามฮาวทูทิ้ง” กันเถอะ

Day 01 Your workspace เริ่มจากที่ที่รกที่สุดก่อนเลยในวันแรก แค่คิดว่าจะต้องจัดโต๊ะทำงานที่บ้านก็หมดไปหนึ่งวันละ ไหนจะชั้นวางหนังสือ ลิ้นชักในโต๊ะ ของบนโต๊ะ ใต้โต๊ะ โอ้โห้! เอกสารตั้งแต่สมัยเรียนยันทำงานทุกอย่างรวมกันเละเทะหาความเป็นระเบียบไม่เจอ พอจะหยิบใช้ของทีรื้อหาทั่วโต๊ะไปหมด เอาใหม่ เริ่มใหม่ จัดค่ะ!!!

• โกยเศษใบเสร็จรับเงินทิ้งให้หมด
• แยก post-it (อันไหนไม่ใช่แล้วก็ทิ้งซะ)
• แยกประเภทหนังสือทีละชั้น (เล่มไหนที่คิดว่าอ่านบ่อยก็แยกออกอีกส่วน)
• แบ่งหมวดหมู่เอกสารด้วยคลิปหนีบกระดาษกับโพสอิทแล้วจัดใส่แฟ้ม
• หากล่องมาจัดระเบียบของใช้ในลิ้นชัก
• เช็ดทำความสะอาดและปัดขี้ฝุ่นบ่อยๆ
• เก็บสายโคมไฟ สายชาร์จต่างๆ ให้เรียบร้อย

Day 02 Practice single tasking คือการทำงานอย่างใดอย่างหนึ่งให้สำเร็จก่อนกระโดดไปทำงานอย่างอื่นเพื่อประสิทธิในการทำงาน ลองจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งใน ณ ขณะนั้นที่กำลังทำอยู่ เพราะส่วนใหญ่ในชีวิตของใครหลายคนอาจจะชอบทำอะไรหลายๆ อย่างพร้อมกันให้ลองเปลี่ยนมาโฟกัสแค่สิ่งเดียวดูนะคะ

• ลองทานอาหารโดยไม่เล่นสมาร์ทโฟน
• ลองเปิดแท็บบราว์เซอร์เดียวเวลาเล่นอินเตอร์เน็ต
• ตั้งค่าการปิดการแจ้งเตือนในทุกๆ แอพพลิเคชั่น (เพื่อให้เวลากับตัวเองมากขึ้น)
• พักสมองบ้างอย่างน้อยชั่วโมงละ 5 นาที เพื่อให้สมองได้ผ่อนคลายและไม่กดดันตัวเองจนเกินไป
• หัดเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับวันพรุ่งนี้เสมอ

Day 03 Clean up your desktop and inbox ไม่รู้เหมือนกันเป็นกันไหมที่หน้าจอเดสก์ทอปกับอีเมล์เป็นที่รกที่สุดในแล็ปท็อปเลยก็ว่าได้ เคยจัดมาแล้วหลายรอบแต่ก็กลับมารกเหมือนเดิม ในส่วนของเดสก์ทอปนั้นใช้วิธีแยกโฟลเดอร์ในโฟลเดอร์อีกที การจัดหมวดหมู่ใหญ่ๆ แล้วค่อยซอยย่อยอีกที แต่ถ้าอันไหนไม่มีหมวดก็สร้างโฟลเดอร์ other แยกไว้เลย หรือจะมีอีกโฟลเดอร์ everything ที่จัดรวมอัดทุกสิ่งทุกสิ่งไว้ในนี้ให้หมด (แอบโกงหน่อยๆ แต่ไม่เป็นไรเนอะ) มาต่อกันที่อีเมล์ดีกว่าที่จริงเราควรจะเคลียร์อีเมล์ในทุกเดือนหรือทุกอาทิตย์เพื่อความไม่สับสนในการทำงาน อันไหนที่สำคัญก็ติดดาวไว้จะได้แยกง่ายๆ แล้วพวกอีเมล์ขยะก็ไล่ลบทิ้งทันทีที่เจอเท่านี้อีเมล์ของคุณก็จะเป็นระเบียบมากขึ้น

Day 04 Declutter your mind คือการแยกจิตใจหรือความรู้สึกนั้นเอง จงอย่าลืมว่าจิตใจของคุณเองก็ต้องการพื้นที่ไม่ต่างจากการจัดสิ่งของที่ต้องทำให้โล่งเลยล่ะ การหาเวลาให้ตัวเองได้พักผ่อนจริงๆจังๆ แบบไม่มีเรื่องงานหรือเรื่องอื่นมากวนใจ ได้ใช้เวลากับตัวเองบ้าง เพื่อความผ่อนคลาย เพราะคนเรานั้นควรจะมี work life balance และค้นหาสิ่งที่ชอบทำในเวลาว่าง

• เล่นโยคะ ออกกำลังกาย
• ลองออกไปเดินเล่นสูดอากาศที่สวนสาธารณะบ้าง
• หาหนังดีๆ สักเรื่องใน Netflix ดูก่อนนอน
• เขียนไดอารี่

Day 05 Go social media free คือการตัดตัวเองออกจากโลกโซเชียล ข้อนี้ค่อนข้างหินสำหรับคนที่ติดโซเชียลมากๆ แบบอะไรกันจะให้ไม่เล่นโซเชียลเลยตลอดทั้งวันจะทำยังไงได้ขาดใจตายพอดี ถ้าไม่ได้เข้าไปเช็คความเคลื่อนไหวในโลกออนไลน์ ลองดูใหม่การไม่เล่นโซเชียลก็อาจทำให้คุณได้ใช้เวลากับสิ่งอื่นมากขึ้น หรือมีเวลาให้คนรอบข้างมากขึ้นเช่นกัน เอาง่ายๆ เลยแค่ไม่เล่นสมาร์ทโฟนระหว่างทานอาหารก็ช่วยให้มื้อนั้นมีเรื่องสนุกๆ คุยกันได้แทนที่ต่างคนต่างก้มหน้าเล่นสมาร์ทโฟน และสิ่งที่คุณจะได้กลับมาคือปัจจุบันที่กำลังทำอยู่ไม่ต้องไปสนใจคนที่อยู่ในโลกออนไลน์มากกว่าคนข้างๆ และบางทีโลกโซเชียลก็มีส่วนทำให้อารมณ์ของคุณขึ้นๆ ลงๆ ได้ด้วยนะ ความบันเทิงที่อยู่นอกโลกโซเชียลมีตั้งหลายอย่างออกมาค้นหาด้วยกันเถอะ มาเปลี่ยนกิจวัตรเดิมๆ ให้น่าตื่นเต้นด้วยการออกไปหาสิ่งใหม่ๆ ทำบ้าง

Day 06 Declutter your schedule คือการจัดตารางงานให้ดีนั้นเอง เพราะคนเรามี 24 ชั่วโมงเท่ากัน แต่การจัดสรรปันส่วนของแต่ละคนนั้นไม่เท่ากัน เคยสงสัยไหมว่าทำไมบางคนมีเวลานอนได้เยอะแถมยังมีเวลาไปออกกำลังกายด้วยทั้งๆ ที่เวลาทำงานเท่ากับเรา นั้นก็คือการตารางของตัวเองออกให้ชัดเจน ด้วยวิธีง่ายๆ ไม่ยากเลยคือการเรียงลำดับความสำคัญก่อนหลังให้ชัดเจน แล้วก็หัดปฎิเสธให้เป็นถ้าอะไรที่ไม่จำเป็นหรือเกินกว่าเหตุ ถ้าปฎิเสธได้ก็ควรปฎิเสธเพื่อไม่ให้กระสบกับตารางส่วนตัว

Day 07 Refresh your home or bedroom คือการจัดบ้านใหม่หรือจัดห้องนอนนั้นเอง แต่ในที่นี้เราเลือกทำแค่พื้นที่ที่เป็นส่วนของตัวเองอย่างห้องนอนก็ได้ เพราะแค่ห้องนอนห้องเดียวก็อ่วมแล้ว เอาแค่จัดโต๊ะเครื่องสำอางกับตู้เสื้อผ้าให้เป็นระเบียบก็แทบไม่มีแรงไปทำอย่างอื่นแล้วล่ะเนอะ เริ่มจากเปิดหน้าต่างระบายอากาศสักหน่อย จากนั้นเปลี่ยนผ้าปูที่นอนกับปลอกหมอน เช็คขี้ฝุ่นบนโต๊ะเครื่องสำอาง แยกประเภทเสื้อผ้าให้ชัดเจน อะไรที่ไม่ได้ใช้แล้วก็เอาไปทิ้งหรือถ้าของสิ่งนั้นสภาพยังดีอยู่แต่ไม่ได้ใช้ก็ควรเอาไปบริจาค สุดท้ายกวาดพื้นเช็ดพื้นเพื่อความสะอาดเป็นอันเสร็จในส่วนของการจัดห้องนอน

ชีวิตแบบมินิมอลก็ดีไม่ใช่น้อยเลยนะคะ การใช้ชีวิตในแบบที่เรียบง่ายอาจจะตอบโจทย์กับความวุ่นวายที่เจอมาตลอดทั้งวันของคนเมืองก็เป็นได้อะไรที่มันย้อนแย้งก็ไม่ได้แย่เสมอไป มา restart ตัวเองใหม่ในแบบมินิมอลกันดีกว่าค่ะ