คุณเคยสังเกตกันไหมคะ ? ว่าทำไมคนที่เป็นคู่รักกันถึงมีอะไรที่เหมือน ๆ กันไม่ว่าจะเป็นหน้าตา, ลักษณะนิสัย หรือความชอบที่เหมือนกัน เป็นต้น ซึ่งสิ่งที่เหมือนกันแล้วทำให้หลาย ๆ คนทักว่า “ต้องเป็นเนื้อคู่กันแน่ ๆ เลย ถึงได้เหมือนกันขนาดนี้” จะจริงหรือไม่ ใช่หรือมั่ว ให้วิทยาศาสตร์บอกคุณได้ค่ะ ว่าเพราะอะไร คู่รักที่อยู่ด้วยกันนาน ๆ มักมีอะไรเหมือนกัน

• คู่รักมักจะพัฒนาโค้ดลับแบบคำพูดที่รู้กันแค่สองคน
  คุณอาจจะเคยพูดถึงแฟนต่อหน้าเพื่อน ๆ ของคุณ โดยเผลอใช้ศัพท์ที่เพื่อนร่วมวงสนทนาไม่เข้าใจความหมายของสิ่งนั้น ซึ่งศัพท์ที่คุณใช้นั้นเป็นภาษาหรือโค้ดลับที่คุณกับคนรักสร้างด้วยกัน ซึ่งเป็นสัญญาณแรกของคู่รักที่มีอะไรคล้ายกันจนต้องมีโค้ดลับของกันและกัน จากงานศึกษาของคุณ Robert Hopper ศาสตราจารย์ด้านการสื่อสารจากมหาวิทยาลัยเท็กซัส พบว่า การที่คู่รักสร้างภาษาที่ใช้คุยกันสองคนนั้นช่วยสานสัมพันธ์คู่รักและเพิ่มความโรแมนติกมากขึ้น รวมถึงยังเป็นการสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวในใช้ภาษาหรือคำร่วมกันอีกด้วย โดยภาษาหรือโค้ดลับที่คู่รักคิดร่วมกันนั้นมีหลากหลายรูปแบบ ไม่ได้จำกัดแค่คำที่ใช้คุยกันเฉย ๆ แต่รวมถึงการตั้งสรรพนามให้ตนเองและคนรัก เช่น ตัวเอง, บี๋, เบบ, ไอ้ต้าว เป็นต้น และ Carol Bruess  นักวิจัยทางด้านจิตวิทยาของมหาวิทยาลัยโอไฮโอ ได้ศึกษาเรื่องความโรแมนติกของคู่รักพบว่า คู่รักคู่ไหนที่ใช้คำพูดที่รู้กันสองคนเยอะเท่าไหร่ คู่นั้นก็จะมีความสุขมากและชีวิตคู่จะยืนยาวมากยิ่งขึ้นเท่านั้น

• คู่รักมักจะเป็นตัวของตัวเองเวลาอยู่ด้วยกันสองต่อสอง
  วิธีที่คุณพูดกับคนแปลกหน้า คนรู้จัก และแม้แต่เพื่อนสนิทนั้นแตกต่างอย่างชัดเจนจากวิธีที่คุณพูดกับคู่รักของคุณเวลาอยู่ด้วยกันสองต่อสอง เพราะมนุษย์เวลาที่อยู่กับผู้อื่นจะมีอาการ “Self-monitor” ซึ่งมีผลมาจากการที่เราพยายามทำให้คนรอบข้างพอใจโดยปรับพฤติกรรมของเราให้เหมาะสมกับคนอื่นแบบเข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม แต่เมื่อคุณอยู่กับคนรักแบบสองต่อสอง คุณจะผ่อนคลายและกลายเป็นคนที่พูดได้อย่างคล่องแคล่วอย่างเป็นธรรมชาติ รวมถึงคุณจะกล้าพูดอย่างตรงไปตรงมาและเปิดกว้างมากขึ้นเพราะว่าคุณไว้เนื้อเชื่อใจกันและไม่กลัวการเป็นตัวของตัวเองต่อหน้าคนที่รักในสิ่งที่คุณเป็นได้

• คู่รักอยู่ด้วยกันนาน เวลาพูดจะคล้าย ๆ กัน 
  นอกเหนือจากคำศัพท์หรือโค้ดลับส่วนตัวที่ใช้กันระหว่างคู่รักแล้ว สิ่งที่คู่รักระยะยาวมีเหมือนกันอีกก็คือ เสียงและลักษณะการพูดที่เริ่มจะใกล้เคียงกัน ส่วนหนึ่งมาจากปรากฏการณ์ที่นักจิตวิทยาเรียกว่า “emotional contagion” หรือ “การติดต่อทางอารมณ์” โดยปกติแล้วเมื่อคนสองคนใช้เวลาอยู่ร่วมกันมากพอ พวกเขาก็จะเริ่มสังเกตและเริ่มทำตามรูปแบบการพูดของกันและกัน โดยจะเลียนแบบทุกอย่างตั้งแต่สำเนียงของอีกฝ่ายไปจนถึงลักษณะการพูด และการเว้นวรรคคำหรือประโยคต่าง ๆ

•  คู่รักที่อยู่ด้วยกันทำไมหน้าตาเหมือนกันจังเลยนะ
  นักจิตวิทยา Robert Zajonc ได้ทำการศึกษาด้วยการเปรียบเทียบภาพถ่ายคู่รักของผู้เข้าร่วมการทดลองพบว่า เมื่อ 25 ปีที่แล้วคู่รักทั้งสองมีรูปหน้าที่ไม่ได้คล้ายคลึงกันขนาดนั้น แต่เมื่อเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ จนครบ 25 ปี กลับพบว่าคู่รักมีใบหน้าเหมือนกันมากกว่า 25 ปีที่แล้ว เพราะว่าทั้งสองคนใช้กล้ามเนื้อหน้าบริเวณเดียวกันบ่อยครั้งจนหน้าของทั้งสองเริ่มเหมือนกันในเวลาต่อมา ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจแต่สิ่งนี้สะท้อนถึงสิ่งที่นักจิตวิทยาเรียกว่า “Shared coordinative structure” คือการที่คุณและคู่รักของคุณนั้นมีบางสิ่งบางอย่างของร่างกายที่คล้ายคลึงกันเช่น การพูด, การใช้สายตา, การเคลื่อนไหวต่าง ๆ และ กิริยามารยาทที่เราแสดงออกเล็ก ๆ น้อย ๆ รวมไปถึงหน้าตาอีกด้วย

หลังจากที่คุณได้ลองอ่านบทความนี้แล้ว คุณจะเข้าใจแล้วว่า คู่รักที่คบกันนาน ๆ ทำไมมีอะไรหลายอย่างที่คล้ายกัน ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องของวิทยาศาสตร์หรือถ้ามองในเรื่องของโชคชะตาก็อาจจะเป็นเนื้อคู่กันจริง ๆ อย่างที่เขาว่ากัน แต่ถ้าคุณยังไม่มีแฟนไม่เป็นไรค่ะ สักวันต้องเจอคนที่มีหลาย ๆ อย่างคล้ายคุณแน่นอน ขอให้โชคดีนะคะ

แปลและรวบรวมจาก brightside.me , independent.co.uk, qz.com, businessinsider.com