โลกหลังความตาย ถือเป็นคติความเชื่อที่ผูกพันอยู่กับทุกศาสนา แต่ละศาสนาก็จะมีความเชื่อที่แตกต่างกันไป และในแต่ละศาสนาก็จะมีนิกายที่แยกย่อยออกไป ทำให้ความต่างเพิ่มมากขึ้นไปอีก โดยพิธีศพที่ผู้คนให้ความสนใจมากที่สุดในเวลานี้ก็คงหนีไม่พ้น พิธีศพของคุณแตงโม นิดา ที่ตอนนี้กำลังจัดงานพิธีไว้อาลัยอยู่ ณ ศาสนาจักรแห่งความสุข แต่การจัดพิธีเผานั้นจะจัดแยกกันไปอีกที่หนึ่ง ซึ่งจะมีแค่ครอบครัว และคนสนิทเท่านั้นที่ไปร่วมงาน มาถึงจุดนี้หลายคนคงจะเริ่มมีคำถามว่า ทำไมคุณแตงโมที่นับถือศาสนาคริสต์ ถึงเลือกจะเผาร่าง แทนที่จะเป็นการฝัง แบบที่เราคุ้นเคยกัน วันนี้เรามีคำตอบ แต่ก่อนหน้านั้นเราไปลองดูกันก่อนว่าคติความเชื่อโลกหลังความตายของศาสนาคริสต์เป็นอย่างไร

ศาสนาคริสต์ มีนิกาย 2 นิกายที่ได้รับความนิยมสูงก็คือ นิกายโรมันคาทอลิก และนิกายโปรเตสแตนต์ ซึ่งทั้ง 2 นิกายนี้ก็จะมีความเชื่อเรื่องโลกหลังความตายที่แตกต่างกันไป โดย…

นิกายโรมันคาทอลิก จะมองความตายว่าเป็นการที่ร่างกายและวิญญาณแยกออกจากกัน ร่างกายจะสลายลงสู่พื้นดินตามเดิม ในขณะที่วิญญาณจะแยกออกมา เพื่อเดินทางไปสู่การพิพากษา ตามการกระทำที่ทำมาในตอนที่มีชีวิตอยู่ นำไปสู่ความเชื่อในเรื่องของ นรก และสวรรค์ ตามที่เราคุ้นเคยกัน ไม่เพียงเท่านั้น พวกเขายังมีความเชื่อในการคืนชีพกลับมาจากโลกหลังความตายด้วยเช่นกัน

ส่วนนิกายโปรเตสแตนต์ มองว่า การมีชีวิตอยู่นั้นเป็นเรื่องชั่วคราว แต่ชีวิตอันเป็นนิรันดร์คือชีวิตหลังความตาย การเสียชีวิตก็เหมือนเป็นการเปลี่ยนผ่าน สู่การกลับไปอยู่กับพระเจ้าบนสรวงสวรรค์ สถานที่ที่พระเจ้าเตรียมเอาไว้ให้กับเหล่าผู้ที่มีความเชื่อ ความรัก และความศรัทธาในพระองค์นั่นเอง

สำหรับการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาคริสต์นั้น ตามปกติแล้วจะมี 4 ขั้นตอนด้วยกัน ได้แก่

1.การสวดศพทางศาสนาคริสต์

2.การนำร่างผู้เสียชีวิตลงในโลงศพ

3.พิธีมิสซา

4.พิธีฝังศพที่สุสาน

สำหรับพิธีฌาปนกิจของคุณแตงโมที่เป็นการเผาร่างนั้น เป็นสิ่งที่ชาวคริสเตียนในยุคปัจจุบันให้ความสนใจกันมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะค่าใช้จ่ายในการฝังศพนั้นสูงกว่ามาก ทั้งที่ดินในการฝัง และสถานที่ในการฝัง ซึ่งมักจะมีระยะทางที่ไกลออกไป แม้ว่าอาจจะยังไม่นิยมเท่ากับการฝังศพตามปกติ แต่ชาวคริสเตียนก็ให้ความสนใจกันการเผาร่างมากขึ้นกว่าเดิมแล้วในปัจจุบัน

ขอบคุณข้อมูลจาก: Wreathmala