อีลอน มัสก์ ชื่อนี้คงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก นอกเหนือจากการเป็นผู้ก่อตั้ง Tesla และการเพิ่งจะเข้าซื้อกิจการ Twitter ที่กลายเป็นกระแสไปทั่วโลก เราก็พอจะรับรู้ว่าเขาคือชายที่ร่ำรวยที่สุด บางคนถึงขั้นขนานนามว่าเขาคือ โทนี สตาร์กในโลกแห่งความเป็นจริง เขาโดดเด่นในด้านการทำทุกอย่างออกมาตามสิ่งที่พูด บางครั้งมันอาจจะดูเกินจริง หรือบ้าบิ่นจนหลายคนขมวดคิ้ว แต่สุดท้ายเขาก็สร้างมันขึ้นมาจนทำให้โลกตกตะลึงได้ในที่สุด แต่น้อยคนที่จะรู้ว่าชีวิตวัยเด็กของเขาคนนี้ไม่ได้ง่ายดายเลยแม้แต่น้อย

เมื่อไม่นานมานี้ Maye คุณแม่วัย 74 ปีแต่ยังสวยไม่เสื่อมคลายของอีลอน มัสก์ ได้ไปร่วมรายการ Today show เธอได้เล่าถึงเรื่องราวในชีวิตวัยเด็กของลูกชาย เล่าถึงชีวิตการทำธุรกิจของเขา เส้นทางการสร้างตัวตน ไปจนถึงคำแนะนำต่าง ๆ ที่เธอมอบให้เขา อาทิ เธอเป็นคนบอกให้เขาอย่าผลิตสินค้าที่เกี่ยวข้องกับพลังงานแสงอาทิตย์, รถยนต์ไฟฟ้า หรือจรวด แต่แน่นอนว่าเขาไม่ฟังเธอสักนิดเดียว

“เขาจะทำในสิ่งที่เขาอยากทำเท่านั้นค่ะ ฉันบอกเขาว่าอย่าทำรถยนต์ไฟฟ้าเลย จรวดก็ด้วย แต่เขาก็ไม่ฟังฉันเลย”

ว่ากันว่า คนที่เกิดมาพิเศษ ไม่ว่าจะอย่างไรเขาก็จะพิเศษ นั่นทำให้ชีวิตในวัยเด็กของอีลอน มัสก์ นั้นไม่ง่ายดายเหมือนเด็กธรรมดาสามัญทั่ว ๆ ไป ซึ่งคนที่รู้ดีที่สุดว่าอีลอนเป็นอัจฉริยะก็คือ แม่ของเขา เธอเปิดเผยว่าเธอรู้ตั้งแต่เขาอายุแค่ 3 ขวบด้วยซ้ำ แต่เมื่อเธอเอาเรื่องนี้ไปคุยกับคุณครูที่โรงเรียนกลับโดนพวกเขากลอกตามองบนใส่เสียอย่างนั้น

“ฉันรู้ว่าเขาเป็นคนพิเศษมาตั้งแต่เริ่มต้นเลยค่ะ ในตอนอายุ 3 ขวบ ฉันพาเขาไปโรงเรียนเตรียมอนุบาล ฉันต้องการให้เขาเข้าเรียนที่นั่น แต่คุณครูที่นั่นกลับบอกว่าเขาต้องรออีกปีหนึ่งตามเกณฑ์ ฉันตอบกลับไปทันทีว่า ‘ไม่ ฉันมีลูกที่เป็นอัจริยะนะ’ พวกเขาก็กลอกตามองบนใส่ฉัน ทุกคนเลยค่ะ” เธอเล่าต่อไปว่า “เพราะเขาเป็นเด็กขี้อาย คนพวกนั้นเลยไม่เห็นว่าเขาเป็นอัจฉริยะ ฉันคือคนเดียวที่เขาคุยด้วย นั่นทำให้ฉันรู้ไงคะ เขาจะพูดคุยแบบเป็นเหตุเป็นผลกับฉัน แล้วก็จำทุกอย่างได้หมดเลยว่ามันมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง”

ไม่เพียงแค่ความไม่เข้าใจที่เกิดขึ้นจากคนรอบข้างเท่านั้น Maye และลูก ๆ ของเธอยังต้องเผชิญหน้ากับชีวิตครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์อีกด้วย ซึ่งคุณแม่ของชายที่ร่ำรวยที่สุดในโลกคนนี้ก็ได้เล่าให้ฟังว่ามันเป็นเพราะความสัมพันธ์ที่แสนย่ำแย่กับ Errol พ่อของลูก ๆ นั่นเอง เธอถึงขั้นเรียกเขาว่าเป็น ‘คู่ชีวิตที่น่ารังเกียจ’ ที่คอยตะโกนใช้เสียงดังกับเธออยู่เสมอ นั่นทำให้เธอตัดสินใจบอกลาและพาลูก ๆ ทั้ง 3 ออกมาเลี้ยงดูด้วยตัวเองคนเดียว

เธอเล่าว่า “การเลี้ยงลูก ๆ ไม่ยากเลยค่ะ สิ่งที่ยากก็คือการมีคู่ชีวิตที่น่ารังเกียจต่างหาก มันยากกว่ามาก ชีวิตฉันดีขึ้นเสมอเมื่อไม่มีเขา ฉันอาจจะซื้อสิ่งของอะไรไม่ได้มากมาย แต่มันก็ไม่มีใครมาคอยตะคอกใส่ฉัน มันยากนะคะที่จะหนีออกมา คุณจะกลัวมาก คุณจะไร้ความมั่นใจ คุณจะไม่รู้เลยว่าคุณจะรอดหรือเปล่า แต่สิ่งที่ต้องเลือกก็คือคุณจะกลับไปในสถานการณ์ที่น่ารังเกียจนั้นอีกไหม”

หลายปีหลังจากนั้น Maye ตัดสินใจย้ายครอบครัวของเธอไปอาศัยอยู่ที่ โตรอนโต ประเทศแคนาดา และเริ่มทำงานเลี้ยงดูลูก ๆ ของตัวเอง “ฉันทำงานทุกประเภทเลยค่ะ ฉันสอนหนังสือสองคืนต่อสัปดาห์ ซึ่งฉันต้องเดินทางด้วยรถบัส 2 ต่อ แล้วต่อด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน หลังจากนั้นก็เดินอีกครึ่งไมล์ท่ามกลางหิมะ ตอนนั้นฉันไม่มีเงินซื้อเสื้อโค้ทดี ๆ ไม่มีเงินซื้อรองเท้าดี ๆ มันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากมากค่ะ”

เธอเล่าว่า “แต่ฉันก็ต้องบอกตัวเองไว้เสมอว่า ‘ชีวิตจะต้องดีกว่านี้’ ฉันต้องคอยเตือนแบบนี้อยู่ตลอดเวลา ฉันมีลูก 3 คนต้องเลี้ยง ฉันต้องออกไปทำงานตลอด คุณจะถูกปฏิเสธเยอะมาก แต่ยังไงก็ต้องเดินหน้าต่อ”

ไม่ได้มีเพียงแค่ลูกชายของเธอเท่านั้นที่สร้างประวัติศาสตร์ แต่ Maye เองก็ทำเช่นกัน โดยเธอได้กลายเป็นนางแบบที่อายุมากที่สุดที่ได้ถ่ายภาพลงปกของนิตยสาร Sports Illustrated Swimsuit จากชีวิตที่ผ่านมาทั้งหมด แน่นอนว่าเธอไม่มีทางคาดเดาได้เลยว่าลูกชายของเธอจะกลายเป็นหนึ่งในชายที่ร่ำรวยที่สุดในโลก และคงไม่สามารถคาดเดาได้อีกว่า เขาจะสร้างบริษัทที่ประสบความสำเร็จได้มากมายขนาดนี้

ที่มา: Elon Musk’s mother discusses Twitter purchase and her ‘genius’ son | Daily Mail Online