ดอกไม้ นอกจากจะใช้เพื่อตกแต่งให้สวยงาม เป็นวัตถุแห่งความรัก เป็นเครื่องประกอบพิธีกรรมศาสนา ยังสามารถมาประกอบกอาหารได้อีกด้วย ซึ่งในรายการแข่งขันทำอาหาร เราจะเห็นผู้เข้าแข่งขันมักนำดอกไม้สดเข้ามาใส่ในจานเพื่อสร้างสีสันที่สวยงามให้กับอาหาร และอาหารบางจานก็ได้ดอกไม้เพิ่มรสชาติด้วย

ที่สำคัญคือในรายการแข่งขันทำอาหาร กรรมการมักจะพูดเสมอว่า อะไรที่เสิร์ฟใส่ไปในจานต้องทานได้ วันนี้เราเลยขอพาทุกคนมาทำความรู้จักกับดอกไม้ทานได้ 8 ชนิด รวมถึงสรรพคุณและรสชาติที่มาช่วยเสริมเติมแต่งให้จานอาหารได้รับการยกระดับมากยิ่งขึ้น

1.ดอกขจร
ดอกขจรหรือดอกสลิด เป็น ดอกเล็กสีเขียวอ่อนอมเหลือง มีวิตามินช่วยบำรุงสายตา รสจืดออกขมเล็กน้อย มีความกรอบในตัวเอง ช่วงฤดูฝนจะออกดอก อวดสายตานักกินผักและมีขายมากในหน้าฝน

2.ดอกโสนมีลักษณะมีดอกเล็กสีเหลืองสด มีมากช่วงปลายฤดูฝน มีรสจืด เต็มไปด้วยแคลเซียมและฟอสฟอรัสที่ช่วยบำรุงกระดูกและสมอง ดอกตูมจะมีรสชาติดีกว่าดอกบาน วิธีปรุงดอกโสนให้เลือกดอกตูม เด็ดก้านออก นำไปลวกจิ้มน้ำพริก ชุบแป้งทอดกรอบ ใส่ไข่เจียว ผัดน้ำมันหอย ทำขนมดอกโสน ทำสีผสมอาหารให้สีเหลืองสวยงาม

3.ดอกอัญชัน ปัจจุบันมีการปลูกเพื่อเป็นอาชีพ ภายในดอกมีสารสีม่วง ช่วยเพิ่มประโยชน์ในการมองเห็นและยังมีสารต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย วิธีปรุงดอกอัญชันกินสดๆคู่น้ำพริก ส้มตำหรือคั้นเอาน้ำสีน้ำเงินไปทำสีผสมอาหาร นอกจากนี้ยังสามารถนำไปตากแห้งใช้ชงเป็นเครื่องดื่ม เมื่อเราเติมน้ำมะนาวลงไปน้ำอัญชันก็จะกลายเป็นสีม่วงสวยงาม รสชาติดีอีกเมนูหนึ่ง

4.ดอกมะลิ มีดอกสีขาวกลิ่นหอม มีสรรพคุณทางยาแก้ปวดท้อง บำรุงครรภ์ เป็นไปดอกไม้ที่ใครๆก็รู้จักเพราะเป็นดอกไม้สัญลักษณ์แสดงถึงความรักอันบริสุทธิ์ของแม่ ดอกตูมนำมาร้อยมาลัย ทำน้ำหอมและนำมาปรุงอาหารได้ วิธีปรุงดอกมะลิให้นำดอกมะลิเด็ดขั้วออกสามารถลอยน้ำดื่ม ให้กลิ่นหอม หรือเป็นวัตถุดิบเพื่อทำข้าวแช่ และทำขนมไทยชนิดต่างๆได้เช่นคั้นกะทิกับน้ำเชื่อม

5.ดอกเฟื่องฟ้าเป็นราชินีแห่งไม้ประดับที่สวยงาม ที่เราเห็นเป็นดอกบางๆสีๆนั้นคือใบดอก เรียกง่ายๆคือใบเปลี่ยนสีนั่นเอง เนื้อสัมผัสบางเบาคล้ายกระดาษ รสชาติออกฝาด บำรุงหัวใจและระบบขับถ่ายมักนำมาชุบแป้งทอด สีสันก็จะหายไปเมื่อโดนความร้อน แต่จะนำดอกสดๆมาทำยำและส้มตำให้ประโยชน์ด้วยสีสันและมีรสชาติดีอร่อยไปอีกแบบ

6.ดอกกุหลาบเป็นดอกไม้ที่ใครๆก็ชื่นชอบหลงใหลในกลิ่นหอม สีสดใสเป็นดอกไม้ที่แทนความรักโดยเฉพาะวันวาเลนไทน์ จะมีราคาแพงและก็สามารถนำมาปรุงอาหารได้ ดอกกุหลาบเป็นได้ทั้งยา ช่วยบำรุงหัวใจเป็นยาระบายและส่วนที่นำมาปรุงอาหารใช้กลีบดอกไปทำยำกับเนื้อสัตว์เพิ่มสีสันและรสชาติหรือจะผสมในสลัดผักต่างๆ นำไปตากแห้งชงเป็นชากุหลาบที่มีรสกลมกล่อม หอมชวนดื่มเช่นกัน

7.ดอกเข็ม ลักษณะของดอกจะอยู่รวมกันเป็นช่อๆ มีมากมายหลายสี มีคุณค่าทางสมุนไพร ใช้เป็นยาบำรุงธาตุไฟ รากใช้เป็นยาแก้โรคตา รากและดอกเป็นยาแก้บิด วิธีปรุงดอกเข็มให้นำดอกมาชุบแป้งทอดคู่กับน้ำจิ้มเปรี้ยวหวานปัจจุบันมีมีการนำมาทอดรวมกับดอกไม้อื่นๆขายสร้างรายได้ ได้ไม่น้อย

8.ดอกบัวหลวง เป็นพืชน้ำอายุหลายปี มีลำต้นอยู่ใต้ดิน มีดอกเดี่ยวขนาดใหญ่อยู่ปลายก้าน มีกลีบดอกแผ่ออกโดยรอบเป็นวงกลมกลางดอกเป็นรังไข่ ดอกตูมนำมาไหว้พระและใช้ในพิธีศาสนา เหง้าบัวรากบัว ไหลบัวนำมาปรุงอาหารได้ เกสรบัวตากแห้งชงเป็นชาดื่ม เกสรใช้ผสมในยาหอมบำรุงหัวใจ บำรุงกำลังแก้วิงเวียนศีรษะ  วิธีปรุงดอกบัวหลวงให้นำกลีบดอกนำมาห่อเป็นเมี่ยงคำ เมล็ดนำมาทานสดได้ ไหลบัวก็เช่นกันสามารถนำมาทำเป็นเมนูส้มตำและเป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน รากบัวหัวบัวนำมาเชื่อมเป็นขนมหวานได้ด้วย

นี่คือส่วนหนึ่งของดอกไม้ที่กินได้ และหาได้ง่ายตามบ้านเราๆ เท่านั้น ดอกไม้กินได้มีหลายชนิด ไม่เฉพาะที่เมืองไทย ที่มีให้เลือกนำมาปรุงอาหาหาร แต่ต่างประเทศก็นิยมนำมาปรุงเป็นอาหารเช่นกัน เช่นดอกโรสแมรี่ ดอกคาร์โมมายด์ ดอกลาเวนเดอร์ เป็นต้น ดอกไม้ที่กินไม่ได้และผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้หลีกเลี่ยงการนำมาปรุงอาหาร ได้แก่ ดอกชวนชม ดอกรำเพย และดอกหญ้าสัตบรรณ ดอกไม้เหล่านี้มีพิษ มีผลกระตุ้นการเต้นของหัวใจ อาเจียน ท้องเสีย เมื่อพิษเข้าสู่กระแสเลือดอาจทำให้เสียชีวิตได้

ดังนั้นในการที่จะนำดอกไม้ชนิดต่างๆมาปรุงอาหารควรศึกษาจากผู้เชี่ยวชาญก่อน เพื่อความปลอดภัยและกินอย่างไรให้ได้ประโยชน์จาก ดอกไม้สีสันสวยงามและกินได้ กินดี มีประโยชน์ต่อเราๆทุกคน.

Copyright© Bsite.In