“We’re all born naked and the rest, is drag.” – RuPaul

เพื่อต้อนรับการกลับมาของรายการที่เผ็ชแซ่บระดับปรากฏการณ์อย่าง Drag Race Thailand Season 2 ที่กำลังออกอากาศทุกวันศุกร์ เวลา 20:00 น. ทาง LINE TV อยู่ในขณะนี้ เราจึงขอพาไปทำความรู้จักกับ Drag Icons ทั้งไทยและเทศ ทั้งรุ่นใหม่ และระดับตำนานเหล่านี้ เชื่อว่าหลายคนคือระดับท็อปที่คนทั่วโลกรู้จักเป็นอย่างดี ขณะที่บางคนคือตำนาน ผู้ทลายเส้นแบ่งของเพศสภาพ และกรุยทางให้โลกของ LGBTQ+ ในปัจจุบัน มีจุดยืนที่ไร้ขีดจำกัดอย่างแท้จริง

RuPaul 

ผู้ทรงอิทธิพลในวงการแดรกอันดับหนึ่งของโลกในปัจจุบันคงจะเป็นใครอื่นไม่ได้ถ้าไม่ใช่ “ขุ่นแม่รูพอล” คนนี้ แดรกควีนผู้ปลุกกระแสและสร้างแรงบันดาลใจให้วงการแดรกจนเป็นที่รู้จักและยอมรับอย่างกว้างขวางจากหลากหลายบทบาท โดยเฉพาะการเป็นผู้ผลิต กรรมการ และพิธีกรหลักแห่งรายการ RuPaul’s Drag Race จนมาถึงซีซั่นที่ 10 ในปัจจุบัน เรียกว่าโด่งดังไปทั่วโลกทั้งในแง่ความสนุก และคุณภาพคับจอ การันตีด้วยรางวัลพิธีกรรายการเรียลลิตี้ยอดเยี่ยมจากเวที Primetime Emmy Awards ถึง 3 ปีซ้อน (2016, 2017, 2018), หนึ่งใน 100 บุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก โดยนิตยสาร Time ปี 2017 และมีชื่อจารึกบน Hollywood Walk Of Fame อีกด้วย

Alyssa Edwards

แดรกรุ่นใหม่ บุคลิกแรงจาก Rupaul’s Drag Race Season 5 และ All Stars Season 2 ที่ดูจะมีคนจดจำได้ไม่แพ้แชมป์ พ่วงด้วยทักษะการเต้นสุดสตรองจนแม่รูพอลยังต้องออกปากชม แถมจัดรายการ Spin-off ให้ในชื่อ Haus Of Edwards ส่วนกิจการโรงเรียนสอนเต้น Beyond Belief Dance Company ก็ประสบความสำเร็จอย่างสูง ด้วยการส่งลูกศิษย์ไปคว้าแชมป์จากการแข่งขันเต้นทั่วสหรัฐ จนล่าสุดเกิดซีรี่ส์กึ่งเรียลลิตี้อย่าง Dancing Queen ให้ได้ชมทาง Netflix ด้วย

Kim Chi

ถ้าพูดถึงแดรกเชื้อสายเอเชียที่คนทั่วโลกรู้จักดี และติดโพลสำรวจความนิยมในอันดับต้นๆ ก็ต้องมีชื่อ Kim Chi ปรากฏอยู่ด้วยแทบทุกครั้งไป คิมชิ เป็นแดรกควีนเชื้อสายเกาหลี-อเมริกัน มาพร้อมบุคลิกมาดมั่นในรูปร่างพลัสไซส์กับความสูงถึง 2 เมตร และความสามารถทั้งเมคอัพและทำชุดได้อย่างสุดเริ่ดจนชนะ Main Challenge ไปถึง 2 ครั้ง และจบ Rupaul’s Drag Race Season 8 ด้วยการเข้าถึงรอบสามคนสุดท้าย คิมชิยังเป็นทั้งพรีเซนเตอร์เครื่องสำอางค์ เดินสายออกทัวร์กับแดรกตัวแม่ทั้ง Bianca Del Rio และ Michelle Visage รวมทั้งแสดงและพูดสร้างแรงบันดาลใจตามสถาบันการศึกษาทั่วสหรัฐ

Pattaya Hart

แดรกควีนเชื้อสายไทย ที่ข้ามไปโด่งดังไกลถึงนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา โดยสร้างภาพจำมาจากการติดอันดับ 1 ใน 10 สุดยอดภาพ Half Drag ซึ่งเป็นการแต่งหน้าครึ่งชายครึ่งหญิง โดยนำเอาศิลปะฟ้อนเล็บแบบไทยเข้าไปผสานอย่างลงตัว จนกลายเป็นภาพที่สื่อถึงตัวตนแดรกควีนได้อย่างชัดเจนภาพหนึ่ง นอกจากนี้ยังเคยร่วมแสดงกับเพื่อนๆ แดรกควีนในรายการดังอย่าง Saturday Night Live รวมถึงเป็นคนเอเชียคนแรกที่ได้เข้าประกวดบนเวที Miss’d America จนได้ตำแหน่งรองอันดับ 1 ในปี 2015 และล่าสุดยังได้ครองตำแหน่งสุดยอด Miss’d America ปี 2018 อีกด้วย

Pangina Heals

หรือรู้จักในชื่อ ปันปัน นาคประเสิรฐ ดีกรีตัวแม่ของวงการแดรกไทยที่โด่งดังในอันดับต้นๆ พ่วงประสบการณ์การแสดงในต่างประเทศ งานพรีเซนเตอร์ และยังเป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดีจากบทบาท Co-host และกรรมการในรายการ Drag Race Thailand ที่ใคร ๆ ก็ต้องทึ่งกับคอสตูมสุดครีเอทและบุคลิกแซ่บเวอร์ทุกครั้งที่ปรากฏตัว ส่วนลีลาการแสดงก็หาใครเทียบได้ยาก เพราะนอกจากจะนำเทรนด์การเต้น Waacking ในไทย พ่วงด้วยฉายา Thailand’s Waacking Drag Queen แล้ว ยังเป็นสุดยอดนักแสดงดาวเด่นประจำคลับแดรกอันดับต้นๆ ของประเทศอย่าง Maggie Choos อีกด้วย

Jai Sira

จากตำแหน่งชนะเลิศการประกวดแดรกควีนที่ประเทศออสเตรเลีย และเป็นเอเชียนเพียงหนึ่งเดียวที่ได้ร่วมแสดงใน House of Priscilla และ ARQ ที่ซิดนีย์ เมื่อกลับมาเมืองไทย ไจ๋ ซีร่า มีชื่อเสียงระดับตัวแม่จากการแสดงเป็นคนดัง และตัวละครต่างๆ ได้เหมือนและแซ่บอย่างน่าทึ่ง โดยเฉพาะ มาดอนนา, เอลซ่า, มาลิฟิเซ้นต์, ฮาลีย์ ควินน์ ฯลฯ ขณะเดียวกันยังได้สร้างความแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่างการเป็นนักแสดงโชว์ และศิลปิน จากความทุ่มเทครีเอทงานในทุกขั้นตอน โดยเฉพาะทักษะการแต่งหน้าที่หาตัวจับยาก จนมีผู้ติดตามการแต่งหน้าแปลงโฉมผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียร่วมแสนเลยทีเดียว

Honorable Mention คนดังผู้สร้างแรงบันดาลใจ

Lady Gaga

แรงบันดาลใจแดรกยุคใหม่จะมีใครเกินขุ่นแม่กาก้า ของเหล่า Little Monsters ไปได้ ทั้งบุคลิกและการแต่งตัวในช่วงอัลบั้มชุดแรกๆ เรียกว่าเล่นใหญ่ให้เยอะ สร้างสีสันให้กับวงการเพลงและแฟชั่นโลกเป็นอย่างมาก และแน่นอนว่าความแร๊วงของแม่ประทับใจแดรกทั้งโลกจนกลายเป็นหนึ่งในไอคอนที่แดรกตัวแม่ยังต้องกราบ ถึงขั้นได้รับเชิญไปปรากฏตัวในรายการ Rupaul’s Drag Race Season 9 จนเป็นที่ฮือฮา พร้อมพิสูจน์ว่าศิลปะแดรกนั้นไม่มีขีดจำกัด ไม่ว่าเพศสภาพใดก็เป็นควีนได้ทั้งนั้น

David Bowie

แม้จะไม่ใช่แดรกควีน แต่ในยุคที่คำนี้ยังไม่แพร่หลาย เขาคือหนึ่งในศิลปินแถวหน้าของสไตล์ Glam Rock ที่จัดเต็มทั้งเสื้อผ้าและเมคอัพสีสันฉูดฉาดราวกับหลุดมาจากดาวดวงอื่นแบบไม่แคร์กระแสหลัก พร้อมกับความกล้าท้าทายที่จะใส่กระโปรงขึ้นปกอัลบั้ม ไปจนถึงแต่งหญิงถ่ายมิวสิควิดีโอ ด้วยความตั้งใจที่จะเบลอเส้นแบ่งชายและหญิง ฟิวชั่นสไตล์และความหลากหลายทางเพศลงในการแสดงของตัวเอง จึงถือเป็นผู้ทลายเส้นแบ่งทางเพศมาตั้งแต่ยุค 70 จนคนทั้งโลกต้องยกให้เป็นตำนาน

Ezra Miller

(ภาพจากนิตยสาร Playboy)

นักแสดงฮอลลีวูดรุ่นใหม่ เจ้าของบทบาทซูเปอร์ฮีโร่ The Flash และ Credence Barebone จาก Fantastic Beasts ขึ้นแท่นเป็นแฟชั่นไอคอนคนล่าสุด แถมประกาศวาทะที่ต้องลุกขึ้นปรบมือว่า “I don’t identify as a man. I don’t identify as a woman. I barely identify as a human.” พร้อมกับรสนิยมการแต่งตัวที่น่าจับตามอง ทั้งลุคพรมแดงแบบเล่นใหญ่เว่อร์ เช่นในงานพรีเมียร์ที่ปารีสของหนังเรื่อง Fantastic Beasts : The Crimes of Grindelwald รวมไปถึงเซ็ตแฟชั่นกับนิตยสารต่างๆ ที่โชว์ทั้งเมคอัพ และลุคเอนโดรจีเนียสแบบเอาอยู่

เรียกได้ว่าเป็น 9 Drag Icons ที่หลายคนชาบูขึ้นแท่นไปแล้ว