- Lifestyle
พิธีล้างป่าช้า…ไม่มีใครอยากเป็นดวงวิญญาณที่โดดเดี่ยว
By Sanook D Pipat • on Apr 26, 2019 • 5,968 Views
ในช่วงต้นปี เรามักจะเห็นตามมูลนิธิและศาลเจ้าทั่วประเทศ จะให้มีจัดงานเก็บศพไร้ญาติ ที่มีเรื่องราวทางคดี หาญาติไม่เจอ ไม่มีหลักฐานแสดงตนว่าเป็นใคร รวมถึงญาติไม่มีทุนทรัพย์ เพื่อให้วิญญาณของท่านเหล่านั้นไปสู่สุขคติ จึงได้มีการร่วมมือกันจัดพิธีล้างป่าช้าขึ้นมา โดยมีมีจุดหมายเดียวกัน เพื่ออุทิศส่วนกุศลทำพิธีส่งวิญญาณศพไร้ญาติสู่สรวงสวรรค์ถือเป็นมหากุศลครั้งยิ่งใหญ่ วันนี้เราขอพาทุกคนไปรู้จักพิธีล้างป่าช้า ซึ่งเชื่อว่าหากใครได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งจะถือเป็นการทำบุญครั้งใหญ่เลยทีเดียว
พิธีกรรมล้างป่าช้าได้รับอิทธิพลจากชาวจีนโพ้นทะเลตามตำนานเล่าว่า เมื่อครั้งชาวจีนประสบอุทกภัยร้ายแรงทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากและได้มีนักบวชรูปหนึ่งได้เก็บศพมาทำพิธีเพื่อส่งวิญญาณขึ้นสวรรค์ โดยไม่มีท่าทีรังเกียจร่างกายที่เน่าเปื่อยส่งกลิ่นเหม็นและเมื่อชาวจีนได้ข้ามน้ำข้ามทะเลมาอยู่เมืองไทยก็ได้นำประเพณีเข้ามาด้วย หลังจากนั้นก็ได้ปฎิบัติสืบต่อกันมาจนกลายเป็นประเพณีจนถึงปัจจุบัน
การเตรียมตัว
ผู้เข้าร่วมพิธีต้องถือศีลกินเจ อย่างน้อย 3-5 วันหรือ 7,9 วัน เพื่อให้ร่างกายสะอาด และเพื่อปกป้องตนเองจากแรงอาถรรพณ์ในรูปแบบต่างๆ ที่เรามองไม่เห็น ต้องนุ่งขาวห่มขาวรักษาศีลกินเจอย่างเคร่งครัด
โดยขั้นตอนของพิธีกรรมจะเริ่มตั้งแต่การเปิดป้ายอัญเชิญกระถางธูปศักดิ์สิทธิ์ การเก็บศพไร้ญาติ ปิดป่าช้า ตลอดไปจนถึงการประชุมเพลิงและเก็บเถ้ากระดูก นำชิ้นส่วนกระดูกมาคัดแยกเรียงเป็นรูปร่างเดิม มีแขนมีขา มีศีรษะครบถ้วน ก่อนจะช่วยกันหยิบชิ้นส่วนกระดูกมาล้างด้วยน้ำเปล่า พร้อมทำความสะอาดด้วยแปรงปัดฝุ่น การขุดหาศพต่างๆ ทุกคนล้วนมีจุดมุ่งหมายเดียวกันและช่วยกันอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย โดยมีความเชื่อในเรื่องของการเรียกชื่อศพที่ขุดขึ้น ดังนี้
– ศพที่เน่าเปื่อยหรือย่อยสลายแล้ว เรียกว่า ศพแห้งหรือทองแท่ง เนื่องจากกระดูกยังเป็นแท่งๆ จึงเรียกชื่อนี้เพื่อเป็นมงคล
– ศพที่ยังไม่เน่า ไม่เปื่อย เรียกว่า ของสด หรือ มะขาม
– หากศพเป็นชายจะเรียกว่า เทพบุตร ส่วนหญิงก็จะเป็นนางฟ้า หากเป็นเด็กชายก็เรียกกุมารทอง,เป็นเด็กหญิงเรียกว่ากุมารี
พิธีล้างป่าช้า บางคนอาจจะมองว่าทำให้ศพเหล่านั้น จะมีอะไรมาตอบแทนซึ่งอาจจะเป็นความคิดของคนกลุ่มเล็กๆเท่านั้น หากแต่คนกลุ่มใหญ่ก็เปรียบว่า การล้างป่าช้าเป็นมหากุศลที่ยิ่งใหญ่ หากเราทำด้วยใจที่บริสุทธิ์แล้ว ประโยชน์ทั้งทางกาย ทางจิตใจ ทางสังคม เราก็จะได้รับผลบุญที่ตามมา เพราะศพไร้ญาตินั้นขาดพวกพ้อง พี่น้องเพื่อนฝูง เชื่อว่าดวงวิญญาณจะโดดเดี่ยว ไม่มีแม้เสียงพระสวดส่งวิญญาณ ไม่มีใครทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้
คนที่ร่วมล้างป่าช้าจึงเป็นการทำความดีด้วยความบริสุทธิ์ใจ แมไม่ใช่พี่น้อง ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนแต่ก็มีศรัทธาที่จะช่วยเหลือให้ดวงวิญญาณเหล่านั้นไปสู่ภูมิภพที่ดี ปัจจุบันงานล้างป่าช้า เป็นงานใหญ่ประจำปีของ มูลนิธิต่างๆ สหพันธ์การกุศลที่มีสาขาทั่วประเทศรวมถึงยังเชื่อว่าการล้างป่าช้าคือการสะเดาะเคราะห์ที่ยิ่งใหญ่เหนือการสะเดาะเคราะห์ด้วยพิธีกรรมอื่นๆอีกด้วย
Copyright© Bsite.In
ABOUT THE AUTHOR
Sanook D Pipat