เดี๋ยวนี้แค่วันหยุดต่อเนื่อง 3 วัน เราก็เห็นคนรอบข้างเราหลายคนขยับตัวไปเที่ยวกันเยอะแยะแล้ว ยิ่งถ้าวันหยุดยาวคงไม่ต้องพูดถึง มีหลายคนเลือกที่เดินทางไปต่างประเทศกันเลย ทั้งนี้ การเดินทางท่องเที่ยวไม่ว่าจะใกล้หรือไกลเสมือนการเปิดโลกใหม่ทำให้เราได้เรียนรู้และค้นพบกับสิ่งต่างๆ มากมาย ซึ่งการท่องเที่ยวนั้นมีหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวทางทะเล ดำน้ำ ล่องเรือ การเดินป่า การปีนเขา หรือแค่การเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจนอนเล่นอาบแดด จิบกาแฟชิลล์ๆ ตามร้านคอฟฟี่เก๋ๆ ก็ถือเป็นการท่องเที่ยวที่ทำให้เราได้พบเจออะไรใหม่ที่หลุดออกไปจากชีวิตประจำวันได้แล้ว ซึ่งก็แล้วแต่ว่าใครเลือกที่จะไปเที่ยวแบบไหน ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน

แต่ทว่า อาจมีหลายคนที่คาดไม่ถึงว่า การท่องเที่ยวหรือความสุขของคุณนั้น กำลังทำร้ายโลกที่เรารักอยู่โดยไม่รู้ตัว?

เมื่อปี 2561 มีรายงานจากสหประชาชาติระบุว่า ทั่วโลกมีปริมาณขยะพลาสติกไหลลงสู่ทะเล ประมาณ 13 ล้านตัน ในขณะที่ “ไทย” ติดอันดับ 6 ของโลกจากการจัดอันดับประเทศที่ทิ้งขยะพลาสติกในทะเลมากที่สุด โดยมีข้อมูลว่าไทยมีขยะลงสู่ทะเลถึง 1.03 ล้านตัน ในขณะที่ในปี 2560 มีตัวเลขระบุว่า ไทยมีปริมาณขยะทั่วประเทศ 27.3 ล้านตัน หรือเฉลี่ยประมาณ 74,999 ตัน/วัน นั่นหมายความว่า คนไทย 1 คนทิ้งขยะไปวันละ 1.13 กิโลกรัมต่อวันเลยทีเดียว

(ภาพที่ 2 จาก www.greenpeace.org/thailand)

น่าเศร้าไปอีก เมื่อมีข่าวเร็วๆ นี้ว่า “กวาง” สัญลักษณ์สำคัญของเมืองนารา ประเทศญี่ปุ่น สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่มีคนไทยไปเที่ยวกันมาก ตามข่าวระบุว่าสาเหตุการเสียชีวิตของกวางเพราะกินถุงพลาสติกเข้าไปนั้นมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น บางตัวถึงกับมีซากถุงพลาสติกคาอยู่ในท้องถึง 4 กิโลกรัม แสดงให้เห็นว่านักท่องเที่ยวจำนวนมากไม่ใส่ใจกับการให้อาหารกวางที่ถูกต้อง ทำให้ ‘สมาคมกวางนารา’ หรือ Nara Deer Welfare Association ต้องออกมารณรงค์ขอความร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการช่วยกันปกป้องกวางและระมัดระวังการให้อาหารมากขึ้น แล้วแนะนำให้แจกแต่ขนมเซมเบ้ที่ย่อยง่าย สำคัญที่สุดเลยคือไม่ควรนำถุงพลาสติกใส่อาหารเข้าไป เพราะกวางไม่สามารถแยกแยะได้ว่าอันไหนกินได้หรือไม่ได้

(ภาพที่ 3 จาก soranews24.com)

เรื่องราวเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นเลย ถ้าทุกคนเที่ยวอย่างมีความรับผิดชอบ แต่ยังโชคดีที่สถานการณ์เหล่านี้ไม่ได้ถูกเมินเฉย เราเห็นการเคลื่อนไหวของภาครัฐและเอกชนใหญ่ๆ มากกมายที่ร่วมกันผลักดันการดูแลสิ่งแวดล้อมมากขึ้น อาทิ “อดิดาส” ที่ผลิตรองเท้าสนีกเกอร์ที่ทำจากขยะพลาสติกในทะเล หรือ “สตาร์บัคส์” เปิดตัวแก้วแบบพิเศษที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ (Reusable Cup) ​ในประเทศสหรัฐอเมริกา แคนาดา และสหราชอาณาจักร ซึ่งได้ผลตอบรับที่ดีจากลูกค้า และสามารถทำยอดจำหน่ายได้มากกว่า 25 ล้านใบทั่วโลก

ประเทศไทยเราก็ไม่ได้น้อยหน้า ทั้งภาครัฐและเอกชนก็ร่วมมือกันอย่างเข้มแข็งเพื่อลดปัญหาขยะพลาสติกให้ได้ อาทิ “เซเว่น” ชวนลูกค้าปฏิเสธไม่รับถุงพลาสติกทำให้ยอดการใช้ลดลงไปได้กว่า 50 ล้านชิ้น หรือ “กลุ่มเซ็นทรัล” ประกาศว่างดแจกถุงพลาสติกทุกวันอังคารเริ่ม 5 มิถุนายนที่ผ่านมา พร้อมตั้งเป้าสิ้นปีนี้ถุงพลาสติกจะต้องลดลง 150 ล้านใบ

หรือแม้แต้ร้าน “ฌานา” ร้านอาหารสุขภาพ ที่สยามเซ็นเตอร์ ก็มีแนวคิดอยากจะช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกต่างๆ จึงได้จัดทำกล่องข้าวรักษ์โลก “Charna Change Set” ที่ใช้ผลิตภัณฑ์จากฟางข้าวสาลีมาทำเป็นกล่องข้าวใส่อาหาร มีขวดน้ำ และกระเป๋าเก็บอุณหภูมิ เพื่อสนับสนุนให้เกิดพฤติกรรมการกลับมาใช้ซ้ำไม่สร้างขยะพลาสติกเพิ่มเติม แล้วถ้าใครเอากล่องข้าวหรือขวดน้ำมาซื้ออาหารและน้ำที่ร้านยังได้ส่วนลด 10 บาทสำหรับข้าว และส่วนลด 5 บาทสำหรับน้ำด้วย  

(ภาพที่ 4)

ถึงเวลาแล้วที่การเติมเต็มประสบการณ์และการสร้างความสุขในชีวิตผ่านการเดินทางของคุณ จะมีส่วนช่วยในการดูแลโลกใบนี้ไปด้วยกัน ดังนั้น อยากให้ทุกๆ ย่างก้าวและทุกๆ รอยเท้าที่คุณเหยียบเดินไปนั้น เปี่ยมไปด้วยความรับผิดชอบต่อโลกต่อคนรุ่นหลัง เพื่ออนาคตของเราทุกคนในวันพรุ่งนี้ มาร่วมเปลี่ยนแปลงกันตั้งแต่วันนี้เถอะ.