สยามเจมส์ กรุ๊ป เดินหน้าโครงการ “สืบสานงานเงิน” ลงพื้นที่เพื่อคัดเลือกผู้ประกอบการและช่างฝีมือเครื่องเงินเข้าร่วมโครงการที่จังหวัดน่านและสุรินทร์ เมื่อเร็วๆนี้ที่ผ่านมา โดยได้ผู้ประกอบการและช่างฝีมือรวมทั้งสิ้น 12 รายจากทั่วประเทศ ที่จะเข้าร่วมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในลำดับถัดไป เพื่อมุ่งยกระดับสินค้าไทยให้ตรงความต้องการของตลาดเป้าหมาย ตามนโยบายของรัฐบาลด้านการพัฒนาชุมชนและเศรษฐกิจของประเทศ

นายฐวัฒน์ สมมะโนพัฒน์ ผู้อำนวยการการตลาด สยามเจมส์ กรุ๊ป กล่าวถึงภาพรวมของกิจกรรม Mini Matching ซึ่งจัดขึ้นที่จังหวัดน่านและจังหวัดสุรินทร์ว่า ได้รับการตอบรับเป็นที่น่าพอใจมาก โดยมีผู้เข้าร่วมทั้งสิ้นถึง 33 รายจากทั่วประเทศ โดยเป้าหมายของการจัดกิจกรรม Mini Matching นั้น เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการและช่างฝีมือเครื่องเงินได้นำเสนอสินค้าเพื่อขยายช่องทางการค้ากับคณะกรรมการผู้ทรงวุฒิ

อันประกอบไปด้วย ทีมผู้บริหารจากสยามเจมส์ กรุ๊ป และผู้เชี่ยวชาญ โดยผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติตรงกับที่กำหนดไว้จะได้รับสิทธิ์เซ็นสัญญาจำหน่ายสินค้ากับทางสยามเจมส์ กรุ๊ป ซึ่งจากกิจรรมครั้งนี้มีทั้งหมด 4 ราย ส่วนผู้ประกอบการและช่างฝีมือที่มีศักยภาพและผลงานที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมการอบรมเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์กับโครงการในลำดับต่อไปนั้นมีทั้งหมด 12 รายจากทั่วประเทศ

สำหรับผู้ประกอบการที่ผ่านเข้ารอบทั้งหมด 12 รายนั้น ได้แก่ ร้านเครื่องเงินวัวลาย จ.เชียงใหม่, ร้านนำชัยเครื่องเงิน จ.น่าน , ร้านแอลฟ่าคราฟท์เวอร์ค จ.น่าน, ร้านมนตรีเครื่องเงิน จ.สุโขทัย , ร้านไหมเงิน จ.สุโขทัย, ร้านปัณณะศรัล จ.นนทบุรี, ร้านแอท สยาม จิวเวลรี จ.ปทุมธานี, ร้านปัญพัท จ.กาญจนบุรี, ร้านธนาภรณ์จิวเวอรี่ จ.จันทบุรี, กลุ่มหัตถกรรมศิลปาชีพอีสานใต้ จ.สุรินทร์, ร้านรุ่งเรืองเครื่องประดับ จ.สุรินทร์, ร้านบุ ดุน โลหะ จ.นครศรีธรรมราช

นายณัฐพล ปฐมกุล ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารสินค้า สยามเจมส์ กรุ๊ป กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ประกอบการที่เข้าสู่การพัฒนาสินค้าทั้ง 12 รายนั้นมีความน่าสนใจที่แตกต่างกัน โดยแต่ละรายมีอัตลักษณ์ของงานที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น งานสลักดุนของเครื่องเงินน่าน งานถักลายที่ละเอียดประณีตและการลงยาของเครื่องเงินสุโขทัย งานลูกประเกือมและตะเกาเงินในลวดลายที่หลากหลายของสุรินทร์ การหล่อเงินหุ้มพลอยของจังหวัดจันบุรี งานนิลของกาญจนบุรี หรือแม้แต่เทคนิคการบุดุนเงินกับไม้ของนครศรีธรรมราช ล้วนเป็นงานฝีมือที่งดงามทรงคุณค่า ควรค่าแก่การสืบสานต่อไป และเชื่อว่าเป็นที่ชื่นชอบของทั้งชาวไทยและต่างประเทศอย่างแน่นอน

สำหรับผู้ประกอบการทั้งหมด 12 รายที่ผ่านเข้ารอบสู่การอบรมนั้น จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับการออกแบบพัฒนาสินค้าที่สอดรับกับความชื่นชอบ และพฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าของนักท่องเที่ยว กับผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด และการออกแบบพัฒนาผลิตภัณฑ์จากภูมิปัญญาไทยสู่เครื่องประดับร่วมสมัยโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด อีกทั้งยังได้รับงบประมาณในการสนับสนุนเพื่อพัฒนาสินค้า 50,000 บาทต่อรายตลอดโครงการ และรับสิทธิ์เซ็นสัญญาจำหน่ายสินค้ากับทางสยามเจมส์ กรุ๊ปต่อไป

ทั้งนี้ ผลงานที่ผ่านการพัฒนาทั้งหมด ภายใต้โครงการ “สืบสานงานเงิน” จะได้รับการจัดแสดงสู่สาธารณชน ในวันที่ 18 ธันวาคม 2561 ณ ลานแฟชั่นฮอลล์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน อีกด้วยสามารถติดตามรายละเอียดโครงการได้ทาง Facebook :สืบสานงานเงิน และ Line@ : @SilverCraftForThai