กรุงเทพฯ 7 มกราคม 2564 – ใกล้เข้ามาสำหรับรายการ เดอะ บลู คาร์เพท โชว์ ฟอร์ ยูนิเซฟ (The Blue Carpet Show for UNICEF) ครั้งที่ 3 ที่จะถ่ายทอดสดในวันอาทิตย์ที่ 17 มกราคม 2564 เวลา 18.00 น.เป็นต้นไป ทางช่อง 7HD หนึ่งความพิเศษที่เป็นไฮไลท์ของรายการในทุกปี คือ หนังสั้น การลงพื้นที่จริงของเหล่าเซเลบคนดัง เพื่อสัมผัสความยากลำบากในการใช้ชีวิตของเด็ก  ๆ เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวเหล่านั้นสู่สายตาของคนทั้งประเทศ โดยในปีนี้ได้ 4 คนดัง ได้แก่ อานันท์ ปันยารชุน ทูตสันถวไมตรี องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย, ต่อง – สาวิตรี สามิภักดิ์, เป๊ก – ผลิตโชค อายนบุตร และ ไมค์ – ภัทรเดช สงวนความดี มาถ่ายทอดหนังสั้น 4 เรื่อง ซึ่งเป็นเรื่องราวความเดือดร้อนของเด็กในประเทศไทย และจากอีกซีกโลกหนึ่ง คือ เซียร์ราลีโอน ในแอฟริกา

เป๊ก ผลิตโชค กล่าวว่า “ผมได้เดินทางไปที่อ. ฝาง จ. เชียงใหม่เพื่อเยี่ยมครอบครัวอของน้องลู่ เป็นครอบครัวที่มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ลำบากมาก น้องอาศัยอยู่ในบ้านที่ไม่ใช่บ้าน แต่เป็นเล้าไก่ ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวก ไม่มีแม้แต่ที่นอนหรืออุปกรณ์ทำอาหาร จากเดิมที่ลำบากอยู่แล้วยิ่งเจอกับสถานการณ์โควิด19 ทำให้ลำบากมากขึ้นอีกหลายเท่า ครอบครัวของน้องแทบไม่มีรายได้เลย ผมขอบคุณยูนิเซฟที่พาผมให้ได้มาเห็น ได้มาสัมผัสชีวิตจริง ๆ ทำให้เห็นว่ายังมีเด็กอีกมากมายทั้งในประเทศไทยและในโลก ที่ไม่ได้เกิดมาพร้อมโอกาสและความโชคดีเหมือนคนอื่น ผมพยายามทำหน้าที่ของผมให้ดีที่สุด ถ่ายทอดเรื่องราวของน้อง ๆ ที่กำลังใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก เพื่อเล่าให้ทุกคนได้รับรู้ ผมหวังว่าผมจะสามารถเป็นสะพานบุญให้พวกเราได้มาร่วมด้วยช่วยเหลือพวกเขาไปด้วยกันนะครับ ผมเชื่อว่าน้อง ๆ จะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน สุดท้ายอยากฝากให้แฟน ๆ  รอติดตามชมหนังสั้นของผม และอีก 3 เรื่องที่จะได้รับชมพร้อมกันครั้งแรกในรายการ เดอะ บลู คาร์เพท โชว์ ฟอร์ ยูนิเซฟ ครั้งที่ 3 ในวันอาทิตย์ที่ 17 มกราคมที่จะถึงนี้ แล้วพบกันนะครับ”

ไมค์ ภัทรเดช กล่าวว่า “ผมได้รับหน้าที่ถ่ายทอดเรื่องราวของ  เดวิด แฮร์วู้ด ศิลปินชื่อดังชาวอังกฤษ ที่เดินทางไปเซียร์ราลีโอน เพื่อติดตามดูการทำงานและความช่วยเหลือของยูนิเซฟ ว่าเงินบริจาคจากแรงน้ำใจของคนทั่วโลก ถูกนำไปจัดสรรอย่างไรบ้าง ผู้คนที่นั่นใช้ชีวิตค่อนข้างลำบากและอยู่ในถิ่นทุรกันดาร สถานพยาบาลที่ใกล้ที่สุดก็ห่างไกลเกินกว่าที่พวกเขาจะเดินทางไปถึงได้อย่างทันเวลา ทำให้ปัญหาการเสียชีวิตของเด็กแรกเกิดสูงมาก เงินบริจาคได้ถูกนำไปสร้างสถานพยาบาลและจัดหาอุปกรณ์ช่วยชีวิตที่จำเป็น ทำให้เด็ก ๆ รอดชีวิตและลืมตาดูโลกมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า  ผมรู้สึกว่าพวกเราโชคดีมากที่เวลาเจ็บป่วย เรามีโรงพยาบาลมีคุณหมอที่พร้อมจะรักษาเรา แต่พวกเขาไม่ได้โชคดีเหมือนเรา เงินบริจาคเพียงคนละเล็กละน้อย  สามารถร่วมกันเพื่อมอบลมหายใจให้พวกเขาและครอบครัวได้ ผมรู้สึกภูมิใจและดีใจมากที่ได้มีโอกาสมาร่วมถ่ายทอดหนังสั้นในครั้งนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าแฟน ๆ ของผมและทุกคนจะมีโอกาสได้เห็นหนังสั้นเรื่องนี้ และเราสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือพวกเขาร่วมกับยูนิเซฟได้ครับ”