- Family
โจรไซเบอร์ระบาดหนัก พ่อแม่ควรดูแลอย่างไร ไม่ให้ลูกตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมออนไลน์
By DiamondP • on Sep 15, 2022 • 1,437 Views
กลายเป็นข่าวสะเทือนใจขึ้นมาในสังคม เมื่อมีข่าวเด็กชายชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ถูกชายอีกคนที่ปลอมโปรไฟล์บนโซเชียลมีเดียเป็นหญิงสาวสวย หลอกพูดคุยและให้ถ่ายคลิป และภาพอนาจาร หลังจากนั้นก็นำภาพมาแบล็กเมล์ ขู่รีดไถเงิน จนทำให้เด็กเกิดความเครียด นำไปสู่เหตุการณ์เศร้า น้อง ม.5 คนนี้ตัดสินใจขโมยปืนของพ่อมาก่อเหตุยิงตัวเองเสียชีวิต แม้ว่าคดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาได้แล้ว แต่ปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรก และมันอาจจะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย เพราะอาชญากรรมออนไลน์มันยากต่อการควบคุม และมันสามารถพัฒนาไปได้เรื่อย ๆ ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ เราจะหาวิธีป้องกันเรื่องเหล่านี้อย่างไร
สิ่งหนึ่งที่เราต้องยอมรับร่วมกันก่อนก็คือ เด็กและวัยรุ่น นอกเหนือไปจากโรงเรียนแล้ว สถาบันที่ใกล้ชิดกับพวกเขามากที่สุดก็คือ สถาบันครอบครัว การดูแลและป้องกันทั้งหมดก็จำเป็นต้องเริ่มต้นที่จุดนี้ด้วยเช่นกัน แน่นอนว่าโลกออนไลน์ หรือโซเชียลมีเดียของเด็กนั้นเป็นเรื่องส่วนตัว พ่อและแม่ไม่ควรล่วงละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวตรงนี้ แต่เรายังมีวิธีที่สามารถปลูกฝังให้ลูก ๆ สามารถรู้เท่าทันเรื่องพวกนี้ได้
อย่างแรกเลยก็คือ เราต้องให้พวกเขาทำความเข้าใจก่อนว่า การจะโพสต์อะไรลงไปในโซเชียลมีเดียนั้น มันจะคงอยู่บนโลกออนไลน์นั้นตลอดไป ยากเหลือเกินที่จะถูกลบให้หายไปได้ เพราะเมื่อตัดสินใจโพสต์ไปแล้ว เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าอีกฝ่ายจะเซฟข้อมูลนั้นเก็บไว้หรือไม่ หรือเขาจะส่งต่อไปให้ใครหรือเปล่า ถ้าเด็ก ๆ เข้าใจในตรงจุดนี้ เขาก็จะสามารถระมัดระวังตัวได้มากขึ้น ไม่ปล่อยภาพส่วนตัว หรือข้อมูลส่วนตัวใด ๆ ให้กับคนที่ไม่คุ้นเคย
การสื่อสารระหว่างครอบครัวเองก็เป็นสิ่งสำคัญ อย่างที่ทราบกันว่าในช่วงวัยรุ่นนั้น เป็นวัยที่อยากรู้อยากลอง ทำให้วิจารณญาณในการไตร่ตรองนั้นอาจจะยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นัก และเมื่อพ่อหรือแม่พูดคุยสั่งสอน หากเข้าไปพูดผิดวิธี จากการยอมรับก็อาจจะกลายเป็นการต่อต้านไปก็ได้ การใช้จิตวิทยาทำความเข้าใจจึงเป็นสิ่งสำคัญที่พ่อและแม่ควรจะต้องเรียนรู้ อาจจะเริ่มต้นจากการเปิดใจกว้าง ไม่ด่วนตัดสินสิ่งใดไปก่อน แล้วดุด่าว่ากล่าวโดยไม่ฟังเหตุผล การรับฟังนั้นสำคัญมาก ๆ สำหรับเด็กวัยนี้
แต่ถ้า มันเกิดปัญหาขึ้นมาแล้ว สิ่งที่ต้องทำเป็นอย่างแรกเลยก็คือ การทำให้เด็กพวกเขารู้ว่า เขาจะมีพ่อและแม่อยู่ด้วยเสมอ ไม่ว่าเรื่องราวมันจะเลวร้ายขนาดไหน ครอบครัวจะผ่านมันไปด้วยกัน หลังจากนั้นก็คอยดูแลสภาพจิตใจของพวกเขาอย่างใกล้ชิด ทำความเข้าใจว่าทุกคนสามารถผิดพลาดได้ ซึ่งสิ่งสำคัญก็คือ เมื่อผิดพลาดแล้ว เราจะยอมรับและแก้ไขมัน หรือเลือกที่จะหนีมันไป สุดท้ายคือเชื่อมั่นใจตัวของพวกเขาว่าถ้าผ่านเหตุการณ์ร้ายในครั้งนี้ไปได้แล้ว มันจะกลายเป็นบทเรียนและทำให้พวกเขาเติบโตขึ้น
ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวไปนั้น มันมีจุดเริ่มต้นง่าย ๆ มาจากการสื่อสารกันในครอบครัว หากทุกคนในครอบครัวมีการสื่อสารกันอย่างสม่ำเสมอ ไม่ทำให้ลูกรู้สึกห่างเหินจนไม่กล้าจะเปิดใจ เมื่อมันเกิดปัญหาขึ้น พ่อและแม่จะกลายเป็นตัวเลือกแรกที่พวกเขาเข้ามาขอความช่วยเหลือ แต่ถ้าคนเป็นพ่อและแม่ตั้งป้อมขึ้นมาแต่แรกว่า ลูกจะไม่สามารถผิดพลาดได้ ทุกอย่างจะต้องสมบูรณ์แบบ นั่นจะกลายเป็นความกดดันที่อาจนำไปสู่ปัญหาที่ท้ายที่สุดแล้วเราจะแก้ไขมันไม่ทัน
เพราะฉะนั้นอย่าลืมว่า… บางครั้งเราก็ต้องปล่อยให้ลูกผิดพลาดบ้าง เขาจะได้เรียนรู้ และเติบโตขึ้น หน้าที่ของคนเป็นพ่อและแม่ อาจจะไม่มีอะไรซับซ้อน นอกเหนือไปจากการทำให้พวกเขาแน่ใจว่า คุณจะอยู่ข้าง ๆ เขาไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ABOUT THE AUTHOR
DiamondP
คนอยากเขียน กับความสนใจเยอะแยะ และเราเชื่อว่า คนทุกคนเท่าเทียมกัน