ไฟป่า กับ แคลิฟอร์เนีย นี่แทบจะเป็นของคู่กันเลยหล่ะครับ ไหม้กันแทบทุกปี เกิดแต่ละครั้งก็เสียหายกันไปไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะพื้นที่ป่าอันกว้างใหญ่ไพศาล จึงยากที่จะระงับเหตุ

เทียบกันง่ายๆ พื้นที่ของรัฐแคลิฟอร์เนีย มีขนาด 423,970 ตร.กม. เทียบประเทศไทยทั้งประเทศที่มีขนาด 513,120 ตร.กม. ก็คงพอนึกออกนะครับ

แต่ปี 2018 ก็เป็นปีแห่งการทำลายล้างจากไฟป่าในแคลิฟอร์เนีย สร้างประวัติศาสตร์ มีไฟไหม้ป่าถึง 7,579 จุด ในพื้นที่ 6,749.57 ตร.กม. เทียบให้เห็นภาพก็ประมาณ จังหวัดอุทัยธานีทั้งจังหวัด

รู้จักไฟป่านามว่า Camp Fire

วันที่ 8 พ.ย. ปี 2018 ก็เป็นอีกหนึ่งในเหตุการณ์ของปีเช่นกัน กับไฟป่าที่ชื่อว่า “Camp Fire” ตั้งชื่อตามถนน Camp Creek มณฑล บิวท์ เคาน์ตี้ (Butte County) ทางตอนเหนือของแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นจุดกำเนิดของไฟป่าครั้งนี้

ไฟป่า “Camp Fire” ได้สร้างสถิติที่ไม่น่าจดจำให้กับรัฐแคลิฟอร์เนียในเรื่อง การสูญเสีย และ การทำลายล้างสูงสุดในหน้าประวัติศาสตร์ โดยสูญเสียพลเรือนไม่ต่ำกว่า 56 ราย (ยังอยู่ในระหว่างการสอบสวน) บ้านเรือนถูกเผาไหม้แล้วไม่ต่ำกว่า 10,321 หลังคาเรือน และ พื้นที่เผาไหม้สูงถึง 558 ตร.กม. (นึกง่ายๆ ก็จังหวัด ภูเก็ตทั้งเกาะอ่ะครับ)

แต่สถานการณ์ที่เลวร้าย ก็ได้สร้างวีรบุรุษขึ้นมาครับในงานนี้ วีรบุรุษที่นอกเหนือจากนักดับเพลิงและหน่วยสาธารณภัยของรัฐที่เต็มใจปฏิบัติงานครั้งนี้อยู่แล้ว

วีรบุรุษคนนี้ เป็นบุรุษพยาบาลในเมืองพาราไดซ์ ที่มีนามว่า Allyn Pierce (อัลลิน เพียร์ซ)

ในช่วงที่ไฟกำลังโหมกระหน่ำรอบๆ เมือง บุรุษพยาบาลอัลลิน เพียร์ซ และ เพื่อนร่วมงานอีก 2  คน ได้ตัดสินใจอย่างไม่รีรอ รีบสตาร์ทรถกระบะโตโยต้าคู่ใจ ที่มีชื่อรุ่นว่า Tundra (ทุนดร้า) มุ่งหน้าไปยังที่ปลอดภัยในทันที

แต่โชคชะตาก็ไม่ได้ง่ายซะทีเดียว รถของเขาก็ไปติดแออัดกับผู้อพยพคนอื่นๆ ในเมือง เท่านั้นคงยังไม่พอ ในเมื่อเขาเริ่มมองเห็นว่า รถเค้าเองอยู่ท่ามกลางเปลวเพลิงและไฟก็เริ่มลามมาติดที่รถเค้า ขณะที่เค้าเห็นรถรอบๆ ข้าง เริ่มไหม้แล้ว ก็คิดว่าเค้าคงเป็นคันต่อไป ที่ถูกเผาเช่นกัน

แม้เค้าเองจะพยายามเอาเสื้อโค้ทมาบังเปลวไฟไว้ที่หน้าต่างรถ มันก็ไม่ได้ช่วยลดความร้อนของไฟได้สักนิด เค้าจึงเปิดเพลง “In Your Eye” ของ Peter Gabriel เพื่อบรรเทาจิตใจเค้าให้สงบลงจากเปลวเพลิงแทน และเริ่มอัดคลิปอำลาครอบครัวไว้ล่วงหน้าเผื่อใจไว้หากไม่รอดจากงานนี้  

(เพลง  In Your Eye เป็นเพลงเดียวกันกับที่ John Cusack ยกวิทยุเปิดเพลงง้อหญิงในหนังเรื่อง “Say Anything” ฉากในตำนานเลยนะครับ)

[wonderplugin_video iframe=”https://www.youtube.com/watch?v=s9CD4_3wChM” videowidth=600 videoheight=400 keepaspectratio=1 videocss=”position:relative;display:block;background-color:#000;overflow:hidden;max-width:100%;margin:0 auto;” playbutton=”https://bsite.in/wp-content/plugins/wonderplugin-video-embed/engine/playvideo-64-64-0.png”]

แต่หลังจากนั้นพระเจ้าก็เข้าข้างเค้า รถแทรกเตอร์ได้โผล่เข้ามาถูกที่ถูกเวลาพอดี ไถเอารถที่ไฟไหม้ที่ขวางทางรถเค้าอยู่ ทำให้มีช่องว่างให้รถเค้าขับออกได้แบบพอดีคัน แต่แทนที่จะขับไปข้างหน้าไปยังพื้นที่ที่ปลอดภัย แต่เค้าเลือกที่วนรถกลับฝ่าเปลวไฟที่กำลังลุกไหม้ไปยังใจกลางเมืองแทน มุ่งหน้าไปที่โรงพยาบาลที่เค้าทำงาน เพื่อไปช่วยผู้บาดเจ็บและผู้ป่วยที่นั่น

เมื่อไปถึงยังโรงพยาบาล อัลลิน เพียร์ซ ได้เห็นการคัดแยกผู้ป่วยและเตรียมการอพยพ ในลานจอดรถของโรงพยาบาล ขณะที่เปลวเพลิงเริ่มทำลายล้างอาคารของโรงพยาบาล เค้าจึงไปช่วยเจ้าหน้าที่เหล่านั้นอพยพผู้ป่วยโดยขับรถออกเป็นขบวนไปยังจุดปลอดภัยได้สำเร็จ

หลังจากเหตุการณ์

เค้าปฏิเสธที่จะเป็นฮีโร่ในงานนี้ เค้าเพียงบอกว่ามันเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ต้องทำมันอยู่แล้ว แม้ตัวเค้าเองจะสูญเสียบ้านและที่ทำงานไปก็ตาม

เค้ายังโพสท์เฟซบุคขอบคุณ รถโตโยต้าทุนดร้าคู่ใจของเขา ที่ทนทายาท ฝ่าดงไฟแล้วยังขับไปถึงที่หมายแถมช่วยได้หลายชีวิตอีกต่างหาก ซึ่งเค้ายังกล่าวถึง (Mention) เฟซบุคของ Toyota USA (@toyota) ไว้ด้วย

Toyota USA ไม่รอช้า สำหรับช่วงเวลาการ PR ที่เหมาะเจาะเช่นนี้ ได้ตอบคอมเมนท์ในโพสท์ของอัลลิน เพียร์ซในอีก 4 วันต่อมาว่า

“สวัสดีอัลลิน, เรามิอาจเทียบกับความกล้าหาญของคุณในการเสี่ยงชีวิตโดยขับโตโยต้าทุนดร้าไปช่วยชีวิตผู้อื่นอย่างปลอดภัยในครั้งนี้ อย่าได้ห่วงกับความเสียหายของรถคุณเลย เรารู้สึกเป็นเกียรติ์เป็นอย่างยิ่ง ที่มอบรถคันใหม่ได้แก่คุณ”

ก็นับว่าเป็นความภาคภูมิกันทุกฝ่ายนะครับ ทั้งผู้ให้และผู้รับ หวังว่าเรื่องดีดีแบบนี้จะสร้างกำลังใจให้แก่ผู้ที่อุทิศตนแก่สังคมต่อๆ ไป

สุขสวัสดิ์จงมีแด่ท่าน,

W.

ที่มา : Allyn Pierce, Jack Nicas& The New York Times