กลายเป็นประเด็นสะเทือนวงการโทรทัศน์ เมื่อผู้จัดรายการและเจ้าของสิทธิ์ หลายรายการย้ายหนีจากช่องใหญ่ที่มีเรตติ้งอันดับต้นๆ ของประเทศ หันไปออกอากาศ ช่องพีพีทีวี 36 แทน แต่ละรายการที่ย้ายไปถือว่าเป็นตัวเรียกเรตติ้งและสร้างกระแสปังๆ ให้กับช่องนั้นมาแล้ว

วันนี้เราขอพาทุกคนมาสำรวจว่ารายการไหนบ้างที่ ย้ายมาอยู่บ้านหลังใหม่ สถานีโทรทัศน์พีพีทีวี ถือได้ว่าเป็นช่องทีวีดิจิตอลที่ทุนหนาพอสมควรเพราะเป็นของ บริษัท บางกอกมีเดียแอนด์บรอดคาสติง จำกัด มี นายแพทย์ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ เป็นผู้บริหารสูงสุด (บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ, เจ้าของกลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพ, บมจ.การบินกรุงเทพ (BA) หรือบางกอกแอร์เวย์ส)

รายการแรกที่ออกอากาศไปแล้วคือ The Face Men Thailand ซีซั่น 2 ของกันตนา

เดิมทีออกอากาศอยู่กับช่อง 3 เปลี่ยนมาช่องพีพีทีวี ทุกวันอาทิตย์ เวลา 20.15-21.45 น. โดยมีข่าวมาก่อนหน้านี้ว่า เดิมทีกันตนาอยากได้ช่วงเวลาออกอากาศในช่วงเย็นวันเสาร์ของช่อง 3 แต่ติดที่ว่าช่วงเวลาดังกล่าวมีรายการประจำอยู่แล้ว ทำให้กันตนาหันไปเจรจากับพีพีทีวีแทน โดยทาง นายปิยะรัฐ กัลย์จาฤก ผู้อำนวยการบริษัท กันตนา กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ก็ได้ออกมาเคลียร์ชัดเจนว่าสาเหตุที่ย้ายมาช่องใหม่เพราะมาเสริมความแข็งแกร่งในกลุ่มผู้ชมหลักและขยายฐานไปยังคนดูกลุ่มใหม่ๆ แทน

จากการออกอากาศของ The Face Men Thailand ซีซั่น 2 มีการเปลี่ยนรูปแบบรายการต่างจากที่ออกอากาศช่อง 3 มี โทนี่ รากแก่น, หมู อาซาว่า, ซอนย่า คูลลิ่ง เป็นเมนเทอร์ประจำทีม และ ลูกเกด เมทินี เป็นมาสเตอร์เมนเทอร์ ทั้งนี้ยังไม่มีความแน่ชัดว่ารายการ The Face Thailand ที่เป็นการค้นหานางแบบผู้หญิงนั้นยังคงอยู่กับช่อง 3 หรือจะย้ายมาอยู่บ้านใหม่ตามมาด้วย สำหรับช่องทางออนไลน์ดูย้อนหลัง ทางรายการผูกคอนเทนท์กับ Line TV ต่างจากเดิมที่มีการอัพโหลดรายการเต็มๆ ลงบนช่องยูทูป

รายการ The Voice Thailand เสียงจริง ตัวจริง

เป็นการย้ายค่ายแบบซื้อลิขสิทธิ์ จากทัลปา มีเดีย กรุ๊ป ประเทศเนเธอร์แลนด์ มาให้ เอพีแอนด์เจ โปรดักชัน ดำเนินการผลิตเป็นเวอร์ชันภาษาไทย โดยพีพีทีวี เผยว่ามีมูลค่าสูงถึง 500 ล้านบาทเลยทีเดียว เป็นสิทธิ์ทั้งหมด 3 รายการคือ เดอะวอยซ์, เดอะวอยซ์ คิดส์ ไทยแลนด์, เดอะวอยซ์ ซีเนียร์ ไทยแลนด์ ระยะเวลา 3 ปี ปีละ 3 รายการ

สำหรับ เดอะวอยซ์ ที่กำลังออกอากาศ ซีซั่นปัจจุบันเป็นครั้งที่ 7 ได้กรรมการทั้งเก่าและใหม่มาร่วมความสนุก กรรมการเก่าได้แก่ ก้อง สหรัถ, เจนนิเฟอร์ คิ้ม (ก่อนหน้านี้ซีซั่น 6 เปลี่ยนเป็น ดา เอ็นโดรฟิน), โจอี้ บอย กรรมการใหม่คือ ป๊อป ปองกุล ที่มาแทนสิงโต นำโชค

ย้ายจากเดิมช่อง 3 ออกอากาศในวันอาทิตย์ ช่วงเย็น เปลี่ยนมาออกอากาศช่อง PPTV ในวันจันทร์ 20.15 น. และช่องทางออนไลน์ผูกคอนเทนต์กับ Line TV และมีตัดรายการมาให้ชมบางส่วนผ่านทาง Youtube ซีซั่นนี้มีการเปลี่ยนกติกา กรรมการสามารถกดปุ่ม Block เพื่อไม่ให้กรรมการคนอื่นแย่งผู้เข้าแข่งขันได้ด้วย สำหรับกระแสการออกอากาศเพียงเทปแรกก็สร้างกระแสฮือฮาบนโลกออนไลน์และติดเทรนด์อันดับ 2 บน Youtube จากเพลง ตายทั้งเป็น โดย ลูกเต๋า จากทีมเจนนิเฟอร์ คิ้ม

[wonderplugin_video iframe=”https://www.youtube.com/watch?v=9fV25gCFqOg” videowidth=600 videoheight=400 keepaspectratio=1 videocss=”position:relative;display:block;background-color:#000;overflow:hidden;max-width:100%;margin:0 auto;” playbutton=”https://bsite.in/wp-content/plugins/wonderplugin-video-embed/engine/playvideo-64-64-0.png”]

นอกจากนี้ ยังมีมาอีก 2 รายการลูกที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการเปิดรับสมัคร คือ The Voice Kids เป็นรุ่นประกวดร้องเพลงเด็กอายุ 6-14 ปี และ The Voice Senior รุ่นใหญ่อายุ 60 ปีขึ้นไป ซึ่งรุ่นนี้จะเป็นการออกอากาศครั้งแรกในประเทศไทยด้วย ถือว่าสร้างความแปลกใหม่ให้กับรายการ The Voice มากขึ้นไปกว่าเดิม

รายการถ่ายทอดสดการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2018 หรือ นางงามจักรวาล

ปีนี้ประเทศไทยได้รับสิทธิ์เป็นเจ้าภาพจัดการประกวด กำหนดรอบชิงมงกุฎ วันที่ 17 ธันวาคม มีสาวงามจาก 94 ประเทศเข้าร่วม โดยมีค่าลิขสิทธิ์การประกวดกว่า 400 ล้านบาท ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่าการถ่ายทอดสดจะออกอากาศทางช่อง 3 แต่สุดท้ายช่อง PPTV ได้สิทธิ์การออกอากาศแทน  ซึ่งมีข่าวว่าสาเหตุที่ผู้จัดย้ายมาช่อง PPTV เพื่อหาทุนในการมาจ่ายค่าสิทธิ์การประกวดที่มี โดยคาดว่า PPTV จะออกอากาศการทำกิจกรรมของนางงาม , รอบชุดประจำชาติ,รอบรอบ Preliminary และรอบชิงมงกุฎ จัดขึ้นที่อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี และมีการจำหน่ายบัตรเข้าชมผ่านทางไทยทิคเก็ตเมเจอร์ รวมถึงมีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลกด้วย

รายการกิ๊กดู๋ สงครามเพลงเงาเสียง

จากเดิมที่ออกอากศช่อง 7 จะย้ายไปออกอากาศทางช่อง PPTV ตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นไปโดยเจเอสแอลโกลบอลมีเดีย และ ทริปเปิ้ลทูจะมาเป็นผู้รับจ้างผลิตรายการและมีบริษัท บางกอกมีเดียแอนด์บรอดคาสติง จำกัดเป็นชื่อผู้ผลิตหลักแทน โดยซูโม่กิ๊ก ได้ให้เหตุผลของการย้ายช่องในครั้งนี้เป็นเพราะค่าเช่าเวลาออกอากาศกับช่อง7นั้นมีราคาที่แพง

ถือเป็นเรื่องน่าใจหายพอสมควรเพราะกิ๊กดู๋อยู่กับช่อง 7 มาตั้งแต่ปี 2553 ทำมาหลายรูปแบบมากทั้ง กิ๊กดู๋,กิ๊กดู๋ สงครามเพลง,กิ๊กดู๋ สงครามเพลงเงินล้าน,กิ๊กดู๋ ซุปตาร์เงินล้าน โดยรูปแบบรายการเข้าถึงคนกลุ่มต่างจังหวัดเพราะเป็นการแข่งร้องเพลงลูกทุ่ง มีการเอาท้องถิ่นแต่ละแห่งมาดวลร้องเพลงกันหาผู้ชนะ เพื่อชิงเงินล้าน ส่วนกระแสบนโลกออนไลน์ถือว่าดีเลยทีเดียวเพราะยอดวิวในยูทูปแต่ละเทปแตะหลักล้านทั้งนั้นถือว่าเป็นก้าวสำคัญของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของรายการเลยก็ว่าได้

ทั้งนี้ ต้องคอยจับตาดูต่อไปว่ารายการทีวี จากช่องใหญ่ รายการไหนอีกที่จะย้ายค่ายเพราะถือว่าปัจจุบันวงการทีวีดิจิตอลมีทางเลือกให้ผู้ผลิตคอนเทนต์มากกว่าเดิม รวมถึงแต่ละช่องสถานีก็ต้องการคอนเทนต์ที่เป็นที่รู้จักและมีฐานคนดูเก่าอยู่แล้ว การย้ายช่องจึงขึ้นอยู่กับทุนและดีลระหว่างสถานีกับผู้ผลิตว่าจะตกลงกันได้มากน้อยแค่ไหน ถือเป็นการแข่งขันอีกขั้นของวงการทีวีดิจิตอล และหากรายการไหนอยู่ช่องใหญ่ไม่ได้คงต้องทำตามแบบที่ซูโม่กิ๊กโพสต์ในเฟซบุ๊คว่า “..อยู่ไม่ได้ก็ย้ายไปครับ…”

Copyright© Bsite.In