และปี 2011 เขาก็พัฒนาฝีมือการแสดงไปอีกขั้นกับการรับบทนำในละครเพลงสุดโด่งดัง How to Succeed in Business ที่เรื่องนี้เขาจะต้องโชว์ฝีมือทั้งร้องและเต้น จนมาถึงปี 2018 แดเนียล แรดคลิฟฟ์ ก็ยังวนเวียนอยู่ในวงการละครเวที กับผลงานล่าสุด The Lifespan of a Fact ที่เปิดแสดงบนถนนบรอดเวย์
ก่อนหน้าที่นักแสดงจะเริ่มโชว์ทักษะในการร้องเพลงด้วยตัวเองกันมากขึ้น เช่น ภาพยนตร์เรื่อง Rock of Ages(2012), Mamma Mia(2008), Les Miserables(2012) และล่าสุด A Star Is Born(2018) ซึ่งแจ้งเกิดให้กับ แบรดลีย์ คูเปอร์ ในฐานะผู้กำกับภาพยนตร์และศิลปินเพลงในวงการมายา เพิ่มอีกตำแหน่ง โดยเฉพาะเพลง “Shallow” ที่ร่วมร้องกับ เลดี้ กาก้า ฮิตติดชาร์จในหลายๆ ประเทศกันเลยทีเดียว
และในระหว่างงานปาร์ตี้เลี้ยงฉลองจบ ม.ปลายของพ่อแม่ก็เกิดเรื่องชุลมุนวุ่นวาย ซึ่งจะส่งผลไปยังอนาคตของมาร์ตี้ด้วยนั้น เขาเลยต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อดึงความสนใจของพ่อแม่ตัวเองกลับมาให้ได้ นั่นก็คือ เล่นเพลง Rock & Roll – Johnny B. Goode บนเวทีมันซะเลย! ทำเอาผู้ชมงงเป็นไก่ตาแตกในท่อนโซโล่กีต้าร์ตอนท้ายเพลง เพราะการเล่นกีต้าร์โซโล่พร้อมกับถีบแอมป์กีต้าร์ล้ม ยังไม่เคยมีใครเคยทำมาก่อนในยุคนั้น (มาร์ตี้ แมคฟลาย น่าจะได้อิทธิพลการเล่นกีต้าร์มาจากวง Van Halen ในยุค ’80s)
Tom Cruise กับบทบาท Stacee Jaxx ในเรื่อง Rock of Ages(2012)
เรื่อง Rock of Ages เค้าโครงเรื่องมาจากละครเพลงบรอดเวย์ในชื่อเดียวกัน แม้ในตัวหนังเองไม่ประสบความสำเร็จในเรื่องของรายได้ แต่กับคำวิจารณ์เองก็ไม่ได้ถึงกับแย่นัก
ถ้าชอบเพลง Rock & Roll แบบ Hairband ยุค ’80s กับหนังเพลงแบบ Musical แล้วล่ะก็ ถือว่าคุ้มค้าที่จะดูแล้ว เพราะขนเพลงดังจากวงดังๆ แห่งยุค เช่น Def Leppard, Journey, Scorpions, Poison, Foreigner, Guns N’ Roses, Pat Benatar, Joan Jett, Bon Jovi, Twisted Sister, Whitesnake, REO Speedwagon และ อีกมากกก แค่ได้ยินชื่อวงก็คุ้มแล้วหล่ะมั้งครับท่าน
โดยเพลง “Come What May” และ อีกหลายๆ เพลงใน Moulin Rouge! เช่น Your Song ของ Sir Elton John, One Day I’ll fly away จากศิลปินแจ๊ซ Randy Crawford หรืออย่างเพลง Elephant Love Medley เป็นเพลงที่นำเพลงดังๆ มารวมกันแล้วมาร้องจีบกันได้หวานหยดเลยหล่ะครับ
เพลงที่นำมารวมกันตามนี้เลย All You Need Is Love – The Beatles, Pride (In The Name Of Love) – U2, Heroes – David Bowie, Your Song – Elton John, Silly Love Songs – Wings, One More Night – Phil Collins, Love Is A Many-Splendored Thing – Frank Sinatra, Love Is Like Oxygen – Sweet, I Was Made For Loving You – KISS, Up Where We Belong – Buffy Sainte-Marie, Lover’s Game – Chris Isaak, Don’t Leave Me This Way – Harold Melvin & the Blue Notes และ I Will Always Love You – Whitney Houston (รวมกันได้ยังไงวะ!!! นับถือเลย)
Johnathon Schaech กับบทบาทนักร้องนำ/กีต้าร์ของวง The Wonders, Jimmy Mattingly ในเรื่อง That Thing You Do! (1996)
That Thing You Do! “ฝันให้เป็นดาว” ภาพยนตร์ปี 1996 กำกับการแสดง (และแสดงเองด้วย) โดย ทอม แฮงค์ เป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับความฝันของวงดนตรีนักเรียนท้องถิ่นในรัฐเพนซิลเวเนีย ปี 1964 วง “The One-ders” ก่อนเปลี่ยนชื่อเป็น “The Wonders” นำโดย Jimmy Mattingly ร้องน้ำ/มือกีต้าร์ (แสดงโดย Johnathon Schaech) Guy Patterson มือกลอง (แสดงโดย Tom Everett Scott)
ในภาพยนตร์ ตอนแรก จิมมี่เริ่มเขียนเพลง That Thing You Do ในแนวเพลงช้าแบบบัลลาด จนกระทั่งในวันขึ้นแสดงจริงครั้งแรกกับ “กาย แพ็ทเทอร์สัน” มือกลองนั้น กายได้เร่งจังหวะกลองให้เร็วขึ้นกว่าเดิม จนจิมมี่และสมาชิกวงต้องตามจังหวะของกายในที่สุด ซึ่งตอนแรกเหมือนจะพัง แต่แล้วคนดูกลับชอบมันซะอย่างนั้น!
เพลง That Thing You Do ในภาพยนตร์ เราจะได้ยินแบบหลากหลายเวอร์ชั่น ซึ่งรวมๆ แล้วทั้งเรื่องเราจะได้ยินเพลงนี้ถึง 11 ครั้งเลย ซึ่งวง The Wonders นี้มักจะถูกเข้าใจผิดบ่อยมากว่าเป็นวงดนตรีที่มาแสดงหนังจริงๆ แต่ในความเป็นจริงแล้วกลับไม่ใช่
เพลงนี้ถูกเขียนขึ้นโดย Adam Schlesinger มือเบสแห่งวง Fountains of Wayne ซึ่งตอนแต่งเพลงขึ้นมา นาย Schlesinger ก็ไม่คิดว่าเพลงนี้จะถูกเลือกมาประกอบภาพยนต์เสียด้วยซ้ำ ส่วนเสียงร้องในภาพยนตร์นั้นก็ ไม่ใช่เสียงของนักแสดงนำ Johnathon Schaech แต่เป็น นักร้องซ่อนแอบ ที่ชื่อว่า Mike Viola (ในหนังให้เครดิต “additional vocalist”)
โดยวงดนตรีในหนังนั้น ประกอบไปด้วย Jeff Bebe นักร้องนำ (รับบทโดย Jason Lee), Russell Hammond มือกีต้าร์ (รับบทโดย Billy Crudup), Larry Fellows มือเบส และ Ed Vallencourt มือกลอง
วง Stillwater มีเพลงของตัวเอง คือ เพลง “Fever Dog” แต่ Jason Lee ไม่ได้ร้องเพลงนี้เอง แต่จริงๆ แล้วเป็นนักร้องซ่อนแอบ ชื่อว่า Marti Frederiksen
ส่วนงานดนตรีเบื้องหลังนั้นคับคั่งไปด้วยบุคคลากรทางด้านดนตรีอย่าง Nancy Wilson มือกีต้าร์/นักร้องประสานจากวง Heart มาช่วยแต่งเพลง “Fever Dog” , Peter Frampton ศิลปินดังจากยุค ‘70s มาช่วยสอน Billy Crudup ในการเล่นกีต้าร์สำหรับฉากที่แสดงคอนเสิร์ต , Mike McCready มือกีต้าร์จากวง Pearl Jam ที่มาช่วยอัดเสียงกีต้าร์ซาวนด์แทร็คในหนัง เป็นต้น
เป็นที่รู้กันนะครับว่า ริทชี่ วาเลนส์ ประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตกจนเสียชีวิต ในปี 1959 ขณะอายุ 17 ปีเอง โดยเสียชีวิตพร้อมกับเพื่อนศิลปินในวงการอย่าง Buddy Holly และ J. P. “The Big Bopper” Richardson เป็นเหตุการณ์ช็อคโลกครั้งนึง ที่เรียกกันว่า “The Day the Music Died” โดยมีเพลงดังๆ แต่งขึ้นมารำลึกถึงเหตุการณ์นี้อย่างเพลง American Pie โดย Don McLean ในปี 1971
Toy Story 4 : นี่คือภาคต่อของแอนิเมชั่นเจ้าของรางวัลออสก้าร์ ที่ครองใจคนดูทั่วโลก หลังจากภาคที่แล้ว ตัวละครหลักคือ แอนดี้ ได้บอกลาเหล่าของเล่นมีชีวิต ทำให้คนดูตั้งตารอคอยว่าภาคนี้จะกลับมาสานต่อความสนุกยังไง ซึ่งToy Story เป็นการ์ตูนที่อยู่กับคนดูทั่วโลกมายาวนานมากกว่า 20 ปี
The Lion King : ภาพยนตร์ Live Action ที่สร้างจากแอนิเมชั่นรางวัลออสก้าร์สุดโด่งดังในปี 1994 ความโดดเด่นของหนังเรื่องนี้อยู่ที่บทเพลงที่ไพเราะมาก และความเนียนของ CG ดิสนีย์ที่คนดูเคยว้าวมาแล้วใน The Jungle Book ทำให้นี่กลายเป็นการปลุกอดีตในใจผู้ใหญ่ให้กลับมารุ่งโรจน์อีกครั้ง
ทั้งนี้ เป็นคำยืนยันจาก Bob Iger ซีอีโอดิสนีย์ ว่าเมื่อ Disney และ Fox ควบรวมกิจการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทาง Kevin Feige ประธานบริษัทมาร์เวลสตูดิโอส์ Marvel Studios ก็พร้อมที่จะนำ X-Men เข้าสู่ MCU (Marvel Cinematic Universe) อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ จากรายงานของ The Hollywood Reporter ที่เข้าไปถามกับ Bob Iger ถึงเรื่องนี้
นอกจากนักแสดงนำชาย Henry Golding ที่รับบท Nick Young พระเอกของเรื่องแล้ว ก็เป็นอีกเรื่องของการแจ้งเกิด Chris Pang ที่รับบท Colin Khoo เพื่อนสนิทของพระเอกในเรื่องด้วย และที่เห็นหุ่นซิกซ์แพ็คสวยๆ แบบนี้ เขายอมรับว่าเมื่อก่อนเขาเป็นเพียงเด็กขี้ก้าง ที่ไม่กล้าแม้แต่จะชวนสาวไปเที่ยวเพราะอายในรูปร่างตัวเอง
ซึ่งกับภาพยนตร์เรื่องล่าสุดนี้จะว่าไปเขากับ Henry Golding ที่รับบท Nick Young พระเอกของเรื่อง ก็ค่อนข้างที่จะถอดเสื้อบ่อยมากทีเดียว เรียกว่าเป็นการเอ็นเตอร์เทนต์ผู้ชมสาวๆ ได้อย่างดีทีเดียว
ทั้งนี้ ตามบทของ Crazy Rich Asians ผู้เขียนบท Lim และ Peter Chiarelli ตั้งใจที่จะเซ็ทให้ภาพของผู้ชายเอเซียในเรื่องคือต้องเซ็กซี่และมีกล้ามเป็นมัดๆ อย่างไรก็ตาม พวกเขายืนยันว่าไม่ได้แกนหลักของเรื่องเหมือนกับ The Joy Luck Club (หนังฮอลลีวู้ดที่ส่วนใหญ่มีแต่นักแสดงเอเซีย) แต่ต้องการที่จะขับเน้นชีวิตที่สนุกสนานของความเป็นเอเซีย ในกรณีของ Pang และ Golding ก็คือการเอ็นจอยกับการเป็นคนมีเสน่ห์ในแบบของผู้ชายเอเซีย ดังนั้น ภาพที่ฉายบนหนังมันคืออินไสปร์ส่วนหนึ่งตามเนื้อเรื่องในหนังสือต้นฉบับ จากผู้เขียน Kevin Kwan ก็เท่านั้น
“Kwan เคยอธิบายคาแรคเตอร์ของ Michael สามีของ Astrid (ลูกพี่ลูกน้องของพระเอก) ว่าเป็นอดีตทหาร ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงมีกล้ามเป็นมัดๆ แล้วก็ดูเซ็กซี่ด้วย เราก็เลยคิดว่า ว้าว! โอ้มายกอชชชมันเจ๋งมากทำไมเราไม่ใส่ลงไปคาแรคเตอร์อื่นๆ ด้วยล่ะ” Lim ผู้เขียนบทอธิบาย
โชคดีที่การต่อสู้นี้ Pang และทีมผู้สร้าง Crazy Rich Asians ไม่ได้สู้ลำพัง เพราะในโซเชียลมีเดียเองก็ช่วยกันเรียกร้องสิทธินี้เช่นกัน อย่าง Daniel Dae Kim (นักแสดงจากเรื่อง Lost) และ John Cho (นักแสดงจากเรื่อง Star Trek และเรื่องล่าสุด Searching) หรือแม้แต่ชาวเน็ตก็ช่วยกันสร้างแคมเปญ #StarringJohnCho เพื่อช่วยกันผลักดันให้ John Cho รับบทนำในหนังโรแมนติก
Posted on Aug 18, 2018by ทีมงาน bsite • 1,590 Views
ประกาศิต ดิสนีย์! James Gunn ไม่ได้ไปต่อ ชวดกำกับ Vol.3
Entertainment
ประกาศิต ดิสนีย์! James Gunn ไม่ได้ไปต่อ ชวดกำกับ Vol.3
By ทีมงาน bsite • on Aug 18, 2018 • 1,590 Views
เรียกว่าเป็นข่าวดับฝันของสาวก Marvel และ Guardians of the Galaxy กันเลยทีเดียว! เมื่อข่าวล่าสุดยืนยันแล้วว่า James Gunn จะไม่ได้กำกับ Guardians of the Galaxy Vol. 3 อย่างแน่นอน
ทั้งที่ได้รับการสนับสนุนทั้งจากกลุ่มนักแสดง นำโดย Chris Pratt ที่รับบท Star Lord หรือ Peter Jason Quill รวมทั้งเสียงสนับสนุนจากแฟนๆ ภาพยนตร์ โดยข่าวแจ้งว่า เป็นการตัดสินใจล่าสุดจากการประชุมร่วมกันระหว่าง ประธานสตูดิโอดิสนีย์ Alan Horn และตัว Gunn เอง