- Entertainment
One for the Road ความเหลื่อมล้ำทางสังคมสู่การเดินทางบอกลาแฟนเก่า (มีสปอยล์)
By DiamondP • on Feb 14, 2022 • 809 Views
One for the Road นับเป็นภาพยนตร์ที่ค่อนข้างจะเป็นกระแสที่สุดในบรรดาภาพยนตร์ไทยในช่วงระยะเวลานี้ ทั้งเรื่องราวที่แตกต่างไปจากภาพยนตร์กระแสหลักที่พวกเราคุ้นเคย ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์แนว Road Trip ที่ค่อนข้างหาได้ยากในวงการหนังไทย หรือจะเป็นเรื่องราวของชายคนหนึ่งที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้าย แล้วต้องการเดินทางไปบอกลาแฟนเก่า โดยมีเพื่อนสนิทของเขาเป็นคนขับรถให้ เรื่องราวมันอาจจะดูไม่ซับซ้อน เป็นความสัมพันธ์หวานปนขม ไม่ต่างจากการเปรียบเปรยของผู้สร้างว่านี่คือ ค็อกเทลแฟนเก่าส์ แต่เบื้องหลังฉากหน้าเหล่านั้น พวกเขาได้สอดแทรกประเด็นสังคมอันแสนสามัญ และหนักอึ้งเอาไว้ไม่น้อยเลยทีเดียว
บทความนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาในภาพยนตร์ One for the Road
ก่อนจะอ่านต่อ เราเตือนคนที่ยังไม่ได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้อีกครั้ง ว่าบทความนี้จะมีการเปิดเผยเนื้อหาในภาพยนตร์ ถ้าใครยังไม่ได้ดู เราขอแนะนำให้ไปดูให้เรียบร้อยก่อน แล้วค่อยกลับมาอ่านจะเข้าใจ และได้อรรถรสมากขึ้น
เรื่องราวของ One for the Road ไม่ได้มีความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อน, คู่รัก และครอบครัวเท่านั้น แต่ท่ามกลางความสัมพันธ์ทั้งหมด ทุกตัวละครมีความสัมพันธ์กับโครงสร้างที่เหลื่อมล้ำทั้งสิ้น จุดเริ่มต้นมาจาก ตั๊ก แม่ของบาส ตัวละครหลักของเรื่อง เธอได้แต่งงานใหม่กับชายที่อายุมากกว่า ร่ำรวยกว่า และมีครอบครัวติดมาด้วย ความเจ็บปวดก็คือ เธอเลือกจะปิดบัง โดยบอกว่า บาส คือ น้องชายของเธอ แทนที่จะเป็นลูกชาย เพื่อป้องกันไม่ให้ครอบครัวใหม่ไม่ยอมรับ แล้วหลังจากนั้นชีวิตของตั๊ก และบาสก็เปลี่ยนไป ทั้งคู่มีชีวิตที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด บาสได้เข้าโรงเรียนที่ดี ได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี และร่ำรวย แต่ความร่ำรวยนั้นสร้างปัญหาตามมา
บาสที่ต้องปรับตัวเข้ากับครอบครัวใหม่ ต้องเผชิญหน้ากับ ภูมิ ที่ตั้งแง่กับเขาอย่างรุนแรง บวกกับการต้องเปลี่ยนสังคม เปลี่ยนโรงเรียน แต่โชคดีที่บาสได้เจอกับ พริม สาวบาร์เทนเดอร์ผู้มีความฝัน เธอมาจากครอบครัวที่แสนธรรมดา ต้องดิ้นรนทำงานเพื่อปากท้อง และความฝันของตัวเอง ทั้งคู่จูนเข้ากันได้อย่างง่ายดาย จนเกิดจุดพลิกผันที่ตั๊ก อยากให้บาสไปเรียนต่างประเทศ และพรีมตัดสินใจเดินทางตามไปด้วย ทั้งคู่ได้ไปใช้ชีวิตร่วมกันที่นั่น ค่อย ๆ ประกอบความฝันของพวกเขาขึ้นมา แต่ความฝันทุกอย่างเริ่มพลังทลาย เพราะความจริงก็คือ พริมรับเงินจากแม่ของบาสมาเพื่อให้ตามบาสมาอยู่ที่อเมริกาด้วย บาสจะได้ยอมไปเรียนต่างประเทศ
เป็นอีกครั้งที่ เงิน เข้ามาเป็นตัวแปร ในความสัมพันธ์…
ความสัมพันธ์ของบาสและพริมถึงขั้นแตกหัก ทั้งคู่แยกทางกัน ในตอนนั้นเองที่ อู๊ด ก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตของ บาส จุดเริ่มต้นจากความช่วยเหลือในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ทำให้ทั้งคู่ดูเหมือนจะกลายเป็นเพื่อนแท้ แต่มันกลับซ่อนความจริงอันโหดร้ายเอาไว้ เพราะ อู๊ด แอบชอบพริม และต้องการกันบาส ออกจากพริมไปเสีย จึงโกหกว่าพริมมีแฟนคนใหม่แล้ว ทำให้ชีวิตของบาสหลังจากนั้นพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ จากคนเรียบร้อย สู่เพลย์บอย ทุกอย่างยิ่งเจ็บปวดมากขึ้น เมื่อ อู๊ด เฉลยว่า เขาทำไปทั้งหมดเพราะอิจฉาบาส อยากจะมีชีวิตแบบบาสบ้างสักครั้ง อยากจะลองเป็นคนรวยบ้างสักครั้ง และคิดว่าบาสไม่มีทางคู่ควรกับพริมไปมากกว่าเขา
อู๊ด เล่าต่อไปว่า เขามาจากครอบครัวที่ฐานะไม่ได้ดีเลิศอะไร การที่เขามาทำงานถึงอเมริกาได้ก็เพราะการดิ้นรนของตัวเอง พ่อของเขาไม่สามารถหาเงินมาให้ได้ ประกอบกับข้อมูลแวดล้อมที่เปิดเผยในเรื่องว่า ธุรกิจที่บ้านของบาสเป็นธุรกิจขายแผ่นเสียง ที่แน่นอนว่ามันตกยุคไปแล้ว บวกกับพ่อที่เป็นดีเจในคลื่นวิทยุ ซึ่งป่วยเป็นมะเร็งและจากไปเช่นเดียวกัน มันทำให้ อู๊ด คือหนึ่งคนที่ต้องดิ้นรนให้รอดพ้นจากฐานะการเงินที่จำกัดจำเขี่ย จนกลายเป็นเหยื่อของความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจในทันที เมื่อเจอกับบาส
หนังเรื่องนี้ฉาบหน้าด้วยเรื่องราวความสัมพันธ์ที่ไม่สมหวัง ที่ซ่อนพิษร้ายของโครงสร้างสังคมเอาไว้อย่างแนบเนียน ฉายโฉมหน้าของสภาพสังคมประเทศไทยออกมาได้อย่างชัดเจนพอสมควร เมื่อความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจไม่ได้ส่งผลแค่ปัญหาโครงสร้าง แต่มันกระจายสู่ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ได้อย่างร้าวลึก สร้างบาดแผลที่กลายเป็นความเจ็บปวดอันแสนขม เหมือนค็อกเทลรสเข้มที่ชื่อว่า เดอะ คีโมเธอราพี ที่บาสชงไว้ในช่วงท้ายของภาพยนตร์
ABOUT THE AUTHOR
DiamondP
คนอยากเขียน กับความสนใจเยอะแยะ และเราเชื่อว่า คนทุกคนเท่าเทียมกัน