- Lifestyle
ข้อควรรู้เกี่ยวกับ “เห็ด เชื้อรา” ที่กินได้ มีประโยชน์/โทษต่างกัน
By Sanook D Pipat • on Feb 28, 2019 • 6,262 Views
ปัจจุบัน เห็ด กลายเป็นพืชยอดนิยมที่มักเพาะเพื่อเอามาทำเป็นอาหาร หรือบางพื้นที่มีการเก็บมาจากป่า แต่รู้หรือไม่? เห็ดไม่ได้เป็นพืช แต่จัดเป็นเชื้อราประเภทหนึ่งที่มีมากกว่า 30,000 ชนิด เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับคนชอบกินเห็ด ไม่ว่าจะเป็น แกง ยำ หรือชุบแป้งทอด ;วันนี้เราขอพาทุกคนไปเจาะลึกก่อนจะเอามาทำเป็นอาหารควรรู้ว่า เห็ดชนิดใดบ้างที่กินได้และกินไม่ได้
เห็ดจัดเป็นราชั้นสูง และมีวิวัฒนาการสูงกว่าราอื่นๆและสลับซับซ้อนกว่าราทั่วไปสปอร์คือส่วนที่สร้างเซลล์สืบพันธุ์ เมื่อหล่นลงจากดอกเห็ดในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ก็จะงอกเป็นใย และเจริญเติบโตเป็นกลุ่มก้อนเกิดเป็นดอกเห็ดอยู่เหนือพื้นดิน บนขอนไม้ ซากพืชหรือแม้กระทั่งมูลสัตว์ เห็ดจัดเป็นพืชชั้นต่ำ ไม่สามารถสังเคราะห์แสงเองได้และปรุงอาหารเองไม่ได้ ต่างจากต้นไม้ที่สามารถสังเคราะห์แสงได้จากสารสีเขียวที่เรียกว่าคลอโรฟิลล์
เห็ด สามารถแบ่งได้คร่าวๆ 3 ประเภทดังนี้
1.เห็ดที่ใช้เป็นอาหาร เป็นเห็ดที่มีคุณค่าทางอาหาร มีสารอาหารหลายชนิด เช่น โปรตีน วิตามิน
2.เห็ดที่ใช้เป็นยา ซึ่งเป็นเห็ดที่มีสรรพคุณทางยา เป็นยาบำรุงร่างกาย บำบัดโรคบางชนิดได้เช่น เห็ดหลินจือ เห็ดหอมเป็นต้น
3.เห็ดที่มีพิษ เห็ดกลุ่มนี้ มีพิษหากรับประทานเข้าไปอาจถึงตายได้ เพราะพิษจะเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้มึนเมา อาเจียนถึงขั้นหมดสติและเสียชีวิตได้
ในฤดูฝน ชาวบ้านตามต่างจังหวัดจะพากันออกเก็บเห็ดที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติมาทำอาหารกินกัน เห็ดบางชนิดมีสีสันฉูดฉาด เช่น สีแดง สีส้ม สีเหลืองแต่กินได้ แต่บางชนิดที่มีสีสันก็กลายเป็นเห็ดมีพิษ วิธีสังเกตเห็ดมีพิเษเบื้องต้นส่วนใหญ่จะเป็นเห็ดที่มีสีฉูดฉาดสวยงาม หมวกเห็ดมีปุ่มปม มีวงแหวนใต้หมวกและ มีกลิ่นรุนแรงชัดเจน
ข้อควรระวังคือ ไม่ควรนำเห็ดที่เก็บจากป่ามาปรุงอาหารโดยเด็ดขาด เนื่องจากมีสารพิษที่ออกฤทธิ์เร็วมาก ฉะนั้น เราควรเลือกเห็ดที่เราเคยรับประทาน ไม่ควรเสี่ยงกับการรับประทานเห็ดที่เราไม่แน่ใจเพราะเห็ดบางชนิดมีหน้าตาคล้ายกันมากจนแยกไม่ออกเลย ถ้าหากเผลอกินเห็ดพิษเข้าไปสามารถปฐมพยาบาลเบื้องต้นด้วยการล้วงคอให้อาเจียนออกมามากที่สุดและดื่มน้ำคั้นจากใบรางจืดก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาล
ประโยชน์ของเห็ดป่าตามธรรมชาติและเห็ดปลูกเองโดยใช้เชื้อเห็ด
1.เห็ดหอมหรือเห็ดชิตาเกะ เป็นยาอายุวัฒนะ ลดไขมันในเส้นเลือดมีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสและมะเร็ง
2.เห็ดหูหนู เพิ่มความแข็งแรงของเม็ดเลือดขาว ช่วยบำรุงปอดและไต ทำให้ภูมิคุ้มกันโรคต่างๆดีขึ้น
3.เห็ดหลินจือ มีเบต้าคูแคน ต้านโรคมะเร็ง โรคหัวใจ หลอดลมอักเสบ ยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้อร้าย
4.เห็ดแชมปิญองหรือเห็ดกระดุม ลดการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง ลดภาวะเสี่ยงมะเร็งเต้านม
5.เห็ดนางฟ้าหรือเห็ดนางรมและเห็ดเป๋าฮื้อ(เป็นเห็ดตระกูลเดียวกัน) ช่วยป้องกันโรคหวัด ช่วยในการไหลเวียนของโลหิต และป้องกันโรคกระเพาะ
6.เห็ดฟาง ให้วิตามินสูง หากรับประทานเป็นประจำจะช่วยเสริมภูมิคุ้มกันการติดเชื้อต่างๆได้ ช่วยลดความดันโลหิต และช่วยสมานแผล
7.เห็ดเข็มทอง หากรับประทานเป็นประจำจะช่วยรักษาโรคตับ โรคกระเพาะและลำไส้อักเสบได้
8.เห็ดโคนหรือเห็ดปลวก ช่วยเจริญอาหาร บำรุงกำลัง แก้บิด คลื่นไส้อาเจียน
9.เห็ดเผาะหรือเห็ดถอบ ช่วยรักษาบาดแผล บำรุงร่างกาย แก้ช้ำใน
10.เห็ดขอนขาวและเห็ดกระด้าง(เป็นเห็ดตระกูลเดียวกัน) สารสกัดในเห็ดกระด้างช่วยลดไขมันในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานและผู้ติดเชื้อ HIV ได้ผลดีช่วยให้ผู้ป่วยมีอายุยาวนานต่อไปได้อีก
11.เห็ดโคน บำรุงกำลัง ขับเสมหะบรรเทาอาการไอเรื้อรัง ช่วยในการย่อยอาหาร ป้องกันโรคท้องผูกและ ป้องกันโรคเบาหวาน
ปัจจุบันมีการเพาะพันธุ์เห็ด มากมายจะเห็นได้ว่าเห็ดต่างๆทั้งที่เกิดเองตามธรรมชาติ และคนเราปลูกขึ้นมาเองนั้น ล้วนมีประโยชน์มากมายแต่กระนั้น โทษของมันก็ทำเอาให้ผู้คนเสียชีวิตได้ เราควรเลือกและรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะเพราะเห็ดบางชนิดถึงจะรับประทานได้ แต่ก็เกิดโทษได้หากรับประทานมากเกินไป เพื่อให้ปลอดภัยจากการกินเห็ด ก็ควรทำตามข้อแนะนำและ ไม่ลองเสี่ยงรับประทานเห็ดที่เราไม่รู้จัก ก็สามารถทำให้เราอร่อยกับเห็ดนานาชนิดแบบปลอดภัยได้
Copyright© Bsite.In
ABOUT THE AUTHOR
Sanook D Pipat