ถ้าได้ติดตามวงการ K-Pop ก็คงจะทราบดีอยู่แล้วว่า วง BTS หรือ Bangtan Boys (บังทัน บอยส์) หรือ Beyond The Scene เป็น ไอดอลเค-ป๊อปที่ประสบความสำเร็จมากในฝั่งตะวันตก ไม่เฉพาะแค่ในเอเชียเท่านั้น ล่าสุด ถึงขนาดกล้าเหยียบถิ่นสหรัฐฯ ขึ้นเบียดหน้าแซงเจ้าแม่อย่าง Taylor Swift ลงได้ เอากับเขาเซ่!

BTS เคยได้รับรางวัล Top Social Artist award จาก Billboard Music Awards และยังเคยถูกเชิญร่วมในรายการ The Ellen DeGeneres Show, Jimmy Kimmel Live! , The Late Late Show With James Corden, E! News ฯลฯ

ล่าสุด ทำลายสถิติบน Youtube  กับการเปิดตัวเอ็มวีตัวใหม่ชื่อว่า “Idol” ยอดวิวของเพลงนี้พุ่งไปที่ 45 ล้านครั้งภายใน 24 ชั่วโมง!!

[wonderplugin_video iframe=”https://www.youtube.com/watch?v=pBuZEGYXA6E” videowidth=600 videoheight=400 keepaspectratio=1 videocss=”position:relative;display:block;background-color:#000;overflow:hidden;max-width:100%;margin:0 auto;” playbutton=”https://bsite.in/wp-content/plugins/wonderplugin-video-embed/engine/playvideo-64-64-0.png”]

ซึ่งสามารถโค่นเจ้าแม่โซเชียลมีเดียอย่าง Taylor Swift ลงได้ จากเพลง “Look What You Made Me Do” ซึ่ง Swift เคยทำสถิติวันแรกยอดวิวสูงถึง 43.2 ล้านวิว

เวลาผ่านมาประมาณ 5 วัน ยอดวิว Idol ของ BTS (นับจากวันที่ 29 สิงหาคม) อยู่ที่กว่า 98 ล้านวิวเข้าไปแล้ว เชื่อว่าไม่เกินหนึ่งอาทิตย์ก็มีโอกาสที่จะแตะ 100 ล้านวิวอย่างแน่นอน

อาจบอกได้ว่า K-Pop ได้บุกตะลุยทำตลาดที่สหรัฐฯ ได้แล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ เราได้เห็นความนิยมของศิลปินเดี่ยวอย่าง PSY เมื่อปี 2012 ที่สามารถทำลายสถิติ Youtube ในเพลง Gangnam Style โด่งดังไปทั่วโลก แม้แต่ “โอบามา” ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก็เชื้อเชิญให้ไปแสดงที่ทำเนียบขาวมาแล้วด้วย

แต่ BTS ก็ไม่ใช่ศิลปินเกาหลีรายแรกที่สร้างปรากฏการณ์ฮิตระเบิดที่สหรัฐฯ ก็ยังมีวงรุ่นพี่มากมายที่โด่งดัง เช่น BigBang, Girls’ Generation, Wonder Girls และ 2NE1 ก็โด่งดังที่สหรัฐฯ เช่นกัน

แต่ศิลปินกลุ่มนี้ไปได้สุดเท่า BTS หรือไม่?

ความสำเร็จที่เกิดขึ้นของ BTS อาจเรียกได้ว่าไปได้สุดทีเดียว ได้ทั้งเงินและการยอมรับกว้างขวาง นั่นเป็นเพราะ สเน่ห์ของความเป็นบอยแบนด์เกาหลี คือความสดใสของเอเชียนทีนส์ ที่ต้องยอมรับว่าฝั่งตะวันตกไม่ค่อยมี ซึ่งจุดนี้เองทางค่าย BigHit Entertainment เองก็ทราบดี ซึ่งแม้จะมีเสียงทางฝั่งสื่อตะวันตกมากมายที่บี้ถามถึงการทำงานอัลบั้มภาษาอังกฤษ แต่ทางค่ายก็ยืนยันที่จะทำในแบบของตนต่อไป

Bang Si-hyuk (บังซีฮยอก) ประธานบริษัท BigHit Entertainment ของวง BTS เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า สิ่งที่เด็ก ๆ วง BTS ตนไม่เชื่อในการทำเพลงที่เป็นเนื้อร้องภาษาอังกฤษทั้งหมด แล้วปล่อยสู่ตลาดอินเตอร์อย่างที่ศิลปิน K-POP กลุ่มอื่นเคยทำ

“เราควรสนใจในสิ่งที่เราทำได้ดีที่สุด ซึ่งนั่นก็คือ K-POP แล้วค่อยเพิ่มคุณลักษณะหรือลูกเล่นที่ทำให้แฟน ๆ

ชาวต่างชาติหลงไหลในเพลงของพวกเรามากขึ้นมากกว่า

ผมว่านั่นเป็นกลยุทธ์ที่ดีที่สุดที่จะนำวัฒนธรรม K-POP เข้าสู่กระแสหลักของตลาดเพลงอินเตอร์นี้ได้”

เรียกได้ว่าน่าจะเป็นการเดินเกมที่มาถูกทางแล้วของ BigHit Ent. ที่ตัดสินใจแบบนี้ เพราะถ้าย้อนรอยดูความสำเร็จของ K-Pop อื่นที่พยายามบิดตัวตนให้เป็นสากล เช่น Psy ที่ไปไม่สุดกับเพลง Hangover ที่ร่วมฟีเจอร์ริ่งกับ Snoop Dogg หรือ Wonder Girls กับเพลง Nobody ที่มีหลายเวอร์ชั่นภาษาเหลือเกิน ก็ไปได้แค่ระดับหนึ่งเท่านั้น

สถิติอื่นที่น่าสนใจสำหรับ BTS ในตลาดอเมริกา ก็พบว่าเพลง Fake Love ซึ่งปล่อยวันแรกในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ก็มียอดวิวสูงถึง 35.9 ล้านวิว นอกจากนี้ การแสดง 15 ครั้งที่ผ่านมาก็ขายหมดเกลี้ยงทุกครั้ง

ความสำเร็จอื่นๆ ของ BTS ในวงการดนตรีสหรัฐฯ

• First No. 1 Album for K-Pop: Love Yourself
• Biggest Unit & Sales Week Ever for K-Pop: Love Yourself
• First Foreign Language No. 1 Album Since 2006
• First World Music Album at No. 1 on Billboard 200
• Second-Biggest Week for a Group in 2018

ความสำเร็จอย่างนี้ส่วนหนึ่งต้องยกความดีให้กับเหล่า ARMY (อาร์มี่) แฟนคลับของหนุ่มๆ บังทัน ทั้งในฝั่งตะวันตกและเอเชียที่ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี รออัลไลปรบมือให้ตัวเองสิอาร์มี่.

Source : CNN.com

เครดิตภาพ comicbook.com Billboard และ soompi.com