- Money
5 วิธีวางแผนทางการเงินฉบับคนรุ่นใหม่เพื่อสู้กับอนาคตที่ไม่แน่นอน
By DiamondP • on Nov 20, 2023 • 578 Views
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า “คนรุ่นใหม่” เริ่มสร้างอนาคต สร้างเนื้อสร้างตัวกันได้อย่างรวดเร็ว แต่ความรวดเร็วนี้ก็มักจะตามมาด้วยค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ทั้งค่าอาหาร ที่พักอาศัย ค่าเลี้ยงดูบิดามารดา ค่าเทอมลูก ค่าครองชีพ ค่าผ่อนจ่ายต่าง ๆ ฯลฯ ซึ่งก็ล้วนแต่มีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ แต่เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของทั้งตนเองและคนในครอบครัวก็ต้องยอมจ่าย
แต่เคยคิดไหม หากวันใดเราซึ่งเป็นเสาหลักของครอบครัวขาดรายได้ไป ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลทางด้านสุขภาพหรือเศรษฐกิจ คนข้างหลังจะอยู่อย่างไร “การวางแผนทางการเงิน” จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่สามารถมองข้ามไปได้อย่างเด็ดขาด เช่นนั้นแล้ววันนี้เราจึงขอแนะนำ 5 เครื่องมีอทางการเงินเพื่อใช้ในการวางแผนชีวิตเพื่อต่อสู้กับความไม่แน่นอนของอนาคตที่อาจจะส่งผลต่อคนที่เรารัก
1. วางแผนรายรับรายจ่ายเพื่อไม่ให้ก่อหนี้ที่อาจส่งต่อคนในครอบครัวในอนาคต
หากที่ผ่านมา คุณใช้ชีวิตแบบสุดขั้ว ทั้งกิน-เที่ยว-ช็อปปิงแบบจัดเต็ม และไร้ซึ่งการรับรู้ถึง “สถานะทางการเงิน” ที่แท้จริงของตัวเอง ถือเป็นพฤติกรรมที่สุ่มเสี่ยงอย่างมาก ซึ่งหากเราใช้จ่ายจนแทบไม่เหลือสภาพคล่องทางการเงิน ใช้เงินแบบเดือนชนเดือนหรือบางเดือนก็มีเงินใช้ไม่ถึงสิ้นเดือน และปล่อยให้ตัวเองดำเนินพฤติกรรมเช่นนี้ต่อไปอาจไม่ส่งผลดีแน่ ๆ
การวางแผนรายรับรายจ่าย จึงเป็นการวางแผนทางการเงินอย่างง่ายที่สุด และสามารถเริ่มทำได้ทันที ทั้งนี้การวางแผนรายรับรายจ่ายจะทำให้เรารู้ถึงพฤติกรรมการใช้จ่ายของตนเอง อีกทั้งยังเป็นการสะท้อนสถานะทางการเงิน โดยทำให้รู้ถึงแหล่งที่มาที่ไปของรายได้ทั้งหมด และนำไปสู่การสร้างวินัยทางการเงิน เพื่อป้องกันการก่อหนี้สินที่ไม่จำเป็นที่อาจส่งผลกระทบต่อครอบครัวในอนาคต
2. เก็บเงินทุนสำรองฉุกเฉินใช้ในยามจำเป็นและกระทบกับคนในครอบครัวนี้น้อยที่สุด
อนาคตเป็นเรื่องไม่แน่นอน ไม่มีใครรู้ว่าความมั่นคงทางการเงินของเราจะพังทลายเมื่อไหร่ ด้วยสภาวะทางเศรษฐกิจเช่นนี้ ประกอบกับปัจจัยอื่น ๆ ที่ควบคุมไม่ได้ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดที่สุดคือ การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้ระบบเศรษฐกิจของทั้งโลกหยุดชะงักไปในช่วงเวลาหนึ่ง รวมถึงสภาวะสงครามที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในต่างประเทศ ต่างก็กระทบถึงเราไม่มากก็น้อย
การมี เงินทุนสำรองฉุกเฉิน จะสามารถช่วยเราได้หากมีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้น โดยเงินทุนสำรองฉุกเฉิน เป็นเงินก้อนหนึ่งที่เก็บเอาไว้แยกออกจากเงินเก็บโดยปกติ ซึ่งจะเป็นเสมือนป้อมปราการด่านสุดท้ายที่เอาไว้ใช้จ่ายในสถานะการณ์คับขันหรือสภาวะที่เราต้องการใช้เงินอย่างฉับพลัน
เบื้องต้นแต่ละคนควรมีเงินสำรองฉุกเฉิน 3-6 เท่าของค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน เช่น มีค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน 10,000 บาท ก็ควรจะมีเงินสำรองฉุกเฉิน 30,000-60,000 บาท และถึงแม้จะมีเงินสำรองฉุกเฉินสำรองเอาไว้แล้ว แต่ก็ควรจะนำเงินก้อนนี้ออกมาใช้ “ยามฉุกเฉิน” จริง ๆ เท่านั้น เพราะเหตุการณ์ไม่คาดคิดอาจเกิดขึ้นได้เสมอ กันเอาไว้ย่อมดีกว่าแก้แน่นอน
3. สร้าง passive income ให้เงินทำงานแทนเรา
passive income เป็นสิ่งที่คนรุ่นใหม่หันมาให้ความสำคัญกันมากขึ้น ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการหาเงินเข้ากระเป๋าแบบอัตโนมัติ หากว่าเรามี passive income มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งสะสมความมั่งคั่งทางการเงิน และช่วยให้สภาพคล่องของเงินในกระเป๋าเราดีขึ้นอีกด้วย
โดย passive income นั้นมีหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ดอกเบี้ย จากการฝากเงินกับสถาบันการเงินต่าง ๆ รวมถึงการฝากเงินกับสหกรณ์ออมทรัพย์ การซื้อพันธบัตร การลงทุนในตราสารหนี้ หรือการซื้อหุ้นกู้ โดยรายได้จากดอกเบี้ยจะมากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับรูปแบบการลงทุนและวินัยทางการเงินของเรา นอกจากนี้ยังมี passive income จากการใช้ ช่องทางออนไลน์ ให้เกิดประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างสรรค์คอนเทนต์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะในรูปแบบวิดีโอ ภาพ กราฟฟิก เพลง ฯลฯ หากเรามีความสามารถหรือความสนใจในเรื่องใดเรื่องหนึ่งเป็นพิเศษ และผลิตคอนเทนต์ที่โดนใจคนเสพสื่อก็สามารถพัฒนาต่อยอดให้เกิดการสร้างรายได้ให้กับเราได้ทางหนึ่งเช่นกัน
4. วางแผนประกันสุขภาพ เพื่อช่วยค่าใช้จ่ายในวันที่เราป่วย และไม่กระทบครอบครัว
อีกหนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับการวางแผนทางการเงินคือ ประกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การวางแผนประกันสุขภาพ เพราะความเจ็บป่วยเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ดังนั้นการวางแผนทำประกันสุขภาพจึงมีความสำคัญและจำเป็นอย่างมาก ประกันสุขภาพก็จะเปรียบเสมือนเบาะนุ่ม ๆ ที่จะคอยรองรับเราในวันที่เราเจ็บป่วยกะทันหัน เพราะจะสามารถช่วยเราแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายจากการรักษาพยาบาลได้ และทำให้เราไม่เป็นภาระของคนข้างหลังที่ต้องกู้หนี้ยืมสินมาจ่ายค่ารักษาพยาบาล
ABOUT THE AUTHOR
DiamondP
คนอยากเขียน กับความสนใจเยอะแยะ และเราเชื่อว่า คนทุกคนเท่าเทียมกัน