เมื่อปี 2556  อีฟ ปานเจริญ หรือ ปาล์มมี่ ประสบความสำเร็จจากเพลงช้า อยากหยุดเวลา เพลงประกอบภาพยนตร์พี่มาก..พระโขนง และเพลงกาลครั้งหนึ่งในปี 2557 ที่ร่วมร้องกับ แสตมป์ อภิวัชร์  หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้ฟังเพลงช้าซึ้งๆ ของปาล์มมี่อีกเลย เพราะซิงเกิ้ล 2 เพลงก่อนหน้าเป็นเพลงจังหวะสนุก เพลงนวด และเพลงแม่เกี่ยว

การกลับมาในรอบ 5 ปีของเพลงช้าปาล์มมี่ จึงเป็นสิ่งที่คนฟังต้องตรึงหูตรึงใจแน่นอน เพราะล่าสุดเธอได้ปล่อยเพลง ซ่อนกลิ่น ที่มีที่มาจากชื่อดอกไม้ไทย และอีกนัยหนึ่งหมายถึงการเก็บซ่อนอารมณ์ ซึ่งหลังจากที่เผยแพร่ไม่ถึงสองสัปดาห์ก็มียอดฟังเกินกว่า 10 ล้าน รวมถึง MV ที่ปล่อยออกมาสร้างปรากฏการณ์คลิกดูซ้ำจนตอนนี้ยอดพุ่งไปถึง 14 ล้านวิว บนยูทูปแล้ว โดยส่วนใหญ่คนฟังบอกว่า ฟังรอบแรกแล้วเพลงเข้าไปอยู่ในหัวจนเอาออกไม่ได้!!

อะไรเป็นสาเหตุให้เพลงซ่อนกลิ่นของปาล์มมี่ ประสบความสำเร็จ วันนี้เรามาหาคำตอบกัน?

ซ่อนกลิ่น เป็นเพลงแต่งโดย ปาล์มมี่ และ วีรณัฐ ทิพยมณฑล หรือ แจ๊ป เดอะริชแมนทอย ซึ่งก่อนหน้านี้เคยร่วมงานกันมาแล้วในซิงเกิ้ลแม่เกี่ยว ที่นำเอาเพลงพื้นบ้านเกี่ยวข้าวมาผสมกับซาวด์ดนตรีตะวันตก ใช้เสียงแคนมาสร้างความทันสมัย เป็นเนื้อเพลงออกแนวสู้ชีวิตต่างจากเพลงของปาล์มมี่ก่อนที่เคยนำเสนอก่อนหน้านี้ โดยในเพลง ซ่อนกลิ่น เป็นการนำกลอนสัมผัสแบบไทยๆ มาแต่งให้เป็นเพลงโดยมีดนตรีเบื้องหลังเป็นเสียงดนตรีสังเคราะห์ให้อารมณ์ล้ำยุค เป็นการผสมผสานระหว่างเสียงแห่งโลกตะวันตกและตะวันออกที่ลงตัว

เนื้อหาเพลงซ่อนกลิ่นมองได้สองมุม ในแง่ของวรรณศิลป์ไทยมีความคล้ายกับบทชมดอกไม้ ที่ในยุคก่อนมีการแต่งกลอนเพื่อพรรณาถึงความหอม ความงาม แล้วเปรียบเทียบกับนางอันเป็นสุดที่รักที่ต้องเหินห่างกัน เช่น

สายหยุดหยุดกลิ่นฟุ้ง        ยามสาย
สาย บ่ หยุดเสน่ห์หาย        ห่างเศร้า
กี่คืนกี่วันวาย        วางเทวษ ราแม่
ถวิลทุกขวบค่ำเช้า        หยุดได้ฉันใด
(ลิลิตตะเลงพ่าย)

นอกจากนี้ ซ่อนกลิ่น ยังมีความคล้ายกับเพลงไทยเดิม ซึ่งมีเนื้อเพลงพรรณาถึงกลิ่นหอมของดอกไม้ เปรียบเทียบกับความสวยงามที่เกินหมายปอง โดยมีเนื้อร้องระบุว่า

“…ยามเมื่อลมพัดหวน ลมก็อวลแต่กลิ่นมณฑาทอง
ไม้เอยไม้สุดสูง อย่าสู้ปอง ไผเอยบ่ได้ต้อง แต่ยินนามดวงเอย
โอ้เจ้าดวง เจ้าดวงดอกโกมล กลิ่นหอมเพิ่งผุดพ้น พุ่มในสวนดุสิตา
แข่งแขอยู่แต่นภา ฝูงภุมราสุดปัญญาเรียมเอย…”
(ลาวคำหอม)

เพลงซ่อนกลิ่นก็ใช้กลวิธีเช่นเดียวกัน โดยพรรณา-อุปมาโวหาร ถึงดอกซ่อนกลิ่นที่มีกลิ่นหอมรัญจวนซ่อนอยู่ในดอกไม้ หอมจนติดตรึงดวงใจ เปรียบกับความรักความหลังครั้งหวานชื่นในอดีตที่ได้แต่เก็บไว้ลึกสุดดวงใจ ไม่ลบลืมหายไปจากความทรงจำ ไม่อาจรื้อฟื้นความสุขนั้นให้หวนกลับมา และยิ่งนึกถึงทีไรก็ต้องอดใจไม่ให้ช้ำหวั่นไหว ได้แต่ข่มใจตัวเองให้เก็บเรื่องราวนั้นไว้ในใจ

“เจ้าดอกไม้ซ่อนกลิ่น หอมบาดลึกเกินใคร
หอมเกินหักห้ามใจ ทุกคราวต้องหวั่นไหว
ร้อยเก็บเจ้ามาลัย ทัดเธอไว้ในใจ เพื่อคงกลิ่นหอมไว้อย่างนั้น”

ไม่เพียงแต่เพลงที่ซ่อนความหมายไว้อย่างไพเราะ แต่ตัวมิวสิควิดีโอของ ซ่อนกลิ่น ก็ซ่อนความหมาย ซ่อนความรู้สึก และตัวละครไว้เยอะจนคนดูไม่อาจดูซ้ำในรอบเดียวแล้วจะเข้าใจได้

โดยเนื้อหาของ MV นำประเด็นที่ว่าทุกคนล้วนแต่มีอดีตอันหอมหวานที่ไม่อาจลบเลือนไปในจิตใจ ได้แต่เก็บซ่อนความสุขนั้นไว้ข้างใน เมื่อมาเจอสถานการณ์ที่ตอกย้ำหรือมาสะกิดให้นึกถึงความสุขนั้นก็ต้องเสียใจเพราะว่าอดีตที่เคยสุขไม่สามารถหวนกลับคืนมาได้อีกแล้วในความเป็นจริงสิ่งที่ทำได้คือซ่อนความรู้สึกนี้ไว้ในใจต่อไป

[wonderplugin_video iframe=”https://www.youtube.com/watch?v=wqJsZYibWcI” videowidth=600 videoheight=400 keepaspectratio=1 videocss=”position:relative;display:block;background-color:#000;overflow:hidden;max-width:100%;margin:0 auto;” playbutton=”https://bsite.in/wp-content/plugins/wonderplugin-video-embed/engine/playvideo-64-64-0.png”]

ใน MV สถานการณ์นั้นถูกเซ็ตขึ้นในเป็นเรื่องราวของงานเลี้ยงรวมรุ่นในคืนก่อนเข้าสู่ปีใหม่ เบลล่า นางเอกของเอ็มวี ได้แต่พึมพำในความคิด ถึงคนรักเก่าที่มาร่วมงานนั้นด้วย เธอยังคงคิดถึงวันวานเก่าๆ แต่ต้องเก็บซ่อนอารมณ์ไว้เพราะได้เลิกรากันไปแล้ว

ในตอนกลางของเพลงได้เผยโฉม กรรณ พระเอกที่ทำให้นางเอกหวนคิดถึงความสุขครั้งเก่า ในรอบแรกนี้คนดูได้เข้าใจของนางเอกอารมณ์ที่ต้องเก็บซ่อนความรู้สึกเอาไว้ได้แต่ฝืนยิ้ม ฝืนสนุกและสุดท้ายก็ได้แต่ปล่อยมันไป

มาถึงการดูซ้ำรอบที่สอง เราก็มาโฟกัสอารมณ์ของพระเอก แต่รอบนี้เราพบว่า กรรณ พระเอกของเรื่องโผล่มาตั้งแต่ต้นเอ็มวีเลยและนั่งอยู่ห่างจากนางเอกเพียงเก้าอี้ขั้นแค่ตัวเดียวนั่นทำให้เราสัมผัสได้มากขึ้นว่า เบลล่า ตอนนั้นมีอารมณ์อึดอัดมากแค่ไหนที่ต้องซ่อนความรู้สึกไว้ ในรอบนี้เราจะเห็นพระเอกพยายามจะทัก จะพูดคุยกับนางเอกแต่เธอก็ไม่ได้เห็นปฏิกิริยานั้น

เรื่องลับซ่อนไว้ยังไม่จบเพราะในช่องแสดงความคิดเห็นของเอ็มวีมีคนบอกว่า

ถ้าอยากรู้เรื่องราวทั้งหมดให้วนดูซ้ำอีกรอบ….

ในรอบที่ 3 เราจึงพบว่าในงานเลี้ยงนี้ไม่ใช่แค่พระเอกเท่านั้นที่มาร่วมงานแต่ยังมีแฟนใหม่ นั่นหมายถึง อดีตอันหอมหวานของนางเอกไม่มีทางกลับมาเป็นไปได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ภาพในเอ็มวียังเปิดโอกาศให้คนตีความออกไปในหลายทางแบบชนิดที่ว่า พอคลิกไปดูซ้ำมันมีแบบนี้ด้วยหรือ? เช่น มีคนเห็นว่าในฉากต่างๆของเพลงที่มีดอกไม้เข้ามาเกี่ยวข้อง ดอกไม้ในกรอบรูป ดอกไม้ประดับโต๊ะ ล้วนแต่เป็นดอกซ่อนกลิ่นทั้งนั้น

เพลงซ่อนกลิ่น อาจจะมีคนฟังและคนดูเอ็มวีที่แสดงทัศนะไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่ประสบการณ์ของผู้ฟังว่าเคยสัมผัสและผ่านชีวิตความรักที่เคยประทับใจในแบบไหนมาก่อน แต่ที่แน่ๆคือบทเพลงนี้มีความไพเราะจนเข้าไปติดตรึงในใจอย่างเอาออกได้ยากและยกเป็น 1 ในซิงเกิ้ลและเอ็มวีที่ดีที่สุดของปาล์มมี่ อีกหนึ่งผลงาน

“คงไว้ได้แค่กลิ่นที่ไม่เคยเลือนลา
ยังหอมดังวันเก่ายามเมื่อลมโชยมา
ทิ้งไว้เพียงอดีตที่ไม่เคยหวนมา ซ่อนเธอไว้ในใจ”

Copyright© Bsite.In