บรรดาผู้ผลิตรถยนต์เยอรมันต่างทราบดีว่าอนาคตของอุตสาหกรรมรถยนต์ในอนาคต คือ “รถยนต์ไฟฟ้า” และ “รถยนต์อัตโนมัติขับเคลื่อนเอง” (self-driving cars) โดยเมื่อเร็วๆ นี้ ทั้ง BMW และ Volkswage ก็กำลังจะทำข้อตกลงดีลใหญ่ในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์อัตโนมัติ ในเวลาไล่เลี่ยกันที่ประเทศจีน

ทั้งนี้ โรงงานผลิตรถยนต์ที่จีน เฉพาะปีที่แล้วสามารถผลิตรถยนต์นั่งส่วนบุคคลได้ประมาณ 25 ล้านคัน (ข้อมูลจาก International Organization of Motor Vehicle Manufacturers) อย่างไรก็ตาม ประเทศจีนมีความพร้อมอย่างมากที่ก้าวขึ้นมาเป็นตลาดระดับท็อปของแบรนด์รถยนต์ทั่วโลกที่พร้อมจะวิ่งเข้าหา อีกทั้งผู้บริโภคชาวจีนยังมีกำลังซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามากกว่าประเทศไหนๆ ในโลก ซึ่งทั้ง BMW และ Volkswagen ต่างก็รู้ดี จึงได้รุกตลาดนี้อย่างรวดเร็ว และเร็วๆ นี้ ก็กำลังจะปิดดีลใหญ่ถึง 6 ดีลภายในสัปดาห์เดียว

ทาง Volkswagen มีข้อสัญญามูลค่า 17.6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อทำการวิจัยที่จีนในหัวข้อที่ว่า สมาร์ทโฟนจะสามารถทำการเชื่อมต่อกับรถยนต์อัตโนมัติได้หรือไม่ โดย Herbert Diess ซีอีโอ Volkswagen ระบุว่า บริษัทตั้งใจที่จะขยายความเป็นพาร์ทเนอร์ชิพออกไปเพิ่มขึ้นในประเทศจีนอย่างแน่นอน

ขณะที่ BMW วางแผนที่จะผลิตรถยนต์ไฟฟ้า Minis ในจีน ด้วยการร่วมลงทุนกับ Great Wall Motor ค่ายผลิตรถยนต์ใหญ่จีน แล้วยังร่วมกับ Apollo โปรเจ็คต์รถยนต์อัตโนมัติของ Baidu บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อีกด้วย

ไม่เพียงแค่ 2 ค่ายนี้เท่านั้นที่อยากจะลุยตลาดจีน แม้แต่ Daimler บริษัทแม่ของ Mercedes-Benz เองก็ยังร่วมกับมหาวิทยาลัยชิงหวา มหาวิทยาลัยแถวหน้าของจีน ที่จะมุ่งมั่นพัฒนาสร้างรถอัตโนมัติขึ้นมาเช่นกัน

“จีนคือตลาดใหญ่ที่สุดสำหรับพวกเรา และเมื่อเราต้องการที่จะมุ่งไปสู่การพัฒนารถยนต์อัตโนมัติ เราต้องมั่นใจว่ามันทำได้จริงในเมืองจีน” Dieter Zetsche ซีอีโอ Daimler เคยกล่าวไว้ที่ฮ่องกง

หรือแม้แต่บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านชิ้นส่วนรถยนต์จากเยอรมัน ได้แก่ Continental ก็ยังสนใจที่จะร่วมลงทุนในจีน โดยล่าสุดกำลังประสานงานกับ Uber ในจีนคู่แข่งของ Didi Chuxing กับการ่วมกันลงทุนเพื่อพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์อัตโนมัติ

การลงทุนของเยอรมันดูจะมีโอกาสประสบความสำเร็จสูงมากทีเดียว เพราะเมื่อเร็วๆ นี้จีนเพิ่งจะผ่อนปรนกฎหมายการร่วมลงทุนกับต่างชาติ โดยอนุญาตให้บริษัทต่างชาติเข้ามาบริหารจัดการและมีอิสระได้มากขึ้นในประเทศจีน ซึ่งนั่นทำให้บริษัทรถยนต์ (หรือแม้แต่บริษัทเทคโนโลยี) หลายรายสนใจลงทุนในจีนมากขึ้น รวมไปถึง Tesla รถยนต์ไฟฟ้าของ อีลอน มัสก์ ด้วย

โดยเมื่อปีที่แล้ว ทาง Tesla ระบุว่า ได้มีการเจรจากับทางการเซี่ยงไฮ้เกี่ยวกับเรื่องการสร้างโรงงาน ซึ่งล่าสุดก็มีการยืนยันถึงแผนการเจรจาแล้วว่าจะสร้างโรงงานขึ้นจริง ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาอย่างน้อย 2 ปีในการเริ่มต้นสร้างโรงงานและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ

นอกจากนี้ ในส่วนของกรุงปักกิ่งเองทางการก็สนับสนุนบริษัทต่างชาติในการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อรถยนต์อัตโนมัติอีกด้วย สอดคล้องกับที่ล่าสุด Daimler ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า เขาคือบริษัทต่างชาติรายแรกที่ได้รับใบอนุญาตในการทดสอบรถอัตโนมัติบนถนนที่กรุงปักกิ่ง

Eric Totaro นักวิเคราะห์ด้านรถยนต์จาก Euromonitor International กล่าวว่า เป็นที่น่าจับตาว่าต่อไปผู้ผลิตรถยนต์ต่างๆ ของเยอรมันจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำนวัตกรรมและพาร์ทเนอร์คนสำคัญของจีนในการพัฒนารถอัตโนมัติ

“แต่ผมกลับค่อนข้างแปลกใจที่ ผู้ผลิตรถยนต์สหรัฐฯ กลับขยับตัวในเรื่องนี้ค่อนข้างช้า และกำลังจะกลายเป็นผู้ตาม”

มุมมองนี้ก็น่าสนใจไม่น้อยเลย.

Source : Money.cnn.com