- Celebrities
เสือเตี้ย “มาราโดน่า” ผู้สร้างสีสันได้ในทุกที่ ที่เหยียบย่างไป
By กาย แพ็ทเทอร์สัน • on Aug 09, 2019 • 2,698 Views
“เสือเตี้ย” ดิเอโก้ มาราโดน่า เป็นบุคคลนึงที่ผมชื่นชอบมากครับ
เคยได้มีโอกาสไปนั่งดูแบบสดๆในสนามเมื่อครั้งที่นาโปลียกพลมาเยือนโรม่าเมื่อซักร่วมๆ 35 ปีก่อนโน้น ยังจำลีลาเสือเตี้ยมาจนทุกวันนี้
มาราโดน่า “เสือเตี้ย” แห่งอาเจนไตน์แม้วันนี้อายุอานามจะปาเข้าไปค่อนคนแล้วแต่เสือเตี้ยยังซ่าไม่หยุด และ ยังดำรงสถานะความเป็น “ป๋า” แห่งวงการลูกหนังไว้ได้อย่างเหนียวแน่น
มาราโดน่า “เทพ” ขนาดไหนหรือ ??? (เด็กรุ่นหลังที่อยู่ในยุคเมสซี่ ยุคโรนัลโด้ อาจจะสงสัย)
เอาเป็นว่าตอนนั้นนาโปลีที่อยู่ในกัลโช่กำลังร่อแร่อยู่ท้ายตาราง
แล้วนาโปลีก็กินดีหมีหัวใจเสือซื้อมาราโดน่ามาร่วมทีมเพื่อกู้วิกฤติ
มาราโดน่ามาเล่นที่อิตาลีในแบบที่พูดได้เต็มปากว่า “แบกทีมเอาไว้ทั้งทีม”
จากร่อแร่ๆมาราโดน่านำทัพพาทีมจบฤดูกาลแรกได้รองแชมป์ , พอปีถัดมาพาทีมได้แชมป์เลย และ ตามมาด้วยแชมป์ยูฟ่าคัพ (ถ้วยเล็กของยุโรป)
การเซ็นต์สัญญาครั้งนั้นนาโปลียิ่งกว่าถูกหวยซะอีก เพราะโคตรจะคุ้ม คุ้มยิ่งกว่าแฟลตปลาทองเลยก็ว่าได้
มาราโดน่าไม่ใช่แค่นักฟุตบอล แต่เขาคือแม่ทัพ ความบ้าระห่ำของมาราโดน่านี่แหละที่ทำให้ลูกทีมฮึกเหิม เล่นบอลอย่างบ้าคลั่ง กระชากหนีที 3-4 คน จะหยุดพี่แกได้ก็ต้องเสียบเท่านั้น
เสียบไปก็ไม่แคร์ พอลุกขึ้นมาได้เสือเตี้ยก็ลุยอีกอยู่ดี
(แถมบางทีโดนเสียบ โดนงัด โดนสอย กรรมการไม่เป่าช่วยอีกต่างหาก เพราะเสือเตี้ยเล่นละครเก่ง ตบตากรรมการไว้เยอะ กรรมการเลยลังเลที่จะเป่าฟาวล์ให้เพราะกลัวโดนเสือเตี้ยแหกตา ไม่รู้ว่าเสือเตี้ยเล่นละครหรือเปล่า…5555)
เสือเตี้ยทั้งเก่ง ทั้งมีด้าน dark เหล้ายาปลาปิ้ง อบายมุข ยาเสพติด พี่แกเอาหมด
ด้วยความที่เสือเตี้ยพร้อมทำทุกอย่างนอกกติกาเพื่อชัยชนะเลยทำให้ทุกครั้งที่ลงสนามให้ทีมชาติ หรือ สโมสร พี่แกจึงเป็นทุกอย่างของทีม ลูกทีมให้ความเคารพ
หลายๆคนอาจจะแย้งว่าคนๆเดียวแต่แบกทีมทั้งทีมนี่มันจริงหรือ ??? เพื่อนร่วมทีมอีก 10 คนที่เหลือนี่ไม่มีมือมีตีน หรือ เล่นบอลไม่เป็นเลยหรือ ?? เสือเตี้ยมีอิทธิพลดีต่อใจลูกทีมขนาดนั้นเลยหรือ ??
ใช่ครับ…..มันสามารถแย้งกันได้ว่ามาราโดน่าโดน “อวย” เกินจริง แต่หากใครอายุครึ่งศตวรรษอย่างผมที่โตมาในยุคของเสือเตี้ย ได้เห็นเขาเล่นตั้งแต่หนุ่มยันแก่คงเห็นชัดว่าอย่างเสือเตี้ยนี่แหละคือการแบกทีมของจริง (ทั้งทีมนาโปลี และ ทีมชาติอาร์เจนติน่าในปี 1986)
สำหรับนาโปลีนั้นมาราโดน่าคือ “พระเจ้า” ถึงขนาดที่ว่ามันเคยมีแม็ทช์ระหว่างทีมชาติอิตาลี กับ อาร์เจนติน่า แล้วคนอิตาเลี่ยนส่วนหนึ่งที่เป็นแฟนนาโปลีพากันส่งเสียงเชียร์มาราโดน่าที่เป็นคู่แข่งของทีมชาติตัวเองเลยนั่นแหละ…พระเจ้ามั๊ยเล่า…??…55555
เสือเตี้ยคือตำนานที่ยังมีชีวิต หลายต่อหลายคนนำเอาเสือเตี้ยไปเปรียบกับ เปเล่ หรือ เมสซี่ และ พยายามหาคำตอบว่าใครยิ่งใหญ่กว่าใคร ???
อย่าไปคิดให้ปวดต่อมลูกหมากเลยครับ มันเปรียบเทียบกันไม่ได้หรอก เพราะฟุตบอลในยุคสมัยของทั้ง 3 คนนี้มีรายละเอียดที่ต่างกัน
ทุกคนต่างยิ่งใหญ่ในช่วงเวลาของตน
“ไข่มุกดำ” เปเล่นั้นสร้างตำนานมามากมาย
เมสซี่นี่ก็ขาดแค่ถ้วยแช้มป์โลก นอกนั้นก็ได้มาหมดแล้ว
ส่วนเสือเตี้ยก็มีเรื่องให้พูดถึงได้ยาวเป็นรถไฟสายใต้ กทม.-หาดใหญ่
ผิดแต่ว่าเสือเตี้ยแกมีครบทุกรส ทั้งเรื่องดี เรื่องร้าย โหด มันส์ ฮา…พี่แกมีครบเครื่องเลย ชีวิตมีสีสันสุดๆ เปเล่ กับ เมสซี่ ไม่ได้ครึ่งเลยในเรื่องแบบนี้
เอาแค่เรื่อง “หัตถ์พระเจ้า” เมื่อคราวที่ลงฟาดแข้งกับอังกฤษในบอลโลกปี 86 แล้วเสือเตี้ยเทคตัวขึ้นกลางอากาศสวนกับ ปีเตอร์ ชิลตั้น นายทวารเมืองผู้ดี ก่อนจะใช้ความไวเอามือปัดบอลเข้าประตูแบบที่กรรมการมองไม่ทันนี่ก็โคตรจะสีสันทั้งในด้านดี และ ด้านเลว (ดีสำหรับชาวอาร์เจนไตน์ เลวสำหรับคนอื่น..555)
เสือเตี้ยถึงจุดตกต่ำสุดๆในช่วงชีวิตที่ติดเหล้า ติดยา พี่แกหายหัวไปพักใหญ่ เพราะต้องไปรักษาตัวให้หาย ก่อนที่จะกลับมาใหม่ และแหย่เท้าเข้ามาในวงการบันเทิง
ไม่รู้ว่ายังไง อีท่าไหน เสือเตี้ยดันไปรู้จักสนิทสนมกับ “อีมีร์ คุสตูริก้า” Emir Kusturica
หมอนี่เป็นนักทำหนังชาวเซอเบียร์ เป็นพวกหัวก้าวหน้า แบดบอย อะไรแบบนั้น
แหมมม…ช่างเหมาะเจาะกับเสือเตี้ยดีจริงๆ
เซอเบียร์เป็นอีกประเทศในยุโรปตะวันออก ที่มีฝีไม้ลายมือในเรื่องของการเตะบอลพอสมควร แม้พวกเขาจะไม่ได้เป็นทีมระดับแนวหน้าของโลกลูกหนัง แต่ก็ไม่หมู ไม่กระจอก ชนิดแบกประตูกลับบ้านเป็นโหลแน่ๆ
อีมีร์ ทำหนังกึ่งๆสารคดีเรื่อง “MARADONA” ครัชชช
คนห่ามๆ 2 คนมาร่วมงานกัน
แหมมม…แฟนๆก็ซี๊ดปากไปเท่านั้นแหละ
หนังจะเล่าเรื่องในทุกแง่ทุกมุมของเสือเตี้ย โดยไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อเชิดชูเสือเตี้ยแต่อย่างใด เพราะมันจะบอกทั้งด้านสว่าง และ ด้านมืดของคนๆหนึ่ง
อีมีร์นำเอาหนังเรื่อง “MARADONA” ไปเปิดตัวที่เมืองคานส์
แน่นอนว่าได้รับทั้งเสียงชม และเสียงด่าจากบรรดานักวิจารณ์
แต่คนอย่างอีมี่ไม่แคร์หรอก เพราะคนอย่างอีมีนั้นถ้าไม่แน่จริงคงไม่คว้ารางวัล “ปาล์มทองคำ” มานอนกอดแน่ๆ ไม่ได้มาแบบฟลุ๊คๆ เพราะได้มาถึง 2 ครั้ง กับภาพยนตร์เรื่อง When Father Was Away on Business ปี 1985 และ Underground ในปี 1995
อีมีร์เป็นคนบ้าและห่ามพอๆกับเสือเตี้ย
เคยบ้าดีเดือดถึงขนาดท้าดวลปืนกับคู่อริกลางถนน
แต่โชคดีที่หมอนั่นไม่เอาด้วย ไม่งั้นอีมีอาจเท่งทึงไปนานแล้ว
เคยอารมณ์ขึ้นถึงขนาดตะบันหน้าคนที่พี่แกไม่ชอบใจ
ต่อยซะร่วงไปกองกับพื้น แถมยังเป็นการต่อยกันในงานเทศกาลหนังอีกต่างหาก
ดูวีรกรรมแล้วคงไม่แปลกใจที่ 2 คนนี้จะซี้กัน..ก็..แหมมม……นิสัยมันคล้ายกันซะขนาดนั้น
ซี้กันขนาดที่ว่าเสือเตี้ยยอมให้อีมีร์บุกถึงก้นครัว
ไปถ่ายภาพงานวันเกิดของลูกสาวสุดที่รักของเสือเตี้ย
แถมยังพาอีมีร์ไปเมาในงานวันเกิดของตัวเองเมาปลิ้นเละเทะเลย…!!!
อีมีร์เองก็หนีบเสือเตี้ยไปตะลุยเทศกาลหนังที่มืองคานส์
ว่ากันว่าเสือเตี้ยรื่นรมย์มากกับบรรยากาศของคนบันเทิง
แสง สี เสียง เหล้ายาปลาปิ้ง และ หญิงสาว ถูกใจพี่เตี้ยเขาแหละ
แถมยังชวนกันไปประท้วง จอร์จ บุช ในตอนที่บุชที่ไปเยือนอาร์เจนติน่า ชวนกันไปเมาเละเทะในคอนเสิร์ทต่อต้านการสูบบุหรี่…โห…..เข้าคู่กันได้กันกลืนมากๆ
ไม่ว่าใครจะชอบเสือเตี้ย
เกลียดเสือเตี้ย หรือ หมั่นใส้เสือเตี้ย
แต่ก็ไม่มีทางปฏิเสธได้ว่าหมอนี่คือสีสันของวงการลูกหนังจริงๆ
ด้วยวัยค่อนคนของพี่แก..เสือเตี้ยผ่านมาหมดแล้ว
ทั้งนรก สวรรค์ ตกอับ ได้ดี สุข เศร้า หรือ เฉียดตาย
ตอนที่เสือเตี้ยมาเมืองไทยนี่ก็โคตรจะสีสันเช่นกัน
ไม่มีใครรู้ว่าทำไมมาราโดน่าเลือกมาเมืองไทย และก็ใช้เวลาเที่ยวอยู่บ้านเราร่วมเดือน พี่แกไปหมดทุกที่ๆเขาว่าสวยนักสวยหนา
แถมยังทำตัวติดดินอีกต่างหาก
ตอนที่เสือเตี้ยไปพักที่พัทยา พี่แกก็พาเมียไปเดินซื้อของที่ตลาดนัด ซ.เทพประสิทธิ์
เดินแบบคนธรรมดานี่แหละ ไม่มีฟอร์ม ไม่มีอะไรทั้งสิ้น
มาราโดน่าซื้อปลาหมึกย่างเดินจิ้มกินจากถุงก๊อปแก๊ปอย่างอร่อย
มาเมืองไทยร่วมเดือน เห็นว่าเสือเตี้ยกินปลาหมึกย่างแทบทุกวันเลย..โอววว….
ก่อนจะบินกลับบ้านก็แวะมานอนที่ กทม. และซื้อโทรทัศน์กลับไปอาร์เจนติน่า 1 เครื่อง
มีคนสงสัยว่าที่บ้านไม่มีขายหรือไงถึงได้ถ่อสังขารมาหอบไปจากเมืองไทยได้ซะขนาดนี้ มาราโดน่าบอกว่าทีวี 40 นิ้วที่บ้านเขาแพงกว่าบ้านเรา ที่โน่นขายกันเครื่องละตั้ง 2 พันเหรียญ !!!
นี่แหละ….เสือเตี้ยผู้สร้างสีสันได้ในทุกที่ๆพี่แกเหยียบย่างไป…5555
ABOUT THE AUTHOR
กาย แพ็ทเทอร์สัน