การปลูกต้นไม้ดอกไม้ กลายเป็นงานอดิเรกที่คนเดี๋ยวนี้หันมาสนใจและเริ่มปลูกกันทั้งในและนอกบ้านมากยิ่งขึ้น บางคนอาจจะเลือกเป็นต้นไม้ใหญ่สำหรับปลูกรอบบ้านเพื่อให้ร่มเงา บางคนอาจจะเลือกเป็นต้นไม้ปลูกในบ้านที่มีคุณสมบัติในการช่วยฟอกอากาศเพื่อรับมือกับปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ที่เป็นพิษต่อระบบทางเดินหายใจของเรา หรือบางคนอาจจะปลูกต้นไม้ที่มีรูปร่างมินิมอลน่ารักเพื่อใช้เป็นของตกแต่งภายในบ้าน แต่วันนี้เราจะมาแนะนำต้นไม้ที่มีกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่วบ้านให้ทุกคนกันค่ะ

มะลิ (Jasmine)

หากถึงนึกถึงดอกไม้ที่มีกลิ่นหอม มะลิก็เป็นดอกไม้แรก ๆ ที่คนจะนึกถึงกัน มะลิสามารถปลูกได้ด้วยการปักชำกิ่ง ไม่จำเป็นต้องใช้เมล็ดก็ได้ และควรวางไว้ในที่ที่มีแสงสว่างเข้าถึงมาก เพราะมะลิเป็นต้นไม้ที่ต้องการแสงมาก แต่อุณหภูมิจะต้องไม่ร้อนเกินไปหรือเย็นเกินไป ให้อยู่ในอุณหภูมิที่ปกติ และไม่ต้องรดน้ำชุ่มมากนัก กลิ่นของมะลิที่สามารถนำไปทำน้ำมันหอมระเหยยังช่วยกระตุ้นระบบประสาทให้เราไม่ง่วงซึม และสดชื่นมากขึ้นอีกด้วย

ส้มจี๊ด (Kumquat)

ส้มจี๊ดเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่กำลังมองหาต้นไม้กลิ่มหอมน่าปลูกในบ้าน เพราะส้มจี๊ดนั้นให้ผลที่รสชาติเปรี้ยวจี๊ดสมชื่อและมีสรรพคุณมากมาย และยังออกดอกสีขาวที่มีกลิ่นหอมมากอีกด้วย กลิ่นของส้มจี๊ดจะเป็นกลิ่นหอมเย็น ๆ ตอนที่เราตื่นนอนและได้กลิ่นของส้มจี๊ดจะทำให้เรารู้สึกสดชื่นและกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น นอกจากนี้ คนยังถือว่าส้มจี๊ดเป็นไม้มงคลที่จะช่วยเพิ่มโชคลาภให้เราได้อีกด้วย

หอมหมื่นลี้ (Sweet Olive)

แน่นอนว่าหากพูดถึงต้นไม้ที่มีกลิ่นหอมแล้ว หอมหมื่นลี้ ก็เป็นต้นไม้ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เช่นกัน หอมหมื่นลี้ควรปลูกไว้ในที่ที่มีอากาศเย็น แต่ยังมีแสงแดดเพียงพอ กลิ่นหอมหมื่นลี้จะกลิ่นหอมอ่อน ๆ ตลอดทั้งวันทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย นอกจากนี้ เรายังสามารถนำดอกหอมหมื่นลี้ไปทำเป็นชา น้ำหอม และยารักษาโรค เนื่องจาก หอมหมื่นลี้มีสรรพคุณมากมายอย่างลดภาวะเครียด ลดคลอเรสเตอรอล ลดเบาหวาน และป้องกันโรคหัวใจ เป็นต้น

สะระแหน่ (Lemon Balm)

สะระแหน่เป็นพืชที่อยู่ในตระกูลเดียวกับมินต์และกะเพรา โดยมีจุดเด่นอยู่ที่กลิ่นหอมแรง แนะนำให้ปลูกไว้ในห้องน้ำเพื่อช่วยดับกลิ่นไม่พึงประสงค์ นอกจากนี้ สะระแหน่ยังเหมาะมากสำหรับผู้ที่มักจะมีอาการหวัด คัดจมูก หรืออาการหอบหืด เพราะกลิ่นหอมจากสะระแหน่นั้นจะช่วยบรรเทาอาการหลอดลมหดตัว ทำให้เรารู้สึกไม่อึดอัดและสดชื่นมากขึ้น สะระแหน่จึงมักนิยมนำไปสกัดเป็นน้ำหอมระเหยอยู่ในยาดมที่เราดมกันทุกวันนี้นั่นเอง

ลิลลี่ ออฟ เดอะ วัลเลย์ (Lily of the valley)

ต้นลิลลี่ออฟเดอะวัลเลย์คือต้นดอกลิลลี่ชนิดหนึ่งที่มีกลิ่นหอมหวานตลบอบอวลไปทั่ว ดอกไม้ชนิดนี้เป็นดอกไม้เมืองหนาว เพราะฉะนั้น จึงควรปลูกในที่ที่มีอุณหภูมิ 16-21 องศาเซลเซียส แต่ก็ยังต้องการแสงสว่างอยู่ ดังนั้น ควรให้เจ้าต้นลิลลี่ออฟเดอะวัลเลย์นี้ได้ออกไปรับแสงแดดบ้างเป็นเวลา 6-8 ชั่วโมง แม้ว่าดอลลิลลี่ออฟเดอะวัลเลย์จะมีกลิ่นที่หอมมาก แต่การนำไปใช้เป็นพืชสมุนไพรนั้นก็ยังเป็นเรื่องที่อันตราย เพราะหากไม่รู้วิธีนำมาใช้ให้ถูกต้องก็อาจจะเป็นพิษได้ แต่สามารถนำมาปลูกเพื่อให้บ้านมีกลิ่นหอมได้ ไม่อันตรายค่า

ทั้งหมดนี้ก็คือ ต้นไม้ที่มีกลิ่นหอม 5 ต้นที่เราอยากแนะนำให้คุณลองปลูกไว้ในบ้านค่า การอยู่ในบ้านที่มีทั้งสีเขียวของต้นไม้ใบไม้ และสีสันสวย ๆ ของดอกไม้ รวมไปถึงกลิ่นหอมรัญจวนใจของต้นไม้เหล่านี้แล้วนั้น น่าจะทำให้คุณรู้สึกสดชื่นและผ่อนคลายมากขึ้นนะคะ เลือกต้นไม้ที่ถูกใจ แล้วลองไปหามาปลูกกันดูได้ค่า

ขอบคุณที่มาจาก: trueID, Sanook, DIYInspirenow, Idofragrance, Bloggang