เรียกเสียงฮือฮากันสนั่นโลกโซเชียลกันไปเลยค่ะ เมื่อ เอซร่า มิลเลอร์ ปรากฎตัวบนพรมแดงงานรอบปฐมทัศน์ของภาพยนตร์เรื่อง Fantastic Beasts: The Crimes of Grindelwald ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ในชุดคลุมมิดตั้งแต่หัวจรดเท้า ชุดที่โลกโซเชียลแห่แซวว่าเป็นชุดมนุษย์ผ้านวม แต่วันนี้เราไม่ได้พาไปเจาะลึกเรื่องแฟชั่นกันหรอกนะคะ เราจะพาไปลงลึกยิ่งกว่านั้นในตัวของ “เอซร่า” กับ 

คำที่ค่อย ๆ แทรกซึมในสังคมเราให้คุ้นเคยกันมากขึ้นเรื่อย ๆ กับคำว่า Non-Binary

เอซร่า มิลเลอร์ – “ผมไม่ระบุ(เพศ)ตัวเองหรอก ช่างแม่*เถอะ!”

                หนึ่งในนักแสดงที่ปรากฎตัวเมื่อไรก็มักจะสร้างสีสันให้กับวงการเสมอ เอซร่า มิลเลอร์ ไม่ว่าคุณจะจดจำเขาในบทบาทอะไร ไม่ว่าจะเป็น The Flash หรือ ครีเดนซ์ แบร์โบน จาก Fantastic Beasts สิ่งหนึ่งที่โดดเด่นสำหรับเขาคนนี้ก็คือ การที่เอซร่าไม่นิยามตัวเองว่าเป็นเพศชายหรือเพศหญิง

                เขาเคยให้สัมภาษณ์กับสื่อใหญ่ในฮอลลีวูด The Hollywood Reporter ว่า…

“เควียร์มันไม่มีความหมายอ่ะ ผมไม่ใช่แบบนั้น ผมไม่นิยามตัวเองว่าเป็นผู้ชาย ผมไม่นิยามตัวเองว่าเป็นผู้หญิง ผมอยากจะนิยามตัวเองว่าเป็น ‘มนุษย์’”

                จากบทสัมภาษณ์นี้ชวนให้คิดจริง ๆ ค่ะ ว่าทุกวันนี้การที่โลกของเราประกอบไปด้วยเพศชาย และเพศหญิงนั้น มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ หรือเป็นสิ่งประกอบสร้างจากวิธีคิดของมนุษย์ ที่ใช้เพื่อแบ่งแยกลักษณะของคนสองแบบให้แตกต่างกัน ซึ่งมันผูกโยงไปถึงบริบทการปฏิบัติตัวและวิถีชีวิตต่าง ๆ ด้วย

                การแบ่งชาย-หญิง หรือ Binary (การแบ่งเพศแบบทวิลักษณ์) เป็นสิ่งที่อยู่คู่กับสังคมมนุษย์มานานแสนนาน แต่เมื่อโลกหมุนเวียน หลายสิ่งย่อมมีการเปลี่ยนแปลง มันจึงอดไม่ได้ค่ะที่จะมีคนลุกขึ้นมาตั้งคำถามกับแนวคิดเก่า ๆ ว่ามันจะสามารถแตกต่างจากเดิมได้ไหม? นั่นล่ะค่ะคือจุดเริ่มต้นของ Non-Binary

ชาย,หญิง,เกย์,ทอม,ดี้ ไม่เท่ากับ Non-Binary

                หาก Binary คือการแบ่งเพศออกเป็นชาย/หญิง Non-Binary คือสิ่งที่อยู่ตรงกันข้ามค่ะ ต้องยอมรับว่ามันดูเป็นเรื่องแปลกใหม่ที่ค่อนข้างยากที่จะทำความเข้าใจสักเล็กน้อย ลองเริ่มต้นง่าย ๆ ค่ะ มนุษย์เราเกิดมาถูกมอบเพศให้โดยคนที่อยู่มาก่อน ซึ่งทั้งหมดเกิดขึ้นจากการที่สังคมระบุว่า เป็นแบบนี้คือเพศนี้ เป็นแบบนี้คือเพศนี้ การเป็นนอน-ไบนารี คือการไม่ถูกระบุด้วยเพศใด ๆ เป็นเพียงแค่ ‘มนุษย์’ เท่านั้น

                การไม่ระบุว่าเป็นเพศใด ตามการนิยามของสังคมนั้นอาจเป็นเรื่องที่ชวนให้รับได้ยาก เพราะทุกสิ่งย่อมมีต้องมีคำอธิบาย ถูกไหมคะ?

                สำหรับพวกเขาเหล่านี้แล้วสิ่งที่สังคมกำหนดว่านี่คือสิ่งที่เพศชายทำ นี่คือสิ่งที่เพศหญิงทำ ใช้ไม่ได้กับพวกเขาค่ะ พวกเขาคือกลุ่มคนที่อยู่บนเส้นของอิสระ ที่สามารถเลือกได้ด้วยตัวเองว่าจะแสดงออกและยึดมั่นในตัวตนแบบไหน การถูกตีกรอบจากสังคมไม่มีผลใด ๆ

                เมื่อมาถึงตรงนี้ หลายคนอาจนำ Non-Binary ไปปะปนกับ LGBT ซึ่งต้องขอบอกเลยว่า 2 นิยามนี้มีทั้งส่วนที่เหมือนและแตกต่างกันค่ะ ในขณะที่นอน-ไบนารีไม่นิยาม หรือจำกัดตัวเองว่าเป็นเพศชายหรือหญิง LGBT ยังมีภาพซ้อนทับของบทบาทของเพศชาย/หญิง อยู่บ้าง อาทิ เกย์ ก็แบ่งเป็น เกย์รุก/รับ ซึ่งเป็นการมอบบทบาทความเป็นชายและความเป็นหญิงให้ครอบคำว่าเกย์ลงไปนั่นเอง

                พอจะเห็นภาพไหมคะ? Non-Binary พวกเขาไม่ถูกจำกัดด้วยบทบาทเหล่านั้น ในวันนี้พวกเขาอาจจะชอบผู้ชาย อนาคตผ่านไปพวกเขาอาจจะชอบผู้หญิง หรือ LGBT หรือ Non-Binary ด้วยกันเอง เพราะพวกเขาไม่ได้มองมนุษย์โดยแบ่งแยกออกเป็นเพศชายหรือหญิงตามที่สังคมกำหนด พวกเขามองมนุษย์ที่เป็นแค่ ‘มนุษย์’ นั่นเอง

ถ้าเพศเป็นแค่สิ่งสมมุติแล้ว เราจะใช้ชีวิตต่ออย่างไร??

                เราเกิดมารับรู้ว่าสังคมมีรากฐานเป็นเพศชายและหญิง จากพ่อและแม่ของเรา ก่อนที่จะเติบโตเรียนรู้จากสภาพสังคมถึงความหลากหลายว่ามันมี LGBT อยู่ด้วย แต่ในตอนนี้โลกของเรามีความหลากหลายทางเพศมากยิ่งขึ้น โลกของเรากว้างเกินกว่าจะถูกจำกัดด้วยกรอบทางเพศที่ถูกสร้างโดยวิธีคิดทางวัฒนธรรมของสังคมใดสังคมหนึ่งแล้วค่ะ โลกของเรามีความหลากหลายมากกว่านั้น

                สำหรับคำถามที่ว่า ถ้าเพศเป็นแค่สิ่งสมมติจริง ๆ แล้วพวกเราจะใช้ชีวิตกันต่อไปอย่างไร จะมีอะไรมาอธิบายและให้ความหมายของสิ่งที่เป็นอยู่ได้บ้าง?? คำตอบของคำถามนี้ไม่ยากเลยค่ะ ลองมองย้อนกลับไปสู่สิ่งที่เป็นพื้นฐานที่สุด เราทุกคนล้วนอยากใช้ชีวิตเพื่อความสบายใจและความสุข การใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางสังคมที่มีความหลากหลายทางเพศนั้นก็แค่ “ใช้ชีวิตในแบบที่เราอยากจะเป็น” ก็พอค่ะ แต่ Noted ไว้นิดหนึ่งว่าต้องไม่ใช่การทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนนะคะ…XOXO

ภาพจาก: IMDB

Copyright© Bsite.In