- Family
5 วิธีซัพพอร์ตเด็กตอนเรียนออนไลน์ ฉบับง่าย ๆ สำหรับผู้ปกครอง
By aritnim • on Jan 27, 2022 • 584 Views
ในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 แบบนี้ สถานศึกษาหลายแห่งไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยก็จำเป็นต้องประกาศหยุดการเรียนการสอนในห้องเรียน (On-site) และปรับรูปแบบการเรียนการสอนไปเป็น Online แต่แน่นอนว่า การเรียนออนไลน์นั้นแตกต่างจากการเรียนออนไซต์เป็นอย่างมาก นักเรียนนักศึกษาต่างมีข้อคิดเห็นว่า การเรียนออนไลน์นั้นไม่มีประสิทธิภาพเท่ากับการเรียนออนไซต์ ทั้งไม่มีสมาธิ ลดโอกาสในการเข้าสังคม รวมถึงมีปฏิสัมพันธ์กับคุณครูอาจารย์น้อยซึ่งอาจทำให้ไม่เข้าใจในบทเรียนอีกด้วย ดังนั้น นอกจากนักเรียนนักศึกษาจะต้องตั้งใจเรียนเองแล้ว ผู้ปกครองก็ควรจะคอยสนับสนุนและช่วยให้ลูกหลานของตัวเองได้เรียนออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพ วันนี้ เราจึงขอแนะนำ 5 วิธีที่คุณผู้ปกครองสามารถทำได้ง่าย ๆ แต่รับรองว่าได้ช่วยเหลือและซัพพอร์ตลูก ๆ หลาน ๆ ในการเรียนออนไลน์อย่างเต็มที่แน่นอน
1. จัดหาอุปกรณ์และอินเทอร์เน็ต
เริ่มจากการหาอุปกรณ์ให้พร้อมสำหรับเรียนออนไลน์ อาจจะเลือกใช้เป็นคอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊ค แท็บเล็ต หรือโทรศัพท์มือถือที่สามารถโหลดแอปพลิเคชันในการเรียนก็ได้ นอกจากอุปกรณ์แล้ว ผู้ปกครองควรติดตั้งอินเทอร์เน็ตที่มีความเร็วสูงเพื่อให้การถ่ายทอดสดหรือวิดีโอการเรียนการสอนคมชัดและมีคุณภาพ
2. ศึกษาเรียนรู้โปรแกรมหรือแอปพลิเคชันต่าง ๆ ที่ต้องใช้เรียนออนไลน์
ในการเรียนออนไลน์ นักเรียนนักศึกษาจะต้องใช้โปรแกรมหรือแอปพลิเคชันที่สามารถสื่อสารกับคุณครูอาจารย์ได้ แอปพลิเคชันสำหรับเรียนออนไลน์ที่คนนิยมใช้นั้นมีมากมาย ยกตัวอย่างเช่น Zoom Meetings, Microsoft Teams, Google Meet เป็นต้น นอกจากโปรแกรมสำหรับเรียนออนไลน์เหล่านี้แล้ว ยังมีแอปพลิเคชันสำหรับจดบันทึก อัดเสียง รวมถึงทำ Assignment และ Presentation อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น Notability, Goodnotes, Canva, Procreate ผู้ปกครองอาจจะลองใช้และทำความเข้าใจคำสั่งต่าง ๆ ในโปรแกรมและแอปพลิเคชันที่เด็กเลือกใช้ เพื่อให้สามารถช่วยเหลือได้เวลาที่เกิดปัญหาขัดข้อง
3. สร้างพื้นที่เฉพาะสำหรับการเรียนออนไลน์เพื่อให้เด็กมีสมาธิ
ตั้งแต่มีการเรียนออนไลน์มา เด็กหลายคนก็พบปัญหาไม่มีพื้นที่สำหรับนั่งเรียนออนไลน์โดยเฉพาะ บางครั้งก็อาจจะมีคนเดินไปเดินมาในบ้านหรือส่งเสียงรบกวนสมาธิระหว่างที่เรียนอยู่ ทำให้เด็กไม่สามารถโฟกัสและเข้าใจบทเรียนได้อย่างเต็มร้อย ดังนั้น การจัดสรรพื้นสำหรับเรียนออนไลน์โดยเฉพาะเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก โดยผู้ปกครองอาจจะร่วมจัดหรือตกแต่งห้องกับเด็ก เพื่อให้ห้องหรือมุมนั้นกลายเป็นที่โปรดหรือเป็นสถานที่ที่เขาอยากจะใช้เวลาอยู่ตรงนั้นมากขึ้น และแน่นอนว่าควรจะกำหนดเวลาหรือขอบเขตเพื่อกันไม่ให้ใครเข้าไปรบกวนพื้นที่เรียนออนไลน์ของเด็กตรงนั้นอีกด้วย
4. พูดคุยกับเด็กหลังเลิกเรียน
การพูดคุยกับเด็กหลังเลิกเรียนเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างมาก เพราะผู้ปกครองสามารถสอบถามเด็กได้ว่าการเรียนออนไลน์เป็นอย่างไร พบปัญหาอะไรบ้าง เมื่อรับรู้ถึงปัญหาก็จะสามารถหาทางแก้ไขต่อไปได้ นอกจากนี้ ผู้ปกครองอาจจะช่วยสอนการบ้านเมื่อเขาไม่เข้าใจในบทเรียนด้วยก็ได้ ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ ผู้ปกครองควรพูดให้กำลังใจ ชื่นชมและไม่กดดันพวกเขา เพื่อให้เด็กสามารถมีกำลังใจเรียนออนไลน์ต่อไปได้และไม่รู้สึกเครียดมากจนเกินไป
5. จัดตารางเวลาอย่างเหมาะสม
การจัดตารางเวลาอย่างเหมาะสมก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เด็กเรียนออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยอาจจะจัดตารางเรียนตามเวลาที่ทางสถาบันศึกษากำหนดมาแล้ว จากนั้นให้แทรกเวลากินข้าวและเวลาพักเข้าไปด้วยเพื่อให้เด็กได้ลดความเครียดจากการเรียนลง และเมื่อเลิกเรียนแล้วก็ควรปล่อยให้เด็กได้ทำสิ่งที่ชอบ เช่น งานอดิเรกต่าง ๆ ตามที่เขาต้องการเพื่อให้เด็กรู้สึกผ่อนคลายจากการเรียนออนไลน์มาทั้งวัน
ทั้งหมดนี้คือ 5 วิธีที่ผู้ปกครองจะสามารถช่วยเหลือและส่งเสริมลูกหลานในการเรียนออนไลน์ ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ เชื่อว่าหลายคนจะสามารถทำตามได้แน่นอน อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ปกครองที่มีรายได้น้อยก็อาจจะมีปัญหาในเรื่องของการจัดเตรียมอุปกรณ์และอินเทอร์เน็ตสำหรับเรียนออนไลน์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ควรจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือและแก้ปัญหาด้วย ต่อไปนี้เราก็หวังว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในประเทศไทยจะดีขึ้น และนักเรียนนักศึกษาจะได้เข้าเรียนในห้องกับเพื่อน ๆ ที่สถาบันศึกษาตามปกตินะคะ
ABOUT THE AUTHOR
aritnim