หลังจากที่เราแนะนำให้ทุกคนรู้จักประวัติความเป็นมาของ
Pride Month กับเหตุผลที่ว่าทำให้เดือนมิถุนายนถึงสำคัญสำหรับชาว
LGBTQ+ กันไปแล้วในบทความนี้ > ย้อนประวัติ ไขที่มาของ Pride
Month ทำไมเดือนมิถุนายนถึงสำคัญสำหรับชาว LGBTQ+ วันนี้เราจะพาทุกคนไปเฉลิมฉลองเดือนแห่ง Pride ในอีกรูปแบบหนึ่งที่สามารถทำได้ง่าย ๆ ชิล ๆ
อยู่ที่บ้าน แถมยังได้เสพย์ความบันเทิงที่จะทำให้วันธรรมดา ๆ
ของคุณมีสีสันยิ่งกว่าเดิม กับ 10 คอนเทนต์ LGBTQ+
บน Netflix ที่เราคัดมาทั้งหนัง, ซีรีส์, ทีวีโชว์ และสารคดี
จะมีอะไรบ้างไปดูกัน
Heartstopper – เธอทำให้ใจฉันหยุดเต้น
ซีรีส์ใส ๆ จากเกาะอังกฤษ
เรื่องราวของชาร์ลี และนิค กับความสัมพันธ์สุดว้าวุ่นของพวกเขา ความน่ารัก และฟีลกู๊ดของเรื่องนี้คว้าใจเราอยู่หมัด
เสน่ห์และเคมีของนักแสดงทั้งสองคนไปด้วยกันได้อย่างลงตัว
แม้ว่านี่จะเป็นซีรีส์วัยรุ่น และประเด็นของการ Come Out จะไม่ได้ใหม่อะไรในยุคนี้
แต่นี่เป็นซีรีส์น้อยเรื่องที่จะหยิบเรื่องราวของ Bisexual มาเล่าแบบจริง
ๆ จัง ๆ และฉากที่ชนะใจคนที่ได้ดูไปแบบขาดลอยก็คือ ฉากท้ายเรื่องที่นิคตัดสินใจบอกแม่ของเขาว่า
เขาเป็นไบเซ็กชวล บทพูดและการแสดงมันชวนให้อิ่มเอมหัวใจจริง ๆ
Rupaul’s Drag Race
ไม่พูดถึงก็เห็นทีจะผิดถนัด
เพราะนี่คือรายการเรียลลิตี้ที่ถูกขนานนามว่าเป็นเหมือนกับ โอลิมปิกของเหล่า Drag Queen กับการดึงเอาตัว Drag Queen มากหน้าหลายบุคลิกมาร่วมกันแข่งขันในภารกิจต่าง
ๆ เพื่อหาผู้ชนะเพียงคนเดียวที่จะได้ครองตำแหน่ง America Next Drag Superstar ดำเนินรายการโดยตำนานแห่งเหล่าแดร็กควีน Rupaul โดยในตอนนี้บน Netflix
มีฉายแล้วทั้งหมด 13
ซีซั่น ใครที่อยากจะสัมผัสวัฒนธรรมสุดครีเอทีฟนี้ แถมยังจะได้แสลงสุดเฟี้ยสไปใช้เสริมความรู้แบบเก๋
ๆ ต้องห้ามพลาด
Call me by your name – เอ่ยชื่อคือคำรัก
หนังเรื่องนี้อาจจะเก่าไปสักนิด
แต่ความประทับใจของมันไม่เคยจางหายไปไหนเลยจริง ๆ กับภาพยนตร์ Call me by your name เรื่องราวของเอลิโอ และโอลิเวอร์ ในบรรยากาศฤดูร้อนของประเทศอิตาลี
กับความรักที่เกิดขึ้นแบบไม่ได้ตั้งตัว ความว้าวุ่นในใจของเอลิโอ
กับช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่เขาต้องค้นหาตัวตน และเติบโตไปพร้อมกับความสัมพันธ์ที่เริ่มต้นขึ้น
ท่ามกลางความอบอุ่นของครอบครัวที่ประคับประคองในทุกช่วงความรู้สึก แต่ฤดูร้อนก็มีวันสิ้นสุด
ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไม่อาจลงเอยกันได้อย่างสวยงาม
นั่นทำให้ฉากหน้าเตาผิงในตอนท้ายเรื่องมันจุกอกจนตราตรึงใจ
Sense8
หนึ่งในซีรีส์ขึ้นหิ้งที่ทะลายทุกเส้นแบ่งทางเพศอย่างไม่มีเหลือ
เรื่องราวของคน 8 คนที่สามารถสัมผัสถึงกันได้ราวกับเป็นคน ๆ เดียวกัน
พวกเขาสามารถแชร์ความรู้สึก แชร์ประสบการณ์ แชร์ภาพที่เห็นซึ่งกันและกันได้
นั่นนำไปสู่เรื่องราวการเอาตัวรอดสุดระทึก ที่คละเคล้าไปด้วยความสัมพันธ์ที่หลากหลาย
แม้จะมีเพียงแค่ 2 ซีซั่น แต่เมื่อดูจบแล้ว โลกทัศน์ในการมองเส้นแบ่งทางเพศของคุณจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
มันจะทำให้คุณสามารถยอมรับได้มากขึ้นกว่าเดิมว่า โลกใบนี้มันสามารถมีความสัมพันธ์เกิดขึ้นได้ทุกรูปแบบโดยไม่จำกัดเพศสภาพ
หรือเพศวิถีใด ๆ ทั้งสิ้น
Badhaai Do – ยินดีอย่างที่ซู้ด
หลังจากที่
คังคุไบ ปลุกกระแสภาพยนตร์อินเดียให้บูมขึ้นมาอีกครั้ง วันนี้เราก็อยากจะขอแนะนำภาพยนตร์อีกเรื่องที่น่าสนใจไม่แพ้กัน
แต่เป็นภาพยนตร์แนวฟีลกู๊ด และเป็นเรื่องราว LGBTQ+ ในสังคมอินเดียด้วย
กับเรื่องราวของนายตำรวจเกย์ ที่ตัดสินใจแต่งงานกับคุณครูเลสเบี้ยน
เพื่อตบตาครอบครัว ความสัมพันธ์อันยุ่งเหยิงของพวกเขาได้เริ่มต้นขึ้น นำไปสู่เรื่องราวที่จะเรียกทั้งเสียงฮา
และความประทับใจ พร้อมกับพาเราไปสัมผัสอีกด้านทางสังคมของอินเดีย
Queer Eye
รายการเมคโอเวอร์
ที่เป็นมากกว่าการเปลี่ยนโฉมธรรมดา ผ่านสายตาของเหล่า แฟ็ปไฟว์ ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านต่าง
ๆ ทั้งด้านสังคม, การทำอาหาร, ตกแต่งบ้าน, แฟชั่นการแต่งกาย และการดูแลรูปลักษณ์ภายนอก
ทั้ง 5 คนจะพาเราไปสัมผัสกับชีวิตของคนที่หลากหลาย
กับเรื่องราวของพวกเขาที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน สิ่งที่น่าประทับใจของเควียร์อายก็คือ
พวกเขาไม่ได้ไปเปลี่ยนชีวิตของคน ๆ นั้นโดยไม่เหลือเค้าเดิม
แต่ไปชี้ให้เห็นว่าพวกเขาสามารถเป็นตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีขึ้นได้อย่างไร
และขอบอกเลยว่า หลายตอนของรายการนี้จะเรียกน้ำตาคุณด้วยความประทับใจอย่างไม่มียั้งมือ
เพราะฉะนั้นเตรียมทิชชู่เอาไว้ก่อนดูด้วยล่ะ!
Special – พิเศษกว่าใคร
อย่างที่บอกไปแล้วว่า
ความหลากหลายทางเพศมันไม่มีเส้นแบ่งมาขีดกั้น นี่คือหนึ่งในซีรีส์ที่จะมาขยายขอบเขตนั้นออกไป
Special เป็นเรื่องราวของ ไรอัน เฮยส์ หนุ่มเกย์ผู้ป่วยเป็นโรคสมองพิการ วันหนึ่งเขาอยากจะทำให้ชีวิตของเขามีสีสันกว่าเดิม
และไม่ซ้ำซากจำเจ เลยเริ่มที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองใหม่ ก้าวเข้าสู่สังคมใหม่ ๆ
กิจกรรมใหม่ ๆ ความฟีลกู๊ดของเรื่องนี้จะเข้ามาขยายสเปกตรัมของความหลากหลายของคุณมากขึ้นกว่าเดิม
แล้วคุณจะยอมรับได้มากขึ้นว่า ไม่ว่าใครก็สามารถเป็นคนพิเศษได้ทั้งสิ้น
Your Name Engraved Herein – ชื่อที่สลักไว้ใต้หัวใจ
นี่คือหนึ่งในภาพยนตร์น้ำดีจากไต้หวัน
เรื่องราวของสภาพสังคมไต้หวันในยุค 1980 เรื่องราวของอาฮั่น และเบอร์ดี้ หนุ่มหัวขบถ
เริ่มต้นขึ้นหลังกฎอัยการศึกสิ้นสุดลงในปี 1987 ความสัมพันธ์ของพวกเขาก็เริ่มก่อตัวขึ้นมากกว่าเพื่อน
ท่ามกลางความกดดันอันแสนหนักอึ้งที่มาจากครอบครัว การเกลียดชังคนรักเพศเดียวกัน และการตีตราทางสังคมที่เข้มข้น
นี่ไม่ใช่ภาพยนตร์แนวรักโรแมนติก แต่มันอุ่นครุไปด้วยงานดราม่าชั้นเยี่ยมที่ชวนให้จุกไปทั้งอก
ใครที่อยู่ในความสัมพันธ์อันแสนคลุมเครือไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
Pray Away – สวดแก้เกย์
ย้ายฝั่งจากหนัง
ซีรีส์ และทีวีโชว์ มาเป็นสารคดีกันบ้าง หลายคนคงจะเคยได้ยินเรื่องราวของการบำบัดการเป็นเกย์กันมาบ้าง
ซึ่งก็คงจะรู้กันดีกว่ามันไม่สามารถช่วยได้ ซ้ำร้ายยังสร้างบาดแผลทางจิตใจให้กับผู้ที่ประสบอย่างไม่อาจลบเลือน
สารคดีเรื่องนี้จะพาเราไปสำรวจชีวิตหลังจากนั้นของพวกเขา โดยจะเป็นเรื่องราวของอดีตผู้นำและเหยื่อจากการเคลื่อนไหวที่เรียกว่า
“การบำบัดแก้เพศวิถี” พร้อมเล่าถึงสิ่งที่ยังเป็นภัยและบ่อนทำลายสังคมต่อชาว LGBTQ+ มาจนถึงทุกวันนี้
Q-Force – สายลับพลังคิว
ปิดท้ายกันด้วยการ์ตูนสายลับสุดเกย์
ที่ขอบอกเลยว่ามันส์ และเหมือนเป็นเจมส์ บอนด์เวอร์ชั่น Queer กับเรื่องราวการกู้โลกของสมาชิกทีม Q-Force ที่เต็มไปด้วยความบันเทิง ความฮา
แต่ก็แทรกประเด็นเรื่องความหลากหลายทางเพศเอาไว้อย่างครบถ้วน เป็นการ์ตูนแอนิเมชั่นที่สามารถดูได้สบาย
ๆ เพลิน ๆ รู้ตัวอีกทีก็ดูจบครบทุกตอนแบบไม่ทันตั้งตัว ใครอยากหาอะไรเบาสมองเอาไว้ดูในช่วงวันอันแสนหนักอึ้ง
เราแนะนำเรื่องนี้เลยจริง ๆ
นี่คือ 10
คอนเทนต์บน Netflix ที่เราอยากจะแนะนำให้คุณได้ลองสัมผัสกันเพื่อเฉลิมฉลอง
Pride Month ในปีนี้ แต่นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งท่ามกลางมหาสมุทรของความหลากหลายทางเพศ
หากใครมีคอนเทนต์อะไรที่ประทับใจอยากจะแนะนำให้เราและเพื่อน ๆ ได้ตามไปเสพย์กันก็อย่าอาย
บอกเรามาได้เลย และสุดท้ายนี้…Happy
Pride!
ABOUT THE AUTHOR
DiamondP
คนอยากเขียน กับความสนใจเยอะแยะ และเราเชื่อว่า คนทุกคนเท่าเทียมกัน