- Entertainment
Unsung Movie หนัง (ไม่) ดัง ที่เราอยากให้ดู : Ruby Sparks
By Thomas Chon Hansen • on Jun 24, 2019 • 2,069 Views
มีหนังรักอยู่เรื่องหนึ่งที่ส่วนตัวแล้วชอบมากๆ และคิดอยู่เสมอว่าถ้ามีโอกาสอยากหยิบหนังเรื่องนี้มาแนะนำให้รู้จักกัน…
หนังเรื่องที่ว่าก็คือ Ruby Sparks (2012) ผลงานของผู้กำกับคู่สามี-ภรรยา โจนาธาน เดย์ตัน และ วาเลรี่ ฟาริส ที่เคยสร้างชื่อจาก Little Miss Sunshine (2006) ซึ่งกลายเป็นหนังในดวงใจของใครหลายคน
Ruby Sparks เล่าเรื่องของ คาลวิน (รับบทโดย พอล ดาโน่) นักเขียนอัจฉริยะเจ้าของผลงานหนังสือระดับเบสต์เซลเลอร์ ที่คิดงานเขียนเรื่องใหม่ไม่ออกเพราะเกิดอาการไอเดียตีบตันอย่างหนัก แถมยังกลายเป็นคนเก็บเนื้อเก็บตัวไม่ค่อยกล้าเข้าสังคม จนต้องไปปรึกษาจิตแพทย์
ระหว่างนั้นเอง คาลวิน ก็เริ่มฝันแปลกๆ ถึงสาวสวยคนเดิมซ้ำกันทุกคืน และสาวในฝันคนดังกล่าวก็ทำให้เขาเกิดแรงบันดาลใจในการเขียนหนังสือใหม่เรื่อง รูบี้ สปาร์คส์ ขึ้นมา
แต่แล้ววันหนึ่ง เหตุการณ์ประหลาดก็เกิดขึ้น เมื่อจู่ๆ รูบี้ (รับบทโดย โซอี้ คาซาน คู่รักในชีวิตจริงของ ดาโน่) ตัวละครในหนังสือเกิดมีชีวิตขึ้นมาจริงๆ แถมอาศัยอยู่ในบ้านอีกต่างหาก
งานนี้ทำเอา คาลวิน งงเป็น ไก่ตาแตก จนต้องพยายามหาวิธีการพิสูจน์ว่า เขาไม่ได้เพ้อจนเห็นภาพหลอน แต่ รูบี้ มีตัวตนจริงๆ พอรู้ตัวอีกที คาลวิน ก็ตกหลุมรักตัวละครในหนังสือที่ตัวเองเขียนแบบถอนตัวไม่ขึ้นเสียแล้ว
อย่างไรก็ตาม ความรักอันสุดแสนแปลกประหลาดระหว่าง เขา กับ รูบี้ ก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบอย่างที่หวังไว้ เพราะหลังจากผ่านพ้นช่วงเวลาแห่งความหวานชื่นไปแล้ว รูบี้ ก็ค่อยๆ เริ่มเปลี่ยนไปจากเดิมมากขึ้นทุกวันๆ
จนในที่สุด คาลวิน ก็หมดความอดทน ตัดสินใจกลับไปแก้ไขหนังสือที่เขาเคยเขียนเกี่ยวกับ รูบี้ ซะใหม่ เพื่อให้ รูบี้ กลับมาเป็นหญิงสาวที่ได้ดั่งใจตามที่เขาต้องการเหมือนเดิม
แต่เรื่องมันไม่ง่ายอย่างนั้น เพราะยิ่งไปแก้มากเท่าไหร่ อะไรต่อมิอะไรก็ยิ่งยุ่งเหยิงมากขึ้นเท่านั้น และสุดท้ายแล้ว รูบี้ ก็ไม่ใช่ สาวในฝัน คนเดิมที่ คาลวิน ตกหลุมรักอีกต่อไป
นอกเหนือจาก พล็อตเรื่อง สุดเซอร์ ที่ว่ามาข้างต้นแล้ว สิ่งที่ทำให้ Ruby Sparks ไม่ใช่หนังโรแมนติก/ดราม่า ประเภทดูจบแล้วจบเลย แบบไม่มีอะไรทิ้งไว้ให้คิดต่อ ก็คือ การที่หนังสอดแทรกประเด็นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของชีวิตคู่ไว้ได้อย่าง ลึกซึ้ง และ คมคาย
ตัวละครในเรื่องอย่าง คาลวิน น่าจะเป็นตัวแทนของ คนบนโลกนี้ที่คิดว่า ความรัก เป็นสิ่ง คงทน, ถาวร หากเรารักใครซักคนหนึ่งแล้ว คนๆ นั้น ก็จะทำอะไรดั่งที่ใจเราหวังไปตลอดกาล ซึ่งบางครั้ง มันไม่จริง!
ขณะเดียวกัน สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่าง คาลวิน กับ รูบี้ ก็เป็นเหมือนภาพสะท้อนให้เห็นถึงการใช้ชีวิตร่วมกันของคู่รักทั้งหลายว่า การบังคับ หรือ ฝืนใจ ให้อีกฝ่ายเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่เราต้องการนั้น เป็นเรื่องที่ โหดร้าย เพียงใด
เพราะในความเป็นจริงแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งในการจะประคับประคองให้คู่รักคู่หนึ่งอยู่กันไปจนตลอดรอดฝั่งได้ก็คือ ความเข้าอกเข้าใจ และ การยอมรับ ในตัวตนที่แท้จริงของอีกฝ่ายนั่นเอง
ซึ่งในท้ายที่สุดแล้ว คาลวิน ก็ได้ตระหนักถึงสิ่งเหล่านั้น และยอมที่จะเขียนหนังสือเล่มนี้จนเสร็จ แม้ว่าตอนจบที่เขาเขียนจะทำให้ตัวเองรู้สึกเจ็บปวดแค่ไหนก็ตาม…
Copyright© Bsite.In
ABOUT THE AUTHOR
Thomas Chon Hansen