ก่อนหมดปี 2018 เมื่อวันที่ 31 ธันวาคมที่ผ่านมา Netflix ประกาศว่า มีผู้รับชม Bird Box มากกว่า 45 ล้านแอคเคาท์ เพียงแค่สัปดาห์แรกที่เปิดให้ชม

 

Bird Box ภาพยนตร์ออริจินัลของ Netflix เรื่องนี้กำกับโดยผู้กำกับหญิงเจ้าแม่หนังทริลเลอร์  Susanne Bier ผ่านฝีมือการแสดงของนักแสดงสาวเจ้าของรางวัลออสการ์ Sandra Bullock กับเรื่องราวของแม่ที่ต้องพาลูกน้อยฝ่าวิกฤตสุดสะพรึงไปให้ได้โดยห้ามมองอะไรทั้งสิ้น ซึ่งเชื่อว่าหลายคนอาจจะได้มีโอกาสดูหรือเห็นทีเซอร์มาบ้างแล้ว

 

ทั้งนี้ Netflix ประกาศว่า Bird Box ทำลายสติภาพยนตร์ของ Netflix ที่มีผู้ชมมากที่สุดภายในเวลา 7 วัน โดยมียอดแอคเคาท์สูงถึง 45,037,125 แอคเคาท์ (พรีเมียร์วันแรกบนเว็บเมื่อวันที่ 21 ธันวาคมที่ผ่านมา)

 

Took off my blindfold this morning to discover that 45,037,125 Netflix accounts have already watched Bird Box — best first 7 days ever for a Netflix film! pic.twitter.com/uorU3cSzHR

— Netflix Film (@NetflixFilm) December 28, 2018

 

ทว่าหลายเสียงเกิดความกังขาในสถิติที่เกิดขึ้น!

ต้องบอกว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกของบริการสตรีมมิ่งยักษ์ใหญ่รายนี้ที่ออกมาคุยโวว่า หนังของตัวเองนั้น ‘สร้างอิมแพ็ค’ กับยอดซับสไครบ์เบอร์มหาศาล ซึ่งมีเสียงติงว่าเป็นเพียงตัวเลขที่นำเอามาเพื่อเรียกความสนใจต่อสาธารณะเท่านั้น ส่วนที่ว่าอิมแพ็คนั้น อิมแพ็คแค่ไหนกันเชียว หลายเสียงติงว่ามันยังมีความคลุมเคลืออยู่ นั่นจึงเป็นที่มาที่ทำให้ Netflix ประกาศตัวเลขของ Bird Box อย่างชัดเจนว่า มียอดซับสไคร์บเบอร์ 45,037,125 แอคเคาท์

 

ที่ทำให้แคลงใจนั่นก็เพราะก่อนหน้านี้ Netflix ก็เคยประกาศไปว่าภาพยนตร์ของตัวเอง (ออริจินัลฟิล์ม) อีกเรื่องก็สร้างอิมแพ็คครั้งใหญ่เช่นกัน ได้แก่เรื่อง To All the Boys I’ve Loved Before หรือก่อนหน้านี้ หัวหน้าทีมคอนเทนต์ Ted Sarandos ก็เคยอ้างเมื่อไม่นานว่า ว่าหนังช่วงวันหยุดที่ผ่านมาเรื่อง The Christmas Chronicles ก็สร้าง ‘อิมแพ็ค’ ที่สุดเหมือนกัน !

 

หลายเสียงตั้งข้อสังเกตว่า แม้ Netflix จะบอกเรื่องยอดซับสไคร์มหาศาลนี้มา แต่ก็แทบไม่ได้ให้รายละเอียดอะไรเลย เช่น 45 ล้านคนนั้นดูตั้งแต่ต้นจนจบหนือไม่? และอะไรคือ Demographics ของผู้ชม? รายละเอียดแบบนี้ถ้าเป็นสถิติของสตูดิโอหนังหรือเครือข่ายทีวี จะแจ้งเอาไว้อย่างชัดเจน แต่เรื่องแบบนี้ยังไม่มีการดีแคลร์จากทาง Netflix เลย

 

ทั้งนี้ Netflix ขึ้นชื่อในเรื่องการปกป้องประวัติของข้อมูลสูงมาก ไม่บอกแม้แต่ข้อมูลของผู้สร้างหรือผู้ผลิตซึ่งทำโปรเจ็คต์ให้กับบริษัท โดย Netflix บอกว่าข้อมูลคือโอกาสสร้างความได้เปรียบของคู่แข่ง ดังนั้น จึงไม่ต้องการให้หลุดรั่วออกไปแม้แต่น้อย

 

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่มีการเผยยอดผู้ชมสู่สาธารณะกับตัวเลข 45 ล้านวิวนั้น ก็มีการตั้งข้อสังเกตเพิ่มไปอีกว่า มีการนิยามคำว่า “วิว” นั้นอย่างไร!

 

ด้านตัวแทนของ Netflix บอกกับ Entertainment Weekly ว่า การนับวิวนั้น นับ 1 ครั้งจากการดู 70% จากเวลาการออกอากาศทั้งหมด นอกจากนี้ Netflix ยังเฉพาะเจาะจงด้วยว่า “แอคเคาท์ที่นับอาจจะรวมไปถึงการชมหลายๆ ครั้ง จากผู้ชมหลายคน แต่นั่นก็จะนับเพียงแค่ 1 เท่านั้น” (แปลว่าไม่มีการนับซ้ำนั่นเอง)

 

หลายครั้งที่บริษัทพยายามดีแคลร์ความโปร่งใส แต่ก็ยังมีข้อสงสัยอยู่นั่นเอง เสียงหนึ่งระบุว่า “ชั้นคือแฟนตัวยงของ Netflix นะ แต่ไม่เชื่อว่าเกือบจะ 1 ใน 3 ของคนที่ซับสไคร์บสตรีมมิ่งนี้ จะดูหนังเรื่องนี้ตั้งแต่สัปดาห์แรกที่เข้าเว็บ แม้จะดูเพียงแค่ 70% ก็ตาม มันยากที่จะเชื่อเกินไป” หนึ่งในโปรดิวเซอร์ของฮอลลีวู้ดบอกกับ Business Insider “ชั้นอยากจะเชื่อนะ แต่ทำไม่ได้”

 

ไม่เพียงแค่นั้น กับการนับ 45 ล้านแอคฯ ก็ไม่มีการตรวจสอบจากเธิร์ดพาร์ตี้ในวงการทีวีหรือการจัดเรตติ้งวัดอันดับแต่อย่างใด และอีกหนึ่งข้อถกเถียงของวงการภาพยนตร์หากนำยอดซับสไคร์บของ Bird Box มาเทียบกับ Box-office หรือเทียบกับหนังระดับตำนานกับการเปิดตัวสัปดาห์แรกจะเป็นอย่างไร

 

Per @netflix Bird Box was viewed by 45,037,125 accounts. If you took every one of those views and turned it into a movie ticket (current average cost = $9.14) you’d have a one week total of $411,639,322m. Which would be MORE than the 7-day record of The Force Awakens ($390.9m).

— The Box Office Guy (@TheBoxOfficeGuy) December 29, 2018

 

“การทึกทักเอาว่า 45 ล้านคนจะต้องออกไปโรงหนัง เพื่อไปดูหนังเรื่องนี้ กรณีนี้ส่วนตัวไม่คิดว่าจะนำมาเทียบกันได้” Rebecca Green โปรดิวเซอร์จากหนังเรื่อง “It Follows,” และ”I’ll See You in My Dreams” บอกกับ Business Insider

 

“Netflix ไม่ได้มีอุปสรรคกั้นขวางเหมือนกับการไปชมภาพยนตร์ในโรง การชมภาพยนตร์คือต้องออกไปออกจากบ้านเพื่อไปโรงหนังไปดูหนังที่คุณตั้งใจจะไปดู อาจจะต้องฝ่าหิมะเพื่อไปซื้อตั๋วดูด้วยซ้ำ สิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นกับผู้ชมที่ดู Netflix มันไม่อาจเทียบกันได้ กับตั๋ว 1 ใบที่ขายที่โรงภาพยนตร์”

 

อย่างไรก็ตาม Green เชื่อว่า ข่าวตัวเลขของ Netflix ไม่ได้เป็นประเด็นอะไรมากไปกว่าการสร้างข่าวพีอาร์ และเชื่อว่า Netflix ยังขาดความโปร่งใสในตัวเลข ซึ่งนั่นทำร้ายความรู้สึกของผู้สร้างหนัง

 

“เป้าหมายของชั้นคือการสร้างออริจินัลคอนเทนต์สำหรับผู้ชมจำนวนกว้างขวาง แต่จะทำอย่างไรมากกว่าที่จะให้ผู้ชมหันมาดูถ้าชั้นไม่รู้ว่าพวกเขาดูอะไรกันอยู่บ้าง?” เธอกล่าวและว่า “IT Follows เป็นหนังที่ลงใน Netflix เมื่อ 2 ปีมาแล้ว ชั้นก็ไม่รู้ว่ามีคนกี่คนที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ในแพล็ทฟอร์มนี้ หรือแม้แต่เรื่อง I’ll See You in My Dreams ก็ไปลงที่ Amazon Prime 2 ปีมาแล้วเช่นกัน แล้วก็ไม่รู้ว่ามีกี่คนที่ได้ดูหนังบนเว็บนั่น ทำไมถึงไม่แบ่งปันตัวเลขของหนังเรื่องอื่นๆ บ้างล่ะ ดังนั้น คำตอบเดียวที่เราได้ก็คือมันคือเรื่องของธุรกิจนั่นแหละ”

 

นอกจากนี้ Green ยังมองว่า ความโปร่งใสของ Netflix ควรจะนำมาเปลี่ยนเป็นเกมใหม่ในอุตสาหกรรมบันเทิง ในยุคที่พูดถึงสิทธิความเท่าเทียมเรื่องเพศ สีผิว ในวงการฮอลลีวูด Netflix ควรนำหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาดีกว่า เห็นได้จากหนัง 2 เรื่องที่ทางค่ายระบุว่าสร้างอิมแพ็คทางตัวเลข ทั้ง Bird Box และ To All the Boys I’ve Loved Before กำกับโดยผู้กำกับหญิงมากความสามารถทั้ง 2 เรื่อง อีกทั้งตัวเรื่องก็นำโดยตัวนางเอก โดยเฉพาะเรื่องที่ 2 ที่ได้นักแสดงผู้หญิงลูกครึ่งอเมริกัน-เวียดนาม ซึ่งน่าสนใจมาก

 

“ถ้าเราหยิบเอาเรื่องแบบนี้ไปเป็นจุดขายของหนัง บอกว่าเป็นหนังที่ทรงพลังเรื่องสิทธิเรื่องความเท่าเทียมมากกว่าเรื่องเงินน่าจะเป็นการง่ายและดีกว่า” Green กล่าว

 

อย่างไรก็ตาม หลังถูกวิจารณ์เรื่องนี้อย่างหนัก ยังไม่มีปฏิกริยาใดๆ จากทาง Netflix

 

สำหรับ Netlix ปัจจุบันมียอดซับสไคร์บเบอร์อยู่ที่ 137 ล้านแอคเคาท์ (ตัวเลขล่าสุดเมื่อเดือนตุลาคม) ซึ่งอ้างว่า 33% ของแอคเคาท์นั้นรับชม Bird Box

 

Source : Businessinsider