เรียกว่าโล่งอกไปตามๆ กัน สำหรับเหล่าบรรดาสาวกปีศาจแดง ที่ทีมรักของตนสามารถคืนฟอร์มเก่งกลับมาคว้าชัยชนะได้ หลังจากที่ต้องพ่ายคาบ้านแบบหมดรูปให้กับสเปอร์สไปเมื่อนัดก่อน

การกลับมาสะกดคำว่า “ชนะ” เป็นอีกครั้งของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเกมนี้ ไม่เพียงแต่จะทำให้ทีมกลับมาอยู่ในเส้นทางที่ควรจะเป็นเท่านั้น

แต่การบุกไปคว้าสามแต้มสำคัญได้ในบ้านของ เบิร์นลี่ย์ เกมนี้ ยังทำให้ สถานการณ์ของ โชเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการทีม ที่ดูเหมือนว่ากำลังอยู่ในช่วง “หน้าสิ่วหน้าขวาน” ผ่อนคลายลงไปเยอะเลย

ไม่กล้านึกเหมือนกันว่า หาก ทีมปีศาจแดง เกิดพลาดท่าบุกไปพ่ายให้กับ เบิร์นลี่ย์ อีกในเกมนี้ ชะตาของ มูรินโญ่ จะขาดสะบั้นจนต้องเก็บข้าวเก็บของออกจากโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด หรือเปล่า?

และในเมื่อมันไม่เป็นแบบนั้น ก็เท่ากับว่า ชัยชนะเหนือทีมอย่าง เบิร์นลี่ย์ ในเกมล่าสุด คือการต่ออายุให้กับ กุนซือซึ่งอวดอ้างกับนักข่าวว่า เขาคือผู้ที่พาทีมคว้าแชมป์ พรีเมียร์ ลีก ได้มากกว่า ผู้จัดการทีมคนอื่นๆ คว้าแชมป์รวมกัน ได้นั่งเก้าอี้นายใหญ่ของ แมนฯยูไนเต็ด ต่อไป (สมใจกองเชียร์ทีมคู่แข่งที่เรียกร้องให้ “เซฟ มูรินโญ่” จะได้อยู่คุมทีมต่อไปนานๆ ฮา…)

ในขณะเดียวกัน แม้จะทำผลงานในช่วงออกสตาร์ทฤดูกาลได้ไม่ดีตามที่คาดหวัง แต่หลังจบเกมนี้ โชเซ่ มูรินโญ่ น่าจะสลัดตัวเองออกจากตำแหน่ง “เต็งหนึ่ง” ผู้จัดการทีมที่จะถูกปลดออกเป็นคนแรกได้สำเร็จ

โดยคนที่ได้รับเกียรติให้มาเป็น “เต็งหนึ่ง” ของผู้จัดการทีมที่จะโดนไล่ออกเป็นคนแรกแทนที่ มูรินโญ่ คงจะเป็นใครอื่นไปไม่ได้นอกจาก มานูเอล เปเยกรินี่ ที่คุมทีมเวสต์แฮม แพ้ 4 นัดรวด จมบ๊วยของตารางอยู่ ณ ตอนนี้

เพราะฉะนั้น ชัยชนะที่มีต่อ เบิร์นลี่ย์ ของ แมนฯ ยูไนเต็ด นั้น มีค่ามากกว่าการคว้า 3 แต้ม เพราะนอกเหนือจากนั้น มันยังได้ช่วยบรรเทาให้สถานการณ์ของทีม โดยเฉพาะยิ่งสถานการณ์ของ มูรินโญ่ ไม่ได้เลวร้ายจนเกินไปนัก

นอกจากนี้ ยังมีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่เป็นสถิติที่น่าสนใจ หลายเรื่องซึ่งเกิดขึ้นในเกมนี้ที่ได้รวบรวมเอาไว้

8 ประเด็น หลังเกม แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ เบิร์นลี่ย์ 2-0 ที่เราเก็บมาฝากกัน…

1. เบิร์นลี่ย์ ยังคงสถิติอันย่ำแย่ในการเก็บชัยชนะได้เพียงนัดเดียวจากการพบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาแล้ว 18 นัด (ชนะ 1 เสมอ 8 แพ้ 9) โดยชัยชนะนัดแรกและนัดเดียวของ เบิร์นลี่ย์ ในพรีเมียร์ ลีกที่มีต่อ แมนฯยูฯ เกิดขึ้นในการพบกันเมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2009 โดยนัดนั้น เบิร์นลี่ย์ เอาชนะ แมนฯยูไนเต็ด ไปได้ 1-0

2. มูรินโญ่ รักษาสถิติในการเป็นกุนซือที่คุมทีมมาเก็บชัยชนะที่สนาม เทิร์ฟ มัวร์ ถิ่นของ เบิร์นลีย์ ได้แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ นั่นคือ เล่น 4 เกม ชนะ 4 เกม โดยชัยชนะ 3 จาก 4 เกมดังกล่าว คือเกมที่เขาเป็นผู้จัดการทีมให้กับทีมปีศาจแดง

3. ชัยชนะเหนือ เบิร์นลี่ย์ เกมนี้ ถือเป็นชัยชนะนัดที่ 24 ในเกมพรีเมียร์ ลีก ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อพวกเขาเป็นฝ่ายได้ประตูขึ้นนำคู่ต่อสู้ไปก่อน

4. เกมนี้ โรเมลู ลูกากู ยิงได้ 2 ประตูให้กับทีมได้เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เกมที่ แมนฯยูไนเต็ด เอาชนะ เวสต์แฮม ไปได้ 4-0 เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2017 ที่ผ่านมา โดยเกมดังกล่าวเป็นเกมที่ศูนย์หน้าทีมชาติเบลเยี่ยมรายนี้เปิดตัวกับทีมปีศาจแดงเป็นนัดแรกด้วย

5. มาร์คัส แรชฟอร์ด กลายเป็นนักเตะ แมนฯยูไนเต็ด คนที่สองที่ถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรองแล้วโดนใบแดงไล่ออกจากสนาม โดยก่อนหน้านี้ มารูยาน เฟลไลนี่ คือนักเตะของทีมคนแรกที่ถูกส่งลงเป็นตัวสำรองแล้วถูกไล่ออกในเกมที่พบกับ ฮัลล์ ซิตี้ เมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2015

6. แรชฟอร์ด โดนใบแดงไล่ออกไปในเกมนี้ หลังจากลงเล่นไปแค่ 10 นาที และสัมผัสบอลไปแค่ 11 ครั้งเท่านั้น!

7. ในขณะที่ การลงสนามของ เฟลไลนี่ ในเกมนี้ ถือเป็นการลงสนามในพรีเมียร์ ลีกนัดที่ 250 ของเขา โดยมีนักเตะสัญชาติเบลเยี่ยมคนเดียวเท่านั้นที่ลงสนามในพรีเมียร์ ลีก มากกว่าเขานั่นคือ แวงซองต์ กอมปานี ที่ลงสนามไปแล้ว 251 นัด

8. ดไวท์ แม็คนีล กลายเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดซึ่งลงสนามในพรีเมียร์ ลีกให้กับ เบิร์นลี่ย์ โดยเขาลงเล่นในเกมนี้ด้วยอายุเพียง 18 ปี กับ 284 วัน เท่านั้น

เครดิตภาพ : www.goal.com, espn fc, www.burnleyfootballclub.com

Copyright© Bsite.In