- Lifestyle
ไหนใครบอกว่า เชลซี เป็นแค่ทีม “ม้านอกสายตา”?!?
By Sweeper Keeper • on Sep 21, 2018 • 1,632 Views
เป็นประจำที่ก่อนเริ่มต้นฤดูกาลใหม่ เหล่าบรรดาเกจิ-อาจารย์ไปจนถึงผู้สันทัดกรณีด้านลูกหนังทั้งหลาย จะออกมาทำนายทายทักกันว่า ทีมไหนจะได้เป็นแชมป์ และ ทีมไหนบ้างจะติดอันดับท๊อปโฟร์
สำหรับปีนี้ แน่นอนว่าเกิน 90 เปอร์เซ็นต์ ต่างพากันยกให้แชมป์เก่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นเต็งหนึ่งที่จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีกไปครอง ส่วนเต็งสองเสียงส่วนใหญ่ยกให้ ลิเวอร์พูล
ในขณะที่ทีมซึ่งจะติดท๊อปโฟร์ในอันดับสามและสี่ ความคิดเห็นออกมาค่อนข้างสูสีระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ สเปอร์ส
ซึ่งนั่นหมายความว่า ทีมยักษ์ใหญ่แห่งลอนดอนอย่าง เชลซี กลายเป็นแค่ทีม “ม้านอกสายตา” ที่ถูกเหล่ากูรูฟุตบอลดูแคลนตั้งแต่ยังไม่ได้แข่งว่า ในซีซั่นนี้พวกเขาจะไม่จบในสี่อันดับแรก
สาเหตุหลักอย่างหนึ่งที่ทำให้ เชลซี ถูกมองแบบนั้น น่าจะเป็นเพราะการที่พวกเขาเพิ่งเปลี่ยนตัวผู้จัดการทีมคนใหม่ ได้แก่ เมาริซิโอ ซาร์รี่ อดีตนายใหญ่ของนาโปลี มาคุมทีมแทน อันโตนิโอ คอนเต้ ที่กระเด็นออกจากเก้าอี้ไป
โดยหลายฝ่ายมองว่า แม้ ซาร์รี่ จะเป็นโค้ชฝีมือดี แต่เขาคงต้องใช้เวลาสักพักใหญ่ๆ ในการปรับจูนให้นักเตะ เชลซี เข้าใจถึงแท็คติกและวิธีการเล่นในแบบของเขา ซึ่งแตกต่างจากแท็คติกการเล่นของผู้จัดการทีมคนก่อนอย่างสิ้นเชิง
แต่ดูเหมือนว่า ซาร์รี่ กำลังใช้ผลงานอันยอดเยี่ยมของทีมในสนาม ตอบโต้คำสบประมาทของพวกนักวิจารณ์เหล่านั้น
เพราะไม่ถึงสองเดือนหลังจากเกมคอมมูนิตี้ ชิลด์ ที่ เชลซี พ่ายให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไป 0-2 เขาพาลูกทีมก้าวขึ้นมาเป็นจ่าฝูงของ พรีเมียร์ ลีก ด้วยการเก็บชัยชนะ 5 นัดรวด!
ส่วนตัวคิดว่าจุดเปลี่ยนอย่างหนึ่งที่ทำให้ ซาร์รี่ สามารถปรับจูนทีมให้ลงตัวในเวลาที่เร็วเกินคาด เป็นเพราะการที่ทีมไม่เสียนักเตะตัวหลัก (ที่มีข่าวก่อนหน้านี้ว่าอยากย้ายทีม) อย่าง เอเด็น อาซาร์ และ วิลเลี่ยน ออกไป
เมื่อนักเตะที่เป็น “คีย์แมน” อยู่ครบ ก็ไม่ต้องเสียเวลาหาผู้เล่นตัวใหม่ที่มีฝีเท้าระดับเดียวกันมาทดแทน และนั่นทำให้ ซาร์รี่ สามารถเดินหน้าทำงานของตัวเองได้เลยโดยที่ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง
ซึ่งงานอย่างแรกก็คือ การทำให้ทีมเข้าใจในระบบการเล่นแบบใหม่ของเขานั่นเอง
จากเดิมที่ผู้จัดการคนก่อนอย่าง คอนเต้ (รวมถึง มูรินโญ่ ด้วย) สร้างทีม เชลซี ด้วยแท็คติคที่เน้นการเล่นอย่างรัดกุม รับให้แน่นไว้ก่อน และจะไม่เปิดแลกถ้าไม่จำเป็น
ซาร์รี่ เข้ามาพลิกโฉมให้ สิงโตน้ำเงินคราม ตัวนี้ กลายเป็น “สิงโตตัวใหม่” ด้วยการปรับสไตล์ให้ทีมหันมาเปิดเกมรุกเข้าใส่คู่ต่อสู้ตลอดเวลา เน้นการครองเกมด้วยการผ่านบอลสั้นจากเท้าสู่เท้าอย่างแม่นยำ และไล่บี้คู่ต่อสู้ในแดนบนเพื่อแย่งบอลกลับมาให้เร็วที่สุดในยามที่ต้องเป็นฝ่ายตั้งรับ
อีกจุดหนึ่งที่ทำให้ เชลซี โฉมใหม่ เล่นฟุตบอลได้ดั่งใจ ซาร์รี่ ในเวลาอันรวดเร็วก็คือ การที่ทีมได้กองกลางอย่าง จอร์จินโญ่ มาเป็นตัวขับเคลื่อนเกมในฤดูกาลนี้
เจมี่ คาราเกอร์ อดีตกองหลัง ลิเวอร์พูล ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้วิเคราะห์เกมให้กับโทรทัศน์ช่องสกายสปอร์ตส์ของอังกฤษแสดงทัศนะว่า การมี จอร์จินโญ่ (นักเตะลูกหม้อของ ซาร์รี่ ที่ย้ายมาพร้อมกันจาก นาโปลี) เป็นผู้บัญชาการเกมในสนาม ก็เหมือนกับมี ซาร์รี่ ลงไปสั่งการในสนามด้วยตัวเอง
โดยล่าสุด กองกลางดีกรีทีมชาติอิตาลีรายนี้ ทำสถิติเป็นนักเตะที่ผ่านบอลสำเร็จมากที่สุดในลีกถึง 466 ครั้ง
และด้วย “ทรงบอล” ที่เปลี่ยนไปนี่เองที่มีส่วนสำคัญทำให้นักเตะหลายๆ คนกลับมาทำผลงานได้ดี ไม่ว่าจะเป็น เปโดร ที่กลับมาออกสตาร์ทเป็นตัวจริงอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ฟอร์มการเล่นตอนนี้กลับมาใกล้เคียงกับฟอร์มก่อนที่เขาจะย้ายมาจากบาร์เซโลน่า
โอลิวิเยร์ ชิรูด์ กองหน้าตัวเป้าที่ดูแล้วไม่น่าจะเหมาะกับบอลสไตล์ ซาร์รี่ แต่กลับเป็นตัวพักบอลที่ช่วยประสานงานในแนวรุกที่ทีมขาดไม่ได้ตอนนี้ รวมไปถึง ดาวิด ลุยซ์ กองหลังที่หมดอนาคตไปแล้วในยุคของ คอนเต้ ก็กลับมาแจ้งเกิดใหม่อีกครั้ง
และชัดเจนที่สุดเลยก็คือ เอเด็น อาซาร์ จากเดิมในยุคของ คอนเต้ ที่เราดูแล้วรู้สึกได้เลยว่า อาซาร์ เล่นด้วยความอึดอัด โชว์ของได้ไม่เต็มที่ แถมมีหลายนัดที่กำลังเล่นดี แต่กลับถูก คอนเต้ เปลี่ยนตัวออกแบบขัดใจแฟนบอล
แต่พอได้ ซาร์รี่ มาคุมทีมปุ๊บ ดาวเตะทีมชาติเบลเยี่ยมผู้นี้ กลับมาดูกระปรี้กระเปร่า มีความกระตือรือร้น และเล่นได้อย่างมีชีวิตชีวาสุดๆ ทันที
การที่ อาซาร์ ซัดไปแล้ว 5 ประตู จากการลงสนาม 5 นัด เป็นเครื่องพิสูจน์ชั้นดีว่า ตอนนี้เขากำลังมีความสุขในการเล่นแค่ไหน
ทั้งหลายทั้งปวงข้างต้น คือสาเหตุที่ทำให้ เชลซี ทำผลงานช่วงออกสตาร์ทฤดูกาลได้ดีเกินความคาดหมาย
ซึ่งนั่นน่าจะทำให้ใครหลายๆ คน ที่เคยดูแคลนพวกเขาว่าเป็นแค่ “ม้านอกสายตา” ต้องกลับมาคิดทบทวนใหม่
เพราะถ้าหาก เชลซี ยังรักษาระดับฟอร์มการเล่นนี้เอาไว้ได้อย่างต่อเนื่องแล้วล่ะก็
อย่าว่าแต่ติดท็อปโฟร์เลย
ถ้าเล่นได้ขนาดนี้…ลุ้นแชมป์สบายๆ
เครดิตภาพ : www.chelseafc.com, www.skysports.com, www.foxsports.ph
ABOUT THE AUTHOR
Sweeper Keeper
แม้ก่อนหน้านี้จะเคยผ่านงานเขียนบทความเกี่ยวกับ หนัง และ เพลง มาพอสมควร แต่ด้วยความที่ชอบดูฟุตบอลลีกอังกฤษ และมี ลิเวอร์พูล เป็นทีมโปรดในดวงใจ เขาจึงขอโอกาสมาแบ่งปันมุมมองด้านลูกหนังให้ได้อ่านกันบ้าง