- Lifestyle
เปิดสถิติที่ยืนยันว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังเป็น เต็ง 1 ที่จะคว้าแชมป์ พรีเมียร์ ลีก
By Sweeper Keeper • on Sep 27, 2018 • 1,566 Views
ถึงแม้ว่า ลิเวอร์พูล จะเริ่มต้นซีซั่นใหม่อย่างร้อนแรงขึ้นนำเป็นจ่าฝูงด้วยการเก็บชัยชนะ 6 นัดรวด เก็บ 18 คะแนนเต็ม
แต่ถ้าหากเราเหลือบมองลงไปบนตารางคะแนน ทีมที่ทำอันดับตามมาติดๆ นอกเหนือจาก เชลซี ที่โชว์ฟอร์มได้ดีเกินความคาดหมายแล้ว แชมป์เก่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็เริ่มเร่งฝีเท้ากลับขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ควรจะเป็นอีกครั้ง
โดยเฉพาะในเกมล่าสุด ที่พวกเขาบุกไปถล่มทีมน้องใหม่อย่าง คาร์ดิฟฟ์ แบบยับเยิน 5-0 ซึ่งใครที่ได้ชมเกมนี้ต่างพากันพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ทีมเรือใบสีฟ้า โชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอด สมราคาที่ทุกฝ่ายยกให้พวกเขาเป็นเต็ง 1 ที่จะคว้าแชมป์ พรีเมียร์ ลีก ปีนี้ไปครอง
หลังจบแม็ตช์นี้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ผู้จัดการทีม ออกมากล่าวชมลูกทีมของเขาว่า นี่เป็นฟอร์มการเล่นที่ดีที่สุดของทีมในฤดูกาลนี้ โดยเขาระบุว่า เกมนี้เป็นเกมที่ทีมของเขาเล่นดีกว่าเกมที่เปิดบ้านเอาชนะฟูแล่มไป 3-0 เสียอีก
ซึ่งส่วนตัวแล้วคิดว่า ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ แมนฯ ซิตี้ ลงเล่นเกมนี้ด้วยความ “หื่นกระหาย” เป็นเพราะว่า ย้อนกลับไปเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ก่อน พวกเขาเพิ่งจะพ่ายพลิกล็อคคาบ้านตัวเองในเกมแชมเปี้ยน ลีก ให้กับโอลิมปิค ลียง ไป 1-2
“ความซวย” จึงตกมาเยือน ทีมน้องใหม่อย่าง คาร์ดิฟฟ์ ที่ดันเป็นโปรแกรมนัดต่อมาให้ลูกทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ลงสนามไปปลดปล่อยความอัดอั้นที่ค้างคามาจากนัดก่อน
และสุดท้าย ผลก็ปรากฎออกมาอย่างที่เห็น เมื่อ คาร์ดิฟฟ์ โดน แมนฯ ซิตี้ “กระซวก!” แบบไม่เหลือซาก จนทำให้ความพ่ายแพ้ในนัดนี้ของ คาร์ดิฟฟ์ กลายเป็นความพ่ายแพ้ที่ “ยับเยิน” ที่สุดนัดหนึ่งในประวัติศาสตร์สโมสร!
ซึ่งถ้ามองฟอร์มการเล่นในนัดนี้ของ แมนฯ ซิตี้ ต้องบอกว่า สิ่งที่เราเห็นชัดเจนที่สุดเลยก็คือ แม้จะขาดมิดฟิลด์จอมทัพอย่าง เควิน เดอ บรอยน์ ไป แต่พวกเขาก็ยังเป็นทีมที่มีเกมรุก “จัดจ้าน” และ “หลากหลาย” กว่าทุกทีมใน พรีเมียร์ ลีก อยู่ดี
พิสูจน์ได้จากจำนวนประตูที่พวกเขายิงไปแล้วถึง 19 ประตู ซึ่งยิงได้มากกว่าทุกทีมหลังจากผ่านการลงเล่นไป 6 นัด (ลิเวอร์พูล และ เชลซี ยิงประตูมากเป็นอันดับสองที่ 14 ประตูเท่ากัน) โดย 19 ประตูที่ว่านี้ มีอยู่สองนัดที่พวกเขาถล่มคู่แข่งด้วยผลต่างประตู 5 ลูก นั่นคือ นัดที่พวกเขาชนะ คาร์ดิฟฟ์ 5-0 ที่กล่าวไปแล้ว และอีกนัดก็คือ เกมที่เปิดบ้านเอาชนะ ฮัดเดอร์ฟิลด์ ไป 6-1
และเหมือนอย่างที่เหล่าสาวก “ซิตี้เซ่นส์” ทั้งหลาย แอบเสียดายกันว่า หากก่อนหน้านี้ทีมรักของตัวเองไม่ “ดวงแตก” ทำได้แค่เสมอกับ วูล์ฟส์ ไป 1-1 ทั้งที่พวกเขาควรจะเป็นฝ่ายชนะด้วยรูปเกมที่เหนือกว่าชัดเจน แถมยังมีโอกาสยิง ชนเสา ชนคาน หลายต่อหลายครั้ง
ป่านนี้ ลิเวอร์พูล ก็คงไม่ใช่ทีมที่นำเป็นจ่าฝูง เพราะถ้าหากเก็บ 3 คะแนนเต็มได้ในเกมที่ไปเยือน วูลฟ์ส ทีมเรือใบสีฟ้า ก็จะมีอันดับเหนือ ลิเวอร์พูล ด้วยประตูได้เสียที่ดีกว่าทันที
เพราะฉะนั้น ด้วยฟอร์มการเล่นอัน “ดุดัน” ในนัดที่ไล่อัด คาร์ดิฟฟ์ ไปแบบสบายเท้า 5-0 น่าจะเป็นการส่งสัญญาณเตือนไปยังเหล่าบรรดาทีมผู้ท้าชิงทั้งหลายว่า…
แชมป์เก่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังคู่ควรทุกประการในฐานะ “เต็ง 1” ที่จะคว้าแชมป์ พรีเมียร์ ลีก ปีนี้ไปครอง!!!
เก็บตก 8 สถิติ หลังเกม แมนฯ ซิตี้ บุก ถล่ม คาร์ดิฟฟ์ 5-0
1. ความพ่ายแพ้ต่อ แมนฯ ซิตี้ ในนัดนี้ ได้กลายเป็น “ตราบาป” อีกครั้งของ คาร์ดิฟฟ์ โดยพวกเขาแพ้ด้วยผลต่าง 5 ประตู เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน เมษายน ปี 1994 (โดยก่อนหน้านี้พวกเขาเคยแพ้ให้กับ แคมบริจด์ มาแล้ว 2-7)
2. นี่เป็นการเอาชนะคู่แข่งด้วยสกอร์เกิน 5 ลูก เป็นนัดที่ 10 ในเกม พรีเมียร์ ลีก ของ แมนฯ ซิตี้ นับตั้งแต่ที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เข้ามาคุมทีม
3. เซร์จิโอ อเกวโร่ ลงเล่นนัดนี้เป็นนัดที่ 300 ในทุกรายการให้กับ แมนฯ ซิตี้ โดยทำประตูได้ด้วยหนึ่งลูกในเกมนี้ ทำให้เขายิงประตูรวมในทุกถ้วยที่ลงเตะให้กับสโมสรไปแล้วทั้งหมด 205 ประตู
4. หากนับเฉพาะแค่ใน พรีเมียร์ ลีก กุน อเกวโร่ ยิงประตูไปแล้วทั้งหมด 147 ลูก รั้งอยู่ในอันดับ 10 ของ ทำเนียบดาวยิงตลอดกาลของพรีเมียร์ ลีก
5. แบร์นาร์โด ซิลวา โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเกมนี้เป็นครั้งแรกที่เขา ทั้งยิง ทั้งจ่าย หลังจากลงเล่นให้กับ แมนฯ ซิตี้ ในทุกรายการมาแล้ว 61 นัด
6. โดยลูกที่เขาโหม่งทำประตูได้ในเกมพบ คาร์ดิฟฟ์ เป็นลูกโหม่งทำประตูลูกแรกของ ซิลวา นับตั้งแต่ย้ายมาอยู่กับ แมนฯ ซิตี้
7. นับตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้วเป็นต้นมา ราฮีม สเตอริ่ง ทำแอสซิสต์ส่งให้เพื่อนยิงประตูในเกม พรีเมียร์ ลีก มาแล้ว 12 ครั้ง โดยเป็นรองเพื่อนร่วมทีมอย่าง เควิน เดอ บรอยน์ และ ลีรอย ซาเน่ ที่ทำแอสซิสต์ไปแล้ว 16 ครั้งเท่ากัน อย่างไรก็ตาม สเตอริ่ง เป็นผู้เล่นที่ทำแอสซิสต์ได้มากที่สุด หากนับเฉพาะนักเตะสัญชาติอังกฤษ
8. ในเกมนี้ ริยาด มาห์เรซ ทำประตูแรกให้กับ แมนฯ ซิตี้ รวมถึงสามารถทำคนเดียวสองประตูได้เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ที่เขาเคยเบิ้ลสองประตูให้กับ เลสเตอร์ ซิตี้ ในแม็ตช์ที่พบกับ เอฟเวอร์ตัน เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2015
เครดิตภาพ : www.mancity.com, www.standard.co.uk, ESPN FC
ABOUT THE AUTHOR
Sweeper Keeper
แม้ก่อนหน้านี้จะเคยผ่านงานเขียนบทความเกี่ยวกับ หนัง และ เพลง มาพอสมควร แต่ด้วยความที่ชอบดูฟุตบอลลีกอังกฤษ และมี ลิเวอร์พูล เป็นทีมโปรดในดวงใจ เขาจึงขอโอกาสมาแบ่งปันมุมมองด้านลูกหนังให้ได้อ่านกันบ้าง