จากคนปากไว ดูดปุ้น จนถึงถูกบีบพ้น ปธ.บอร์ด Tesla ปัญหาจาก ‘ปัญญา’ ของชายที่ชื่อ Elon Musk

Posted on Oct 01, 2018 by ทีมงาน bsite • 2,754 Views

จากคนปากไว ดูดปุ้น จนถึงถูกบีบพ้น ปธ.บอร์ด Tesla ปัญหาจาก ‘ปัญญา’ ของชายที่ชื่อ Elon Musk

Tech

จากคนปากไว ดูดปุ้น จนถึงถูกบีบพ้น ปธ.บอร์ด Tesla ปัญหาจาก ‘ปัญญา’ ของชายที่ชื่อ Elon Musk

By ทีมงาน bsite • on Oct 01, 2018 • 2,754 Views

Elon Musk ถือว่าเป็นมหาเศรษฐีอัจฉริยะที่ค่อนข้างมีข่าวฉาวอยู่บ่อยๆ ทั้งพฤติกรรมปากไว และพฤติกรรมหุนหันก้าวร้าวในการใช้โซเชียลมีเดีย หลายๆ เหตุการณ์เขาก็ได้รับเสียงเชียร์ แต่หลายๆ เหตุการณ์ก็พาองค์กรและตัวเองซวยไปด้วย

ล่าสุด จากข้อความทวีตที่ว่าจะซื้อหุ้น Tesla คืนทั้งหมด ก็ทำให้เขาถูกบีบต้องลาออกจากตำแหน่ง ประธานคณะกรรมการบริษัท Tesla เซ่นสังเวยความมือไว ทวีตแบบไม่คิดหน้าคิดหลังเขาของ

อย่างไรก็ตาม เรื่องพฤติกรรมห่ามๆ ของความมั่นหน้าของเขาไม่ใช่เพิ่งจะมาเกิดขึ้นแต่มีมานานแล้ว เราลองมาไล่เรียงดูกันว่า ในอีกด้านของความเป็นบุคคลอัจฉริยะของชายผู้นี้ จะเข้าหลักการที่ว่า “ปัญญาพาลำบาก” ได้หรือไม่

สนับสนุนแคมเปญ #deletefacebook

เมื่อราวต้นเดือนมีนาคม ในช่วงที่ Facebook แพล็ทฟอร์มเบอร์ 1 ของโลก ต้องเผชิญกับวิกฤต Cambridge Analytica ส่งผลให้หุ้นของบริษัทร่วงลงอย่างหนัก และสูญเสียเงินเป็นจำนวนหลายหมื่นดอลลาร์ในช่วงนั้น ข้อมูลผู้คนมากกว่า 50 ล้านคนหลุดรั่วไปอยู่ในมือคนนอกและมากไปกว่านั้นถูกนำไปใช้ในแคมเปญหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีกด้วย

สร้างความไม่พอใจให้กับโลกออนไลน์อย่างมากจนเกิดกระแสเรียกร้อง ได้แก่ #deletefacebook ซึ่งหัวหอกของแคมเปญนี้ได้แก่ Brian Acton อดีตผู้ก่อตั้ง WhatsApp กระแสดังกล่าวนี้เริ่มกระจายออกไปทั่ว โดยที่ Musk เข้ามารับลูก Acton ต่อด้วยการแกล้งไขสือว่า “What’s Facbook?” อะไรคือเฟซบุ๊กหรา (แกร๊) ?

นอกจากนี้ ยังถูกท้าทายด้วย user รายหนึ่งว่าถ้าคุณแน่จริงก็ให้ลบเฟซบุ๊ก ของ SpaceX และ Tesla ออกซะเลยสิ! และมีหรือที่เขาจะเมินเฉย ทันทีที่ถูกส่งเทียบเชิญ Musk ก็ตัดสินใจสั่งลบออกทันที โดยไม่สนใจว่าจะมีผู้ติดตามเพจนี้มากกว่าล้านคนเลย และส่วนตัวเขาเองก็ไม่ได้เล่นแพล็ทฟอร์มนี้อยู่แล้วด้วย โนสนโนแคร์

แต่ความห้าวทะลุเดือดครั้งนี้ของเขาได้รับเสียงสนับสนุนในทางบวกมากทีเดียว

What’s Facebook?

— Elon Musk (@elonmusk) March 23, 2018

จากฮีโร่ #ถ้ำหลวง สู่คนปากไว

ในช่วงที่ไทยมีเหตุการณ์ทื่ฮือฮาไปทั่วโลก ได้แก่ การที่เด็ก 12 คน และ 1 โค้ช ติดอยู่ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย ซึ่งทั่วโลกต่างระดมสรรพกำลังเข้าช่วย ซึ่งหนึ่งในนั้นได้แก่ “อีลอน มักส์” ที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัยก็อาสาจะส่งอุปกรณ์เรือดำน้ำขนาดเล็กหวังเข้าช่วยเหลือทั้ง 13 คนให้ออกมาจากถ้ำได้ ซึ่งในตอนแรกเขาได้ส่งทีมงานเข้ามาก่อน จากนั้นไม่นานก็โพสต์ทวิตเตอรว่าเขาได้เดินทางมานำส่งด้วยตัวเองด้วย ซึ่งตอนนั้นเขาก็ได้รับคำชื่นชมกระแสเสียงสรรญเสริญถึงความมีน้ำใจไปทั่วโลก

แต่พลันที่ Vern Unsworth นักสำรวจถ้ำชาวอังกฤษ ระบุว่า เรือดำน้ำขนาดจิ๋วของเขาไร้ประโยชน์ช่วยเหลืออะไรเด็กๆ ไม่ได้เลย แถมยังเรียกการกระทำของเขาว่าเป็นเพียงแค่กิจกรรมเพื่อพีอาร์ประชาสัมพันธ์เท่านั้น (PR Stunt)

[wonderplugin_video iframe=”https://youtu.be/1TmjpIkVDrU” videowidth=600 videoheight=400 keepaspectratio=1 videocss=”position:relative;display:block;background-color:#000;overflow:hidden;max-width:100%;margin:0 auto;” playbutton=”https://bsite.in/wp-content/plugins/wonderplugin-video-embed/engine/playvideo-64-64-0.png”]

นั่นทำให้ Musk ทนไม่ไหว ทวีตตอกกลับทันทีโดยยืนยันว่าเรือดำน้ำที่เขาส่งมาเข้าโถงถ้ำได้แน่ แต่ที่ร้ายไปกว่านั้นด้วยสไตล์เป็นคิดไวปากไว (มั้ง) ก็สวนกลับ Unsworth โดยหาว่าเขาเป็นพวก ‘คนใคร่เด็ก’ (Pedo guy คนที่มีรสนิยมทางเพศกับเด็ก) ซึ่งถือว่าเป็นข้อกล่าวหาที่ร้ายแรงมาก แม้ว่าจะมีคนในทวิตเตอร์เตือนว่ากำลังวิจารณ์หนักเกินไปไม่เหมาะสม เขาก็ยังไม่หยุดพร้อมกับยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงโดยร่ายยาวถึงการเดินทางมาเมืองไทยหลายรอบของ Unsworth และแม้ว่าจะออกมาให้สัมภาษณ์ว่าเสียใจกับคำพูดที่พลั้งเผลอไป

แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ทันแล้วเพราะสุดท้าย Unsworth ก็ตัดสินใจฟ้องเขาฐานหมิ่นประมาทและเรียกค่าเสียหายถึง 75,000 ดอลลาร์และให้ศาลสั่งห้าม Musk กล่าวหาอะไรเขาอีกในอนาคต

ไม่ต้องขึ้นยาน Musk ก็ดึงดาวได้ – ดูดปุ้นออกอากาศ

Elon Musk ถูกรับเชิญให้ไปออกรายการพ็อดแคสต์ของดาราตลก Joe Rogan ซึ่งเจ้าตัวก็เป็นผู้สนับสนุนนโยบายกัญชาถูกกฎหมาย จังหวะหนึ่ง Musk ได้รับซิการ์ที่สอดไส้กัญชาเอาไว้จาก Rogan เขาก็จัดมันด้วยการสูบปุ้นออกอากาศกันแบบสดๆ ไปเลย แถมช่วงท้ายๆ รายการบอกว่ามีการยกซดร่ำสุรากันด้วยน้า ทั้งนี้ตัว Musk ระบุว่าเขาแทบไม่เคยสูบกัญชา แต่แม้จะลองแล้วก็พบว่า การสูบกัญชาก็ไม่ได้ออกฤทธิ์หรือมีผลกระทบอะไรกับตัวเขาแต่อย่างใด คือเป็นเจตนาจะพิสูจน์ให้เห็นว่าคนที่ไม่เคยสูบกัญชาสูบแล้วไม่เห็นจะเป็นอะไร (ทำนองนี้)

41193211 1149942458486472 6217062888645853184 n

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการสูบกัญชาในรัฐแคลิฟอร์เนียเป็นเรื่องถูกกฎหมาย แต่ Musk ก็ถูกตั้งคำถามเรื่องความเหมาะสมทันที โดยมีข่าวว่าทางกองทัพอากาศสหรัฐอาจดำเนินการสอบสวนเรื่องนี้ ในฐานะที่เขาเป็นซีอีโอของ SpaceX ซึ่งเป็นบริษัทสัญญาจ้างของกองทัพ นอกจากนี้ หลังจากภาพและข่าวการสูบกัญชาของเขานำเสนอออกไป ก็ทำให้หุ้นของTesla และ SpaceX ร่วงลงทันที แล้วยังมีข่าวว่าหัวหน้าฝ่ายบัญชี-ทรัพยากรบุคคลของ Tesla ลาออกพร้อมกัน 2 คน ทำให้ราคาหุ้นในช่วงนั้นตกลงไปอีก 6%

ก็เรียกว่าเป็นหนึ่งในผลกระทบจากความมั่นใจตัวเองเกินไปของเขา ซึ่งแม้ว่า ‘กัญชา’ จะไม่มีผลต่อร่างกายแต่กลับส่งผลโดยตรงไปที่บริษัท

[wonderplugin_video iframe=”https://www.youtube.com/watch?v=ycPr5-27vSI&feature=youtu.be” videowidth=600 videoheight=400 keepaspectratio=1 videocss=”position:relative;display:block;background-color:#000;overflow:hidden;max-width:100%;margin:0 auto;” playbutton=”https://bsite.in/wp-content/plugins/wonderplugin-video-embed/engine/playvideo-64-64-0.png”]

ห้าวซื้อหุ้นคืน สู่การถูกบีบออกจาก ปธ.บอร์ด Tesla

เป็นอีกครั้งที่ Musk โชว์ความฉลาด แต่ก็นำมาซึ่งปัญหามากมายไม่แพ้กัน โดยเมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา Musk ทวีตข้อความว่า จะซื้อหุ้นของ Tesla คืนในราคาหุ้นละ 420 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 14,000 บาท) พร้อมถอนบริษัทออกจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยอ้างว่า เขาได้พูดคุยกับ Public Investment Fund (PIF) หรือ “กองทุนรัฐบาลซาอุฯ” เพื่อจะนำบริษัท Tesla ออกจากตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ ประเทศสหรัฐอเมริกา ระบุกองทุนรัฐบาลซาอุฯ หนุน Tesla ออกตลาดหลักทรัพย์ฯ อีกด้วย

นอกจากนี้ ยังระบุเหตุผลว่า เขาต้องการ Tesla กลับมาบริหารเอง และสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีที่สุด เพื่อทุกคน และยังอยากให้นักลงทุนยังเชื่อมั่นและอยู่กับ Tesla ต่อไป นอกจากนี้ เขายังได้ทำจดหมายเวียนถึงพนักงาน โดยย้ำว่าเรื่องนี้ยังไม่ได้ดำเนินการตัดสินใจแต่อย่างใด แต่ที่ทำก็เพราะเขามองเห็นผลดี จะทำให้บริษัทเป็นอิสระมากขึ้นและไร้แรงกดดันจากหลายฝ่าย

Am considering taking Tesla private at $420. Funding secured.

— Elon Musk (@elonmusk) August 7, 2018

และแม้ว่าการตัดสินใจดังกล่าวจะทำให้หุ้นของ Tesla พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงนั้น แต่การตัดสินใจดังกล่าวเขาไม่อาจทำคนเดียวได้เพราะตัวเขานั้นมีหุ้นแค่ 20% และต้องได้รับการสนับสนุนจากบอร์ดบริหารและผู้ถือหุ้นรายอื่นๆ ซึ่งแน่นอนว่าข้อเสนอนี้ต้องพับไปในที่สุด

แต่เหตุการณ์ดังกล่าวนี้ไม่ได้จบง่ายๆ เมื่อทาง กลต. สหรัฐฯ (หรือชื่อเต็ม สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ในประเทศสหรัฐอเมริกา -Securities and Exchange Commission: SEC) เห็นว่าการกระทำดังกล่าวถือว่ามีเจตนาปั่นหุ้นและชักจูงให้รับสารไปในทางที่ผิด จึงดำเนินการยื่นฟ้องในฐาน ฉ้อโกงหลักทรัพย์ ด้วยการเจตนาเผยแพร่ข้อมูลเพื่อชักนำให้ผู้รับสารเข้าใจไปทางที่ผิด โดยไม่ได้นำเรื่องเข้าปรึกษากับคณะผู้บริหาร ผู้ถือหุ้น และที่ปรึกษาด้านการลงทุนของบริษัท Tesla ก่อน

elonmusk2

ย้อนกลับไปในช่วงที่เขาทวีตว่าจะซื้อหุ้นคืนทำให้ราคาหุ้นของ Tesla พุ่งทะยานสูงขึ้น จนต้องระงับการซื้อขายในเวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมง ซึ่งการกระทำดังกล่าว SEC มองว่า เป็นความผิดฐานฉ้อโกง จึงยื่นเรื่องฟ้องร้องต่อศาล

ซึ่งศาลมีความเห็นว่า Musk จะต้องพ้นสภาพในการเป็นประธานบริหารของ Tesla ภายใน 45 วัน แต่ยังจะสามารถดำรงตำแหน่ง CEO ใหญ่ของ Tesla อยู่ พร้อมทั้งห้ามลงสมัครชิงตำแหน่งคืนภายใน 3 ปี นอกจากนี้ ยังถูกปรับเป็นเงินมูลค่ากว่า 20 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (หรือราว 645 ล้านบาท) อีกด้วย รวมถึงต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะผู้บริหารและกรรมการบริหารของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ทั้งหมด และคาดว่า SEC จะแต่งตั้งคณะกรรมการอิสระอีก 2 คนเข้ามาเป็นสมาชิกภายในบอร์ดบริหารของ Tesla อีกด้วย นอกจากนี้ ยังส่งผลต่อราคาหุ้นของ Tesla ที่ร่วงลงไปทันที 12%

เรียกได้ว่า Elon Musk คือ คนเก่งที่หลายครั้ง ความมั่นใจในความสามารถของตัวเองก็ดี ความชาญฉลาดเกินหน้าผู้อื่นก็ดี ทำให้เจ้าตัวและบริษัทประสบปัญหา ซึ่งเรื่องนี้เท่าที่สังเกต Entrepreneur หลายคนมักประสบปัญหาทำให้สะดุดขาตัวเองอยู่บ่อยๆ แต่ในอีกด้านหนึ่งความเก่งและชาญฉลาดของเขาก็นำมาสู่การเปลี่ยนแปลงอิมแพ็คระดับโลกได้อย่างมากทีเดียว

ทำให้เรานึกถึงคำพูดของ Thanos ที่บอกกับ Tony Stark เมื่อเผชิญหน้ากันว่า