- Lifestyle
10 ประเด็น เก็บตก หลัง มูรินโญ่ ถูกปลดจากตำแหน่ง
By Sweeper Keeper • on Dec 20, 2018 • 2,969 Views
บางทีการที่สโมสรตัดสินใจปลด โจเซ่ มูรินโญ่ ออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีม อาจจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับทุกฝ่ายแล้วก็เป็นได้
เพราะตลอด 2 ปีกับอีก 7 เดือนในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด มูรินโญ่ มีปัญหารอบด้านกับทั้ง ผู้บริหารสโมสร, นักเตะในทีม, แฟนบอลทั้งของทีมตัวเอง และทีมคู่แข่ง
หลังๆ ถึงขนาดลามไปมีปัญหากับ นักข่าว ซึ่งเรามักจะเห็นกุนซือจอมโอหังคนนี้ให้สัมภาษณ์ด้วยอารมณ์อันเกรี้ยวกราวอยู่บ่อยๆ ยามที่มีคนยิงคำถามไม่เข้าหูใส่เขา
เมื่อมาบวกกับการที่ทีมทำผลงานได้ย่ำแย่สุดๆ ในฤดูกาลนี้ ก็ยิ่งทำให้เวลาสำหรับการเป็นผู้จัดการทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ของ มูรินโญ่ เริ่มนับถอยหลังลงเรื่อยๆ จนถูกปลดออกจากตำแหน่งในที่สุด
และต่อไปนี้คือ 10 ประเด็นน่าสนใจ หลังจาก โจเซ่ มูรินโญ่ ไม่ได้ไปต่อในตำแหน่งผู้จัดการทีมแมนฯยูฯ
1. ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2015 โจเซ่ มูรินโญ่ ถูก เชลซี ปลดออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีม หลังคุมทีมแพ้ไปถึง 9 นัด จากการลงสนามไป 16 เกม และอีก 3 ปีให้หลัง วันที่ 18 ธันวาคม 2018 มูรินโญ่ ก็โดนปลดออกจากตำแหน่งกุนซือ แมนฯ ยูไนเต็ด หลังจากแพ้ให้กับ ลิเวอร์พูล ในเกมแดงเดือดไปแบบไม่มีทางสู้
2. หลังเกมแพ้ ลิเวอร์พูล 3-1 มูรินโญ่ พาทีม แมนฯ ยูไนเต็ด จมอยู่ในอันดับ 6 ของตาราง เก็บได้เพียง 26 แต้ม จาก 17 เกม ซึ่งถือเป็นการออกสตาร์ทฤดูกาลที่แย่ที่สุดของสโมสรในรอบ 28 ปี
3. หลังจากผ่านไป 17 นัด แมนฯ ยูไนเต็ด มีแเต้มตามหลัง ลิเวอร์พูล จ่าฝูงถึง 19 แต้ม และตามหลังอันดับท๊อปโฟร์อยู่ถึง 11 คะแนน แถมเสียประตูไปแล้วถึง 29 ลูก ทั้งๆ ที่ซีซั่นก่อนพวกเขาเสียประตูตลอดทั้งฤดูกาลแค่ 28 ลูกเท่านั้น
4. เจอร์เก้น คล็อปป์ กลายเป็นผู้จัดการทีมที่มีส่วนทำให้ มูรินโญ่ ถูกปลดออกจากตำแหน่งมาแล้ว 3 ครั้ง
– ครั้งแรก คล็อปป์ นำทีม ดอร์ทมุนด์ เอาชนะ รีล มาดริด ของ มูรินโญ่ ไปได้ 4-1 ในรอบรองฯ ยูฟ่า แชมป์เปี้ยน ลีก ทำให้ มูรินโญ่ ถูกปลดหลังจบฤดูกาลในปี 2013
– ครั้งที่สอง เกิดขึ้นในปี 2015 เมื่อ คล็อปป์ นำทีม ลิเวอร์พูล เอาชนะ เชลซี ไปได้ 3-1 ไม่กี่สัปดาห์ต่อมา มูรินโญ่ ถูกปลด
– ครั้งที่สาม ในเกมแดงเดือดนัดล่าสุดซึ่ง ลิเวอร์พูล เอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด ไป 3-1 อีกสองวันต่อมา มูรินโญ่ ก็ถูกปลด
5. มูรินโญ่ คุมทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ไปทั้งหมด 144 เกม โดยมีเปอร์เซ็นต์การชนะอยู่ที่ 58.3 เปอร์เซ็นต์ และคว้าแชมป์รายการใหญ่มาได้ 2 ถ้วย (ลีก คัพ และ ยูโรป้า คัพ)
ขณะที่ หลุยส์ ฟาน กัล คุม แมนฯ ยูไนเต็ด ไปทั้งหมด 103 เกม เปอร์เซ็นต์การชนะอยู่ที่ 52.4 เปอร์เซ็นต์ และคว้าแชมป์รายการใหญ่มาได้ 1 ถ้วย
ส่วน เดวิด มอยส์ คุม แมนฯ ยูไนเต็ด ไปทั้งหมด 51 เกม เปอร์เซ็นต์การชนะอยู่ที่ 52.9 เปอร์เซ็นต์ โดยไม่มีแชมป์ติดมือ
6. มูรินโญ่, ฟาน กัล และ มอยส์ คุมทีม แมนฯ ยูไนเต็ด รวมกันทั้งหมด 6 ฤดูกาล แต่ไม่มีใครพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีกได้สำเร็จเลย
7. แมนฯ ยูไนเต็ด กลายเป็นทีมเดียวที่ มูรินโญ่ เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมแล้วไม่สามารถคว้าแชมป์ลีกได้ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ มูรินโญ่ ไปคุมทีมไหนก็พาทีมคว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้หมด ไล่ตั้งแต่ ปอร์โต้, เชลซี, อินเตอร์ มิลาน, รีล มาดริด และมาได้แชมป์กับ เชลซี อีกครั้งจากการกลับมาคุมทีมหนที่สอง
8. ตลอดการคุมทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ของ มูรินโญ่ เขาซื้อนักเตะเป็นเงินรวมทั้งหมดเกือบ 400 ล้านปอนด์ ได้แก่
พอล ป็อกบา – ค่าตัว 89 ล้านปอนด์ (ย้ายมาจาก ยูเวนตุส เมื่อเดือน สิงหาคม 2016)
โรเมลู ลูกากู – ค่าตัว 75 ล้านปอนด์ (ย้ายมาจาก เอฟเวอร์ตัน เมื่อเดือน กรกฎาคม 2017)
เฟร็ด – ค่าตัว 52 ล้านปอนด์ (ย้ายมาจาก ชัคตาร์ โดเน็ทส์ค เมื่อเดือน มิถุนายน 2018)
เนมันย่า มาติช – ค่าตัว 40 ล้านปอนด์ (ย้ายมาจาก เชลซี เมื่อเดือน สิงหาคม 2017)
วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ – ค่าตัว 31 ล้านปอนด์ (ย้ายมาจาก เบนฟิก้า เมื่อเดือน กรกฎาคม 2017)
เอริค ไบยี่ – ค่าตัว 30 ล้านปอนด์ (ย้ายมาจาก บียาร์เรอัล เมื่อเดือน มิถุนายน 2016)
เฮนริคห์ มคิตาร์ยาน – ค่าตัว 26.3 ล้านปอนด์ (ย้ายมาจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เมื่อเดือน กรกฏาคม 2016)
ดิโอโก้ ดาโลต์ – ค่าตัว 19 ล้านปอนด์ (ย้ายมาจาก ปอร์โต้ เมื่อเดือน มิถุนายน 2018)
อเล็กซิส ซานเชซ – ย้ายสลับตัวกับ มคิตาร์ยาน จาก อาร์เซน่อล เมื่อเดือน มกราคม 2018
ซลาตัน อิบราฮิโมวิช – ค่าตัว ฟรี (เมื่อเดือน กรกฎาคม 2016)
ลี แกรนท์ – ค่าตัว ฟรี (เมื่อเดือน กรกฎาคม 2018)
9. โอเล่ กุนนาร์ โซลชา อดีตหัวหอกซูเปอร์ซับ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทีมชั่วคราวจนจบฤดูกาลนี้ เคยลงเล่นในพรีเมียร์ ลีกให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ไปทั้งหมด 235 นัด ยิงได้ 91 ประตู กับ อีก 37 แอสซิสต์ และเคยคว้าแชมป์ร่วมกับทีม 6 สมัย
10. ตัวเต็งที่สื่อในอังกฤษรายงานว่าจะมาเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ในฤดูกาลหน้านั้นมีทั้ง ซีเนอดีน ซีดาน, เมาริซิโอ โปเซ็ตติโน่, อันโตนิโอ คอนเต้, ลีโอนาร์โด ยาร์ดิม, ไรอัน กิ๊กส์
เครดิตภาพ : www.standard.co.uk / theunitedstand.com
ABOUT THE AUTHOR
Sweeper Keeper
แม้ก่อนหน้านี้จะเคยผ่านงานเขียนบทความเกี่ยวกับ หนัง และ เพลง มาพอสมควร แต่ด้วยความที่ชอบดูฟุตบอลลีกอังกฤษ และมี ลิเวอร์พูล เป็นทีมโปรดในดวงใจ เขาจึงขอโอกาสมาแบ่งปันมุมมองด้านลูกหนังให้ได้อ่านกันบ้าง