- Lifestyle
ว่าด้วยเรื่อง “จุดอ่อน” ของ แมนฯ ซิตี้
By Sweeper Keeper • on Dec 24, 2018 • 1,972 Views
กลายเป็นเกมที่ พลิกล็อค ที่สุดของฟุตบอลพรีเมียร์ ลีกช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พ่ายคาบ้านให้กับทีมอย่าง คริสตัล พาเลซ
จากความพ่ายแพ้ในเกมนี้ ทำให้หลังผ่านพ้นไป 18 นัด ทีมแชมป์เก่า มีแต้มตามหลัง ลิเวอร์พูล จ่าฝูง ห่างเป็น 4 คะแนนแล้ว
สำหรับใครที่ติดตามฟอร์มการเล่นของ แมนฯ ซิตี้ มาตลอด น่าจะสังเกตเห็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นอย่างหนึ่งนั่นคือ การที่พวกเขาเริ่มจะเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ยากขึ้น
จากเดิมที่เปิดซีซั่นมา เราจะชินตากับการที่ แมนฯ ซิตี้ เอาชนะคู่แข่งได้อย่างสบายๆ แถมหลายๆ ครั้งยังไล่ถล่มฝั่งตรงข้ามแบบสนุกเท้านัดละ 5-6 ลูกอีกต่างหาก
แต่พักหลังๆ มา กลับกลายเป็นว่า ต้องลุ้นกันจนเหนื่อยกว่าที่ลูกทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะเก็บสามแต้มได้ในแต่ละนัด
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผลงานในสามเกมล่าสุดที่บ่งชี้ว่า ฟอร์มการเล่นของ แมนฯ ซิตี้ ดร็อปลงไปจริงๆ เพราะพวกเขาเป็นฝ่ายปราชัยถึงสองเกม
เกมที่บุกไปแพ้เชลซี 0-2 ถือเป็นความพ่ายแพ้เกมแรกที่พอเข้าใจได้ เพราะจะว่าไปแล้ว เชลซี ก็เป็นทีมระดับหัวแถวซึ่งมีนักเตะฝีเท้าในระดับเดียวกัน
แต่สำหรับเกมซึ่งแพ้ให้กับ คริสตัล พาเลซ 2-3 ต้องบอกว่าเป็นความพ่ายแพ้ที่ “ช็อค” แฟนบอลแบบสุดๆ
เพราะนี่เป็นครั้งแรกของ แมนฯ ซิตี้ ในยุคของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่แพ้คาบ้านให้กับทีมซึ่งไม่ใช่ทีมในระดับท๊อปซิกซ์ด้วยกัน
เพราะฉะนั้น เราจะมาดูกันว่า อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้ทีมซึ่งถูกยกให้เป็น “เต็งหนึ่ง” ที่จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีกฤดูกาลนี้ ทำแต้มหล่นหายไปดื้อๆ จนทำให้ตอนนี้พวกเขาต้องเป็นฝ่ายไล่ตาม ลิเวอร์พูล ที่เริ่มทำคะแนนหนีออกไป
การขาดหายไปของนักเตะตัวหลัก
พักหลังๆ มานี้ เราแทบจะไม่เห็นสามแนวรุกคนสำคัญอย่าง เควิน เดอ บรอยน์, เซร์จิโอ อเกวโร่ และ ดาบิด ซิลบา ลงสนามพร้อมๆ กันเลย เพราะตั้งแต่เปิดฤดูกาลสามคนนี้สลับกันเจ็บมาโดยตลอด
ไม่เพียงแค่นั้น เบนจามิน เมนดี้ แบ็คซ้ายตัวจริงของทีมก็มาเจ็บยาวไปอีกคน ทำให้ เป๊ป จำเป็นต้องเข็น ฟาเบียง เดลฟ์ ซึ่งเป็นกองกลางอาชีพลงมาเล่นแก้ขัดในตำแหน่งนี้อีกครั้ง
ซึ่งแน่นอนว่า การหายหน้าหายตาไปของนักเตะทั้งสี่คนนี้ ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการเล่นของทีมไม่มากก็น้อย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ ดาบิด ซิลบา ซึ่งถือเป็นหัวใจในการสร้างสรรค์เกมรุกของ แมนฯ ซิตี้ อย่างแท้จริง
เพราะหลังจากที่ ซิลบา มีอาการบาดเจ็บจนต้องถูกเปลี่ยนตัวออกไปช่วงครึ่งหลังในเกมที่แพ้เชลซี เกมรุกของทีมดูจะหมดไอเดียไปเลยตั้งแต่ตอนนั้น
และยิ่งมาชัดเจนกับเกมล่าสุดที่แพ้ คริสตัล พาเลซ ที่แม้จะเป็นฝ่ายครองเกมบุกอยู่ข้างเดียว แต่การไม่มี ซิลบา อยู่ในสนาม จังหวะสุดท้ายของซิตี้ ดูลนลาน ขาดความแน่นอน จนทำให้เสียโอกาสในการทำประตูไปหลายครั้ง
ความผิดพลาดส่วนบุคคลในแนวรับ
ไคลน์ วอล์คเกอร์ แบ็คขวาของทีมคือผู้เล่นที่ต้องรับผิดชอบกับความพ่ายแพ้ทั้งสองนัดของ แมนฯ ซิตี้!
โดยในเกมที่แพ้เชลซี ประตูแรกที่เสียเริ่มจากการที่เขาเติมเกมรุกแล้วลงไม่ทัน ทำให้ วิลเลี่ยน เติมเกมขึ้นมาทางฝั่งของเขา แล้ว วอล์คเกอร์ ก็ยังพลาดอีกครั้งในจังหวะต่อมา เพราะประกบห่างจนทำให้ อาซาร์ ตบบอลเข้ากลางให้ กองเต้ วิ่งมายิงประตูนี้เข้าไป
และในเกมที่แพ้ คริสตัล พาเลซ สามประตูที่เสียไป ก็มาจากความผิดพลาดของ วอล์คเกอร์ คนเดียวถึงสองลูก โดยลูกแรกเป็นอีกครั้งที่เขาติดประมาท ประกบห่างจนทำให้ เจฟฟรีย์ ชลุปป์ เลี้ยงหาจังหวะจนยิงหักข้อเข้าประตูไปเป็นลูกตีเสมอให้กับพาเลซ
อีกลูกเป็นจังหวะที่ วอล์คเกอร์ เข้าบอลพรวดพราดใส่ มักซ์ เมเยอร์ จนทีมเสียลูกจุดโทษ และทำให้พาเลซได้ประตูนำออกไปเป็น 3-1 ในเกมนี้
ทั้งหมดข้างต้นเป็นหลักฐานที่บ่งชี้ว่า ไคลน์ วอล์คเกอร์ คือ “จุดอ่อน” ในเกมรับของ แมนฯ ซิตี้ อย่างไม่ต้องสงสัย
แพ้ทางทีมที่เล่นเกมโต้กลับได้ดี
จุดสังเกตอีกอย่างหนึ่งก็คือ สองเกมที่ แมนฯ ซิตี้ แพ้ไปแล้วในพรีเมียร์ ลีก คือการแพ้ให้กับ เชลซี และ คริสตัล พาเลซ ซึ่งเป็นทีมที่เล่นเกมโต้กลับได้ดีทั้งคู่
เชลซี มีนักเตะที่สามารถใช้ความเร็วเล่นงานคู่แข่งได้ทั้ง อาซาร์, วิลเลี่ยน, เปโดร ในขณะที่ พาเลซ ก็มีนักเตะอย่าง ซาฮา และ ทาวน์เซนด์ ที่ป่วนแผงหลัง แมนฯ ซิตี้ ได้ตลอดทั้งเกม
ด้วยความที่ทรงบอลของ แมนฯ ซิตี้ เป็นบอลบุกซึ่งใช้แบ็คทั้งสองฝั่งดันสูงขึ้นไปเพื่อเล่นเกมรุก คู่ต่อสู้จึงมักจะจู่โจม แมนฯ ซิตี้ ด้วยการเล่นเกมสวนกลับไปตรงพื้นที่ว่างซึ่งแบ็คสองข้างเติมขึ้นมาแล้ววิ่งลงไม่ทันนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม คะแนนที่ห่างกันแค่ 4 แต้ม ยังถือว่าเป็นช่องว่างที่ยังไม่ห่างมาก โอกาสในการลุ้นแชมป์ยังเปิดกว้าง เพราะยังมีเกมเหลือให้เล่นอีกตั้งครึ่งฤดูกาล
ซึ่งด้วยคุณภาพของนักเตะ บวกกับฝีมือของกุนซือระดับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เชื่อเหลือเกินว่า แมนฯ ซิตี้ คงจะ ไล่เบียด ไล่บี้ ตำแหน่งจ่าฝูงกับ ลิเวอร์พูล แบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ
และไม่แน่เหมือนกันว่า เกมที่ แมนฯ ซิตี้ จะเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล ช่วงหลังปีใหม่นี้ อาจจะเป็นแม็ตช์ที่มีตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ ลีกเป็นเดิมพันก็เป็นได้!!!
เครดิตภาพ : www.standard.co.uk/www.premierleague.com
Copyright© Bsite.In
ABOUT THE AUTHOR
Sweeper Keeper
แม้ก่อนหน้านี้จะเคยผ่านงานเขียนบทความเกี่ยวกับ หนัง และ เพลง มาพอสมควร แต่ด้วยความที่ชอบดูฟุตบอลลีกอังกฤษ และมี ลิเวอร์พูล เป็นทีมโปรดในดวงใจ เขาจึงขอโอกาสมาแบ่งปันมุมมองด้านลูกหนังให้ได้อ่านกันบ้าง