- Lifestyle
มองตำแหน่ง “จ่าฝูง” ของ หงส์แดง หลังแพ้นัดแรก
By Sweeper Keeper • on Jan 07, 2019 • 2,046 Views
และแล้ว ลิเวอร์พูล ก็จบเส้นทางการเป็นทีม “ไร้พ่าย” โดยแพ้เกมแรกในพรีเมียร์ ลีกฤดูกาลนี้ให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้
แน่นอนว่า ความพ่ายแพ้ในเกมนี้ ส่งผลกระทบโดยตรงกับทั้ง “แชมป์เก่า” และ “ผู้ท้าชิง” โดยเฉพาะเรื่องช่องว่างของคะแนนที่ถูกลดลงมาจาก 7 เหลือเพียง 4 แต้ม
ถึงแม้จะฝ่ายแพ้ แต่อย่าลืมว่า อันดับบนตารางก็ยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร เพราะตำแหน่ง “จ่าฝูง” ณ ตอนนี้ ยังคงเป็นของ ลิเวอร์พูล เหมือนเดิม
ส่วนตัวชอบคำสัมภาษณ์หลังจบเกมของ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน แบ็คซ้ายไดนาโมของทีม ที่ออกมาพูดถึงสถานการณ์ลุ้นแชมป์ของทั้ง ลิเวอร์พูล และ แมนฯ ซิตี้ ได้ตรงใจมากๆ
ร็อบโบ้ บอกว่า มันคงจะดีถ้าชนะในเกมนี้และนำห่างออกไปเป็น 10 แต้ม แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าทีมจะเป็นแชมป์อยู่ดี
เช่นเดียวกับ แมนฯ ซิตี้ ที่ถึงจะชนะเกมนี้ แต่พวกเขาก็ยังไม่ได้แชมป์เหมือนกัน และที่สำคัญก็คือ ลิเวอร์พูล ยังมีคะแนนนำอยู่ 4 แต้ม
อย่างไรก็ตาม มีกูรูลูกหนังหลายๆ คนรวมไปถึงแฟนบอลหงส์แดงจำนวนหนึ่งที่ออกมาแสดงความกังวลว่า หลังจากแพ้ในเกมนี้แล้ว ลิเวอร์พูล จะออกอาการ “เป๋” จนฟอร์มหลุดต่อเนื่องเลยหรือเปล่า?
ในขณะเดียวกัน ก็มีผู้สันทัดกรณีรวมถึงเหล่าเดอะ ค็อปอีกส่วนหนึ่งที่มองว่า การแพ้ให้แก่ แมนฯ ซิตี้ เป็นเพียงความพ่ายแพ้ในเกมที่สูสีมากๆ เกมหนึ่งเท่านั้น ซึ่งไม่น่าจะส่งผลกระทบอะไรกับฟอร์มการเล่นของ ลิเวอร์พูล ในเกมนัดต่อๆ ไป
หลุยส์ ฟาน กัล อดีตผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นคนหนึ่งที่เชื่อแบบนั้น โดยเขาแสดงทัศนะว่า แม้จะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ แต่เขาคิดว่าในภาพรวม ลิเวอร์พูล เป็นทีมที่มีเกมรุก-เกมรับสมดุลมากกว่า
ฟาน กัล ยังบอกอีกด้วยว่า จริงอยู่ที่ แมนฯ ซิตี้ เป็นทีมที่เล่นเกมรุกได้ยอดเยี่ยม แต่ในยามที่ต้องเล่นเกมรับพวกเขามักจะมีปัญหาเสมอ
และถ้าต้องให้เลือกว่าทีมไหนจะเป็นฝ่ายคว้าแชมป์ไปครองในท้ายที่สุด เขาขอจิ้มไปที่ ลิเวอร์พูล!!!
แต่ ลิเวอร์พูล จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีกได้จริงแบบที่ อาจารย์ หลุยส์ ฟันธงไว้หรือเปล่า? อันนี้เป็นเรื่องที่ต้องดูกันยาวๆ ต่อไป
เพราะก่อนที่จะคิดถึงเรื่อง “แชมป์” ลิเวอร์พูล จะต้องพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นก่อนว่า หลังจากแพ้ให้กับทีมที่เป็นคู่แข่งในการลุ้นแชมป์โดยตรงแล้ว พวกเขาจะกลับมา “ตั้งหลัก” และลงเล่นด้วยความมั่นใจเหมือนเดิมได้หรือไม่?
และถ้ามองจากโปรแกรมพรีเมียร์ ลีก 5 นัดถัดไป ดูเหมือนว่า หงส์แดง จะเจอกับงานที่เบากว่าทางฝั่งของ เรือใบสีฟ้า
โดย 5 นัดต่อไปของ ลิเวอร์พูล มีคิวจะต้องพบกับ ไบรท์ตัน (เยือน), คริสตัล พาเลซ (เหย้า), เลสเตอร์ (เหย้า), เวสต์แฮม (เยือน) และ บอร์นมัธ (เหย้า)
ขณะที่ แมนฯ ซิตี้ มีคิวเจอกับ วูล์ฟ (เหย้า), ฮัดเดอร์ฟิลด์ (เยือน), นิวคาสเซิล (เยือน), อาร์เซน่อล (เหย้า) และ เชลซี (เหย้า) ซึ่งระหว่างนี้พวกเขายังต้องลงเตะฟุตบอลลีก คัพ รอบรองชนะเลิศ กับ เบอร์ตัน ด้วยอีกสองนัด
จากโปรแกรมดังกล่าว เมื่อดูจากชื่อชั้นของคู่ต่อสู้ หาก ลิเวอร์พูล ไม่รู้สึก “สะทกสะท้าน” กับความปราชัยนัดแรก แล้วกลับไปลงสนามพร้อมกับฟอร์มเก่งของตัวเอง มีโอกาสค่อนข้างสูงที่พวกเขาจะเดินหน้ากวาดแต้มอย่างเป็นกอบเป็นกำต่อไป
ส่วนทางฝั่ง แมนฯ ซิตี้ ด้วยโปรแกรมที่ชุกกว่า บวกกับการที่ต้องเผชิญหน้ากับทีมระดับท็อปซิกซ์สองนัดติดต่อกัน พวกเขามีโอกาสทำแต้มหลุดมือมากกว่าหากเทียบกันจากตรงนี้
ทั้งหลายทั้งปวง จาก 4 แต้มที่นำอยู่ รวมถึงโปรแกรม 5 นัดต่อไปที่ดูแล้วไม่ยากเท่าไหร่ ลิเวอร์พูล น่าจะเป็นฝ่ายที่ยังถือไพ่เหนือกว่า
เกมที่สำคัญที่สุดก็คือ เกมนัดต่อไปที่ต้องบุกไปเยือน ไบรท์ตัน ซึ่งพวกเขาจำเป็นต้องเก็บชัยชนะให้ได้
เพราะเกมนี้มันไม่ได้มีค่าแค่การได้ 3 คะแนน หรือการยึดตำแหน่ง “จ่าฝูง” ได้อีกหนึ่งสัปดาห์เท่านั้น
แต่ชัยชนะในเกมนี้ จะเป็นชัยชนะที่จะทำให้ลูกทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ เรียกความมั่นใจกลับคืนมา พร้อมกับ โมเม้นตั้ม ของการลุ้นแชมป์ที่จะอยู่ทางฝั่งของ ลิเวอร์พูล ต่อไป!
เครดิตภาพ : www.standard.co.uk
ABOUT THE AUTHOR
Sweeper Keeper
แม้ก่อนหน้านี้จะเคยผ่านงานเขียนบทความเกี่ยวกับ หนัง และ เพลง มาพอสมควร แต่ด้วยความที่ชอบดูฟุตบอลลีกอังกฤษ และมี ลิเวอร์พูล เป็นทีมโปรดในดวงใจ เขาจึงขอโอกาสมาแบ่งปันมุมมองด้านลูกหนังให้ได้อ่านกันบ้าง