- Lifestyle
สองเกมอันตรายที่ หงส์แดง ต้องผ่านให้ได้ หากหวังคว้าแชมป์!
By Sweeper Keeper • on Feb 18, 2019 • 2,106 Views
ในที่สุดฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก ก็เดินทางมาถึงช่วงเวลาที่การลุ้นแชมป์กลับมาสนุกเข้มข้น ชนิดที่ต้องวัดกันแบบสัปดาห์ต่อสัปดาห์
สถานการณ์ล่าสุด แชมป์เก่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลับขึ้นไปเป็นจ่าฝูงชั่วคราว โดยมี 65 แต้ม เท่ากับ ลิเวอร์พูล แต่มีลูกได้เสียดีกว่า และลงเตะมากกว่าหนึ่งนัด
เมื่อพูดถึงการขับเคี่ยวเพื่อลุ้นแชมป์กันระหว่างสองทีมนี้ ความจริงแล้วทางฝั่งของ ลิเวอร์พูล มีโอกาสทิ้งห่างไปเป็น 10 แต้ม หากบุกไปเอาชนะ แมนฯ ซิตี้ ได้ที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม
แต่เมื่อลงเอยด้วยความพ่ายแพ้ ช่องว่างคะแนนจึงถูกลดจาก 7 เหลือ 4 แต้ม จนกระทั่ง ลิเวอร์พูล มีโอกาสที่จะทำคะแนนหนีออกไปเป็น 7 แต้มอีกครั้ง หลังจากที่ แมนฯ ซิตี้ พลาดท่าให้กับ นิวคาสเซิล แบบพลิกล็อค
แต่ หงส์แดง ก็ไม่สามารถฉกฉวยโอกาสนี้ไว้ได้ เมื่อทำได้แค่เสมอกับ เลสเตอร์ ซิตี้ ในบ้าน หนำซ้ำ ยังทำแต้มหลุดในเกมถัดมาด้วยการบุกไปเสมอ เวสต์แฮม จนถูก ทีมเรือใบสีฟ้า แซงขึ้นไปเป็นจ่าฝูง เมื่อพวกเขาบุกไปเก็บสามคะแนนจาก เอฟเวอร์ตัน ได้สำเร็จ
ยังดีที่ ลิเวอร์พูล กลับมาเก็บสามแต้มได้อีกครั้งในเกมล่าสุดกับ บอร์นมัธ ถึงแม้ในสัปดาห์เดียวกันนั้น แมนฯ ซิตี้ จะโชว์ฟอร์มสุดโหดด้วยการยำใหญ่ใส่ เชลซี ไปถึง 6-0 และกลับขึ้นไปเป็นจ่าฝูงชั่วคราวอีกครั้ง แต่ถ้าว่ากันตามทฤษฎีแล้ว ทุกอย่างยังคงอยู่ในมือของ ลิเวอร์พูล ด้วยการที่พวกเขามีเกมลงเตะน้อยกว่า แมนฯ ซิตี้ อยู่หนึ่งนัด
ซึ่งหากคิดกันง่ายๆ ว่า อีก 12 นัดที่เหลือในฤดูกาลนี้ ลิเวอร์พูล สามารถเก็บชัยชนะได้ 11 นัด และเสมออีก 1 นัด พวกเขาจะเป็นฝ่ายคว้าแชมป์ไปครองทันที โดยไม่ต้องไปสนใจผลการแข่งขันของทีมอื่นว่าจะออกมายังไง
เพียงแต่เกมหนึ่งนัดที่เตะน้อยกว่าที่ว่า ดันเป็นเกมแดงเดือดซึ่ง ลิเวอร์พูล ต้องบุกไปเยือน แมนฯ ยูไนเต็ด ในคืนวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้
นั่นหมายความว่า เกมแดงเดือด นัดนี้ จะเป็นอะไรที่สำคัญกว่าแค่ศึกแห่งศักดิ์ศรี โดยเฉพาะกับ ลิเวอร์พูล ที่เกมนี้จะเป็นเกมที่ส่งผลต่อการเป็นแชมป์ในฤดูกาลนี้ของพวกเขาด้วย
อธิบายให้ชัดยิ่งขึ้นก็คือ นี่คือเกมที่ ลิเวอร์พูล แพ้ไม่ได้ อย่างน้อยที่สุดต้องเก็บได้ซัก 1 แต้ม เพราะถ้าหากแพ้ นั่นหมายความว่าพวกเขาจะเสียตำแหน่งจ่าฝูงให้กับ แมนฯ ซิตี้ อย่างเป็นทางการทันที เพราะถึงจะมีแต้มเท่ากัน แต่ลูกได้เสียสู้ไม่ได้
นอกจากเกมแดงเดือด ที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แล้ว เมื่อมองจากโปรแกรมการแข่งขันที่เหลือ ส่วนตัวคิดว่า เกมที่ยากที่สุดอีกนัดหนึ่งก็คือ เกมเมอร์ซี่ย์ ไซด์ ดาร์บี้ ที่ ลิเวอร์พูล ต้องบุกไปเยือน เอฟเวอร์ตัน
จริงอยู่ที่ ลิเวอร์พูล ยังมีคิวต้องดวลแข้งกับทีมระดับท๊อปซิกซ์อีกสองนัดกับทั้ง สเปอร์ส และ เชลซี แต่สองเกมนี้แฟนๆ คงอุ่นใจได้มากกว่า เนื่องจากเป็นเกมที่ลงเล่นในแอนฟิลด์
เพราะถ้าดูจากสถิติ ณ ตอนนี้ การเล่นเป็นทีมเหย้าถือเป็นจุดแข็งที่สุดอย่างหนึ่งของทีม ลิเวอร์พูล ในยุคของ เจอร์เก้น คล็อปป์ โดยนับเฉพาะแค่เกมในพรีเมียร์ ลีก พวกเขาไม่แพ้ใครในแอนฟิลด์มาแล้วถึง 34 นัดติดต่อกัน (ชนะ 24 เสมอ 10)
แต่สำหรับเกมที่ต้องออกไปเยือนสองทีมที่เป็นอริตลอดกาลอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด และ เอฟเวอร์ตัน นั้น นอกเหนือจากจะมีเรื่องของศักดิ์ศรีที่ค้ำคออยู่กันแล้ว (รวมถึงทางฝั่ง ปีศาจแดง ที่ต้องการทำแต้มเพื่อลุ้นติดอันดับท็อปโฟร์)
เชื่อเหลือเกินว่า ในสถานการณ์ที่ ลิเวอร์พูล กำลังคั่วแชมป์อยู่นี้ มันจะยิ่งเป็นแรงบวกที่ทำให้นักเตะของทั้ง แมนฯ ยูไนเต็ด และ เอฟเวอร์ตัน ใส่กันแบบเกินร้อยอย่างแน่นอน เพราะพวกเขาหวังที่จะขัดขวางไม่ให้ทีมคู่ปรับของตัวเองได้ดิบได้ดีเกินหน้าเกินตานั่นเอง
อย่างที่แฟนๆ เองก็รู้อยู่แก่ใจว่า ที่ผ่านมาในสถานการณ์ปกติ การลงเตะใน เกมแดงเดือด รวมไปถึง เกมเมอร์ซี่ย์ ไซด์ ดาร์บี้ ไม่เคยเป็นเกมที่ง่ายสำหรับ ลิเวอร์พูล อยู่แล้ว
ยิ่งมาเป็นปีนี้ซึ่ง ลิเวอร์พูล จะต้องเจอกับสองทีมที่ว่าในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการลุ้นแชมป์แบบนี้ สองเกมดังกล่าวก็เลยเป็นสองเกมที่ยากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า!
และบางที สองเกมที่ว่านี้อาจจะเป็นสองเกมที่เป็นบทพิสูจน์ว่า ลิเวอร์พูล คู่ควรกับการก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งแชมป์ในปีนี้หรือไม่?
ซึ่งเหล่าสาวก หงส์แดง ทั้งหลาย คงกำลังรอลุ้นคำตอบด้วยใจระทึก!!!
เครดิตภาพ : www.standard.co.uk
ABOUT THE AUTHOR
Sweeper Keeper
แม้ก่อนหน้านี้จะเคยผ่านงานเขียนบทความเกี่ยวกับ หนัง และ เพลง มาพอสมควร แต่ด้วยความที่ชอบดูฟุตบอลลีกอังกฤษ และมี ลิเวอร์พูล เป็นทีมโปรดในดวงใจ เขาจึงขอโอกาสมาแบ่งปันมุมมองด้านลูกหนังให้ได้อ่านกันบ้าง