มาจนถึงตอนนี้คงไม่มีใครปฏิเสธพลังของ Social Media กันแล้วว่ามีพาวเวอร์มากมายแค่ไหน แต่แม้ว่าหลายคนจะรู้ว่ามันมีแรงส่งมหาศาล แต่ก็ยังมีน้อยคนที่รู้ว่า จะสามารถนำพลังเหล่านี้มาใช้งานให้เกิดประโยชน์ได้อย่างไร

ทั้งนี้ มีแต่บริษัทใหญ่ๆ ในต่างประเทศที่เล็งเห็นความสำคัญของ Social Data และอย่างที่เรารู้กันว่ามีการขายดาต้าเหล่านี้และสามารถทำเงินได้อย่างมหาศาล ในขณะที่ไทยนั้นก็เริ่มเห็นความสำคัญกันบ้างแล้วและเริ่มที่จะตื่นตัวเรื่องนี้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างิย่งประโยชน์ของพลังโซเชียลมีเดียที่นำมาใช้ใน “การเลือกตั้ง” ครั้งนี้

กับเรื่องนี้เราได้มีโอกาสคุยกับ “กล้า ตั้งสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไวซ์ไซท์ (ประเทศไทย) จำกัด” กล่าวถึงความสำคัญของ Social Data ว่า หลักๆ คือมันจะช่วยในการตัดสินใจต่างๆ ได้เร็วขึ้นจากข้อมูลมากมายที่มี ช่วยในการตีความ ประมวลผล และหลังประมวลผลแล้วก็จะนำข้อมูลดังกล่าวไปวิเคราะห์เพื่อช่วยในการตัดสินใจต่างๆ เช่นว่าแคมเปญนี้ควรไปต่อหรือไม่ ควรอัดเพิ่มงบฯ อีกหรือไม่ หรือควรหยุดอย่างไร หรือจะสามารถเอาชนะคู่แข่งได้หรือไม่ เป็นต้น ซึ่งสำหรับองค์ชั้นนำในแต่ละอินดัสเตรียลก็ใช้ Social Data ในการวิเคราะห์ข้อมูลฟังเสียงผู้บริโภคที่เกิดขึ้น

“องค์กรที่ขยับเร็วกว่าจะใช้ตรงนี้ก่อน คือผมกำลังจะบอกว่าลีดเดอร์ต่างๆ ในทุกอินดัสทรีใช้ Social Data กันหมดแล้ว เขาใช้ดาต้าเพื่อฟังเสียงผู้บริโภค และข้อมูลตรงนี้ก็ช่วยให้องค์กรขับเคลื่อนได้เร็วขึ้น ก้าวขึ้นมาเป็นลีดเดอร์ของอินดัสทรีนั้นๆ ได้”

ทั้งนี้ กล้า ยังบอกอีกว่า กับการเลือกตั้งพิสูจน์มาแล้วจากชัยชนะการเลือกตั้งทั้งของ โอบามา และของทรัมป์ ซึ่งใช้ Social Data ในการประเมินแคมเปญเลือกตั้ง ซึ่งเชื่อว่าสิ่งนี้ก็อาจจะเกิดขึ้นกับการเลือกตั้งของไทยในปีนี้

“กับการเลือกตั้งของไทยในปีนี้ เราอาจจะได้เห็นอะไรที่ไม่เคยเห็นจากการเลือกตั้งในครั้งนี้ ซึ่งหลายๆ อย่างเราอาจจะไม่กล้าพูดตรงๆ แต่โซเชียลมีเดียก็ทำให้เราเห็นอะไรบางอย่างแล้ว มีหลายอย่างเริ่มปลดล็อคมากขึ้นแล้ว ซึ่งผมบอกได้เลยว่าการเมืองกับโซเชียลมีเดียเป็นเรื่องเดียวกัน และหลายประเทศก็พรูฟแล้วว่ามันช่วยให้ประสบความสำเร็จได้อย่างไร”

เมื่อเราถามว่ากับการเลือกตั้งจะพรูฟอะไรได้บ้าง กล้าบอกว่า อันนี้ต้องดูว่าความเห็นต่างในโซเชียลฯ มันจะเปลี่ยนแปลงการเลือกตั้งได้หรือเปล่า ตนคงไม่ไปทำนายอนาคตหรอก แต่จะรอดูสิ่งที่เกิดขึ้น

กล้า ย้ำว่า มั่นใจว่าโซเชียลดาต้าน่าจะมีผลต่อการเลือกตั้งในปีนี้ เพราะว่าน้องๆ อายุ 18-26 ปี ซึ่งเป็นพลังสำคัญในโซเชียลมีเดีย เขายังไม่เคยไปเลือกตั้งเลย และการเลือกตั้งครั้งนี้ก็จะมีผลต่อชีวิตของเขาในอนาคตก็น่าจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างได้

“ที่สำคัญคือน้องๆ กลุ่มนี้ก็ไม่ได้อ่านสื่อในแบบที่เราอ่านกันแล้ว เขาไม่อ่านหนังสือพิมพ์ ไม่ฟังวิทยุ ไม่ดูทีวี แต่เขาใช้โซเชียลมีเดีย ดังนั้น คนประมาณ 8 ล้านคนนี้ (อายุ 18-26 ปี) ถ้าไปเลือกตั้งกันหมด ก็น่าจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและสะท้อนอะไรบางอย่างได้ คือกลุ่มนี้ต้องบอกว่า เดินหาเสียงรูปแบบเดิมคือแบบเคาะประตูบ้าน คือไม่เจอ ไม่ใช่กลุ่มที่จะหาเสียงแบบเก่าๆ ได้ นอกจากนี้ การที่เขาไม่เคยไปเลือกตั้งมาก่อน จึงประเมินไม่ได้ว่าจากครั้งที่แล้วเขาเลือกคนนี้ ครั้งนี้เขาจะเลือกใคร เป็นเสียงที่ใหม่มาก และอาจะเป็นเสียงที่เป็นตัวแปรสำคัญก็ได้”

แอร์เรียตรงนี้มีความน่าสนใจมากในการที่จะเฝ้าดู และลองวิเคราะห์ดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ที่น่าสนใจมากคือคนกลุ่มนี้คือกำลังหลักของชาติในอนาคตเลยนะ อายุ 18-26 ปี เขากำลังเรียนจบและบางคนก็เพิ่งจะเริ่มทำงาน เป็นคนชั้นกลาง ที่ไม่ได้ดูทีวี และไม่ได้ไปตามไปฟังปราศรัยตามศาลากลางตามจังหวัดหรือตามตำบลอีกด้วย

“วิธีในการหาเสียงเลือกตั้งในรูปแบบเดิมๆ อาจจะไม่มีผลอะไรกับเขาเลย ดังนั้น จุดนี้ผมเลยมองว่า Social Data จะมาช่วยวิเคราะห์ได้ ว่าจะเข้าถึงเขาอย่างไร และคอนเทนต์มันเวิร์คกับเขาหรือไม่อย่างไร”

คำพูดทิ้งท้ายของ “กล้า” น่าสนใจว่ากับรูปแบบเดิมของการหาเสียงไม่อาจเข้าถึงคนกลุ่มนี้ได้ จำเป็นจะต้องใช้วิธีใหม่ผ่านโซเชียลมีเดีย น่าจะเป็น Tool สำคัญที่ทำให้เกิดผลได้ แต่จะต้องใช้อย่างไรในทิศทางที่ถูกต้องก็ต้องอยู่ที่ว่าจะใช้ Social Data ได้เก่งแค่ไหนซึ่งเร็วๆ นี้ จะมีการจัดงานสำหรับ Social Media โดยเฉพาะขึ้นในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ได้แก่งาน Thailand Zocial Awards 2019

Thailand Zocial Awards 2019 งานประกาศรางวัลคนโซเชียลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทยกับการรวมตัวเหล่าคนดังที่ใช้โซเชียลมีเดียอย่างสร้างสรรค์และทำผลงานบนโซเชียลมีเดียได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งรางวัลนี้ถือเป็นสิ่งที่การันตีความสามารถ ทั้งยังเป็นอีกแรงผลักดันให้เหล่าคนดังบนโลกโซเชียลมีเดียได้สร้างสรรค์และพัฒนาผลงานของตนให้ดียิ่งขึ้นไป กับจำนวนรางวัลสูงถึง  154 รางวัล ครอบคลุมกลุ่มคนออนไลน์ ทั้งแบรนด์ เอเจนซี่ อินฟลูเอนเซอร์ และบุคคลในวงการบันเทิงที่ใช้โซเชียลมีเดียอย่างยอดเยี่ยม

อีกสองไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดกับการดีเบตจากเหล่าโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มชั้นนำอย่าง Facebook, Instagram, LINE, Pantip, Twitter และความพิเศษในปีนี้เวทีนี้เป็นที่เดียวที่สามารถรวมตัวเฉพาะกิจของ ‘สตรีมมิ่งแพลตฟอร์ม’ ชื่อดัง  AIS Play, JOOX, Line TV, TrueID TV, VIU และ YouTube ไว้ด้วยกัน เพื่ออัพเดทเรื่องเทรนด์โซเชียลปีนี้จนเวทีลุกเป็นไฟ

พร้อมคอนเสิร์ตสุดพิเศษจากสาวๆ BNK48 รุ่น 2 ที่มามอบความสนุกภายในงาน “Thailand Zocial Awards 2019” งานประกาศผลรางวัลโซเชียลครั้งที่ 7 ที่จะจัดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 28 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา 13.00-19:30 ที่ โรงละครเคแบงก์สยามพิฆเนศ ชั้น 7 สยามสแควร์วัน