- Lifestyle
เมื่อ หงส์แดง ขึ้นจ่าฝูงชั่วคราวแบบ สุดเสียว!
By Sweeper Keeper • on Mar 18, 2019 • 1,951 Views
ทำเอาแฟนๆ ใจหายใจคว่ำ ไปตามๆ กัน กับนัดล่าสุดที่ หงส์แดง ลิเวอร์พูล บุกไปเอาชนะ ฟูแล่ม ได้แบบหวุดหวิด 1-2
ทั้งๆ ที่ดูจากรูปเกมแล้ว ลิเวอร์พูล เหนือกว่า ฟูแล่ม ทุกอย่าง แถมเป็นฝ่ายครองเกมบุกเข้าใส่เกือบตลอดทั้งเกม แต่พอเล่นไปเล่นมากลายเป็นว่า สกอร์ออกมาสูสีซะอย่างนั้น!
เหตุผลหลักๆ ที่ทำให้เกมนี้ที่ดูเหมือนจะเป็นงานง่าย กลายเป็นงานช้างขึ้นมา (แฟนๆ บางคนแอบบ่นว่ากว่าจะชนะ ฟูแล่ม ได้ ลุ้นเหนื่อยกว่านัดชนะ บาเยิร์น เสียอีก) ก็คือ การที่ไม่สามารถทำประตูขึ้นนำเป็น 2-0 ได้ ทั้งๆ ที่ก่อนจะพลาดเสียประตูตีเสมอ พวกเขาก็สร้างสรรค์โอกาสได้พอสมควร
พอบวกประตูที่สองเพิ่มไม่ได้ ยิ่งเล่นไป ฟูแล่ม ก็ยิ่งไม่กลัว จนพวกเขาเริ่มตั้งหลักได้ และหันกลับมาเล่นงาน ลิเวอร์พูล ด้วยจังหวะสวนกลับที่อันตรายขึ้นเรื่อยๆ
สัญญาณเตือนที่ชัดเจนที่สุดเกิดขึ้นในนาทีที่ 64 เมื่อ ฟลอยด์ อายิเต้ โหม่งเข้าประตูไป แต่โชคดีของ ลิเวอร์พูล ที่จังหวะนี้เป็นลูกล้ำหน้า
และในที่สุด งานก็เข้า ลิเวอร์พูล จนได้ เมื่อ ฟาน ไดจ์ค กับ อลิสซง เบ็คเกอร์ สื่อสารกันผิดพลาด ทำให้ ไรอัน บาเบล ฉกบอลเข้าไปยิงง่ายๆ เป็นลูกตีเสมอให้กับ ฟูแล่ม
ยังดีที่ ลิเวอร์พูล มาได้ลูกจุดโทษในช่วง 10 นาทีสุดท้าย และเป็น เจมส์ มิลเนอร์ ที่ลงมาเป็นตัวสำรองรับหน้าที่สังหารเข้าไปเป็นประตูชัยในเกมนี้
ซึ่งถ้าไม่ได้ประตูจากจุดโทษลูกนี้ พูดกันตามตรงว่า ลิเวอร์พูล อาจไม่ชนะในเกมนี้ก็ได้ เพราะดูกันตามเนื้อภาพแล้ว นึกไม่ออกเหมือนกันว่าพวกเขาจะเจาะประตู ฟูแล่ม ได้ยังไง!!!
เพราะหากไม่นับ ซาดิโอ มาเน่ ที่ยิงประตูในพรีเมียร์ ลีกรวมนัดนี้เป็นลูกที่ 9 จาก 9 นัดล่าสุด แนวรุกคนอื่นๆ ที่เหลือของ ลิเวอร์พูล แทบทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอันกันเลย
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โมฮัมเหม็ด ซาล่าห์ เกมนี้เป็นอีกเกมที่เขาโชว์ฟอร์มได้น่าผิดหวัง มีอยู่สองจังหวะในครึ่งหลังที่ทำให้แฟนๆ เกิดข้อสงสัยอีกครั้งว่า เขาคือ ซาล่าห์ คนเดิมจากฤดูกาลที่แล้วหรือเปล่า?
จังหวะแรกคือ จังหวะสวนกลับที่ ซาล่าห์ พาบอลควบขึ้นมาทางขวา โดยมี ไวจ์นัลดุม กับ มาเน่ วิ่งทำทางมาด้วยด้านซ้าย โดยตอนนั้นเหลือนักเตะ ฟูแล่ม ยืนคุมหลังอยู่แค่สองคน
แทนที่ ซาล่าห์ จะส่งบอลต่อให้เพื่อนที่ยืนรอโล่งๆ อยู่ทางซ้าย เขากลับตัดสินใจกระชากบอลออกไปทางขวา จนโดนผู้เล่น ฟูแล่ม ตัดบอลไปได้
อีกหนึ่งจังหวะเป็นจังหวะสวนกลับเช่นกัน คราวนี้เป็น มาเน่ ที่พาบอลขึ้นมาถึงกรอบเขตโทษของ ฟูแล่ม ก่อนที่จะดึงจังหวะรอแล้วไหลบอลใส่พานทองต่อให้ ซาล่าห์ ที่วิ่งเติมมาทางซ้าย หลุดเข้าไปดวลจะๆ กับผู้รักษาประตู แต่ ซาล่าห์ กลับยิงลูกนี้ติดเซฟ เซร์คิโอ ริโก้ นายทวารฟูแล่ม ซะดื้อๆ
การที่ ซาล่าห์ ยิงประตูไม่ได้ในเกมนี้ เท่ากับว่า ซาล่าห์ ยิงประตูไม่ได้ในพรีเมียร์ ลีก มาแล้ว 5 นัดติดต่อกัน!
ยังไงก็ตาม แม้จะเป็นอีกหนึ่งเกมที่ ลิเวอร์พูล โชว์ฟอร์มกันได้ไม่ดีนัก แต่เหนือสิ่งอี่นใดก็คือ พวกเขาสามารถเก็บสามแต้มสุดล้ำค่าเอาไว้ได้
นั่นทำให้ตอนนี้ ลิเวอร์พูล แซง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลับขึ้นไปเป็นจ่าฝูงชั่วคราว โดยมี 76 คะแนน นำหน้าทีม เรือใบสีฟ้า อยู่ 2 แต้ม แต่ลงเตะมากกว่า 1 นัด
สำหรับ 76 คะแนน จากการลงเตะไปแล้ว 31 นัดในฤดูกาลนี้ ทำให้ ลิเวอร์พูล ทำแต้มได้มากกว่าที่เคยทำไว้ในฤดูกาลที่แล้วเป็นที่เรียบร้อย
โดยเมื่อปีก่อน ลิเวอร์พูล เตะครบ 38 แม็ตช์ ได้มาทั้งหมด 75 แต้ม จบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 4
ส่วนฤดูกาลนี้ที่เหลืออีก 7 นัด ลิเวอร์พูล จะเก็บแต้มเพิ่มได้อีกเท่าไหร่ และแต้มที่เก็บได้จะเพียงพอต่อการคว้าแชมป์มั้ย? โปรดติดตามกันต่อไป…
10 ประเด็น เก็บตก หลัง ลิเวอร์พูล บุกเฉือน ฟูแล่ม 1-2 ขึ้นจ่าฝูงชั่วคราว…
1. ลิเวอร์พูล ยืดสถิติไม่แพ้ใครในพรีเมียร์ ลีกออกไปเป็นนัดที่ 10 (ชนะ 6 เสมอ 4 แพ้ 0) และกลับขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงอีกครั้งหลังจากหล่นตำแหน่งเมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
2. เจมส์ มิลเนอร์ ผู้ยิงลูกจุดโทษซึ่งเป็นประตูชัยในเกมนี้ ทำสถิติยิงประตูแล้วทีมไม่แพ้เป็น 51 เกม (ชนะ 40 เสมอ 11)
3. เกมนี้ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค สวมปลอกแขนกัปตันทีมให้ ลิเวอร์พูล เป็นนัดที่ 9 ซึ่ง 9 นัดที่เขาเป็นกัปตันทีม ลิเวอร์พูล ชนะทั้ง 9 นัด!
4. ซาดิโอ มาเน่ แมน ออฟ เดอะ แม็ตช์ ของเกมนี้ กลายเป็นนักเตะที่ยิงประตูเฉพาะเกมพรีเมียร์ ลีกได้มากที่สุดในปี 2019 โดยตอนนี้เขายิงไปแล้ว 9 ประตู เท่ากับ เซร์คิโอ อเกวโร่
5. นอกจากนี้ มาเน่ ซึ่งฤดูกาลนี้ยิงไปแล้ว 17 ประตู ยังกลายเป็นนักเตะสัญชาติเซเนกัลที่ยิงประตูในพรีเมียร์ ลีกได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยแซงหน้า เด็มบา บา ที่เคยทำประตูให้กับ นิวคาสเซิล ไป 16 ลูก ในฤดูกาล 2011/12
6. โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ทำแอสซิสต์เฉพาะเกมในพรีเมียร์ ลีกไปแล้ว 7 ครั้ง ในขณะที่ โมฮัมเหม็ด ซาล่าห์ ทำแอสซิสต์ไป 4 ครั้ง และ มาเน่ 3 ครั้ง
7. ไรอัน บาเบล กลายเป็นอดีตนักเตะ ลิเวอร์พูล คนแรกในรอบเกือบ 2 ปีที่ยิงประตูทีมเก่าได้ โดยก่อนหน้านี้ คริสเตียน เบนเทเก้ เคยยิงประตู ลิเวอร์พูล ได้ในเดือน เมษายน ปี 2017
8. ก่อนเกม บาเบล ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมทีมกับ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ในทีมชาติฮอลแลนด์ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ตัวเขาเองรู้จุดอ่อนของ ฟาน ไดจ์ค เป็นอย่างดี และเขาก็อาศัยจังหวะที่ ฟาน ไดจ์ค เล่นผิดพลาด ยิงประตูตีเสมอให้กับ ฟูแล่ม ได้จริงๆ ในเกมนี้
9. ฟูแล่ม ยังคงมีผลงานอันย่ำแย่ต่อไปในการเจอทีมบิ๊กซิกซ์ โดยพวกเขาไม่สามารถเอาชนะทีมบิ๊กซิกซ์ได้เลยตลอด 11 ฤดูกาลล่าสุดในพรีเมียร์ ลีก
10. สก็อตต์ ปาร์เกอร์ กลายเป็นกุนซือ ฟูแล่ม คนแรกในรอบ 11 ปีที่พาทีมแพ้รวด 3 เกมแรกในการเข้ามาคุมทีม โดยก่อนหน้านี้ เป็น รอย ฮอดจ์สัน ที่เคยพา ฟูแล่ม แพ้รวดในการคุมทีม 3 นัดแรกเช่นกัน เมื่อเดือนมกราคม ปี 2008
เครดิตภาพ : www.standard.co.uk
Copyright© Bsite.In
ABOUT THE AUTHOR
Sweeper Keeper
แม้ก่อนหน้านี้จะเคยผ่านงานเขียนบทความเกี่ยวกับ หนัง และ เพลง มาพอสมควร แต่ด้วยความที่ชอบดูฟุตบอลลีกอังกฤษ และมี ลิเวอร์พูล เป็นทีมโปรดในดวงใจ เขาจึงขอโอกาสมาแบ่งปันมุมมองด้านลูกหนังให้ได้อ่านกันบ้าง