- Lifestyle
ย้อนชมภาพ 5 กัปตัน หงส์แดง ผู้ชูถ้วย บิ๊กเอียร์
By Sweeper Keeper • on Jun 20, 2019 • 2,516 Views
ถึงจะผ่านมาเกือบ 3 สัปดาห์แล้ว หลังจากที่ ลิเวอร์พูล ผงาดคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่ดูเหมือนว่าบรรยากาศแห่งความชื่นมื่น แทบยังไม่จางหายไปเลย…
สังเกตได้จากเหล่าสาวก หงส์แดง ทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศ ที่ยังคงแสดงความยินดีปรีดากันอย่างออกหน้าออกตาที่ได้แชมป์ถ้วยนี้มาเชยชม หลังต้องรอมานานถึง 14 ปี
โดยเฉพาะในโลกโซเชี่ยล ที่ทุกวันนี้ก็ยังปรากฎ ภาพ และ คลิป ซึ่งเป็นบรรยากาศการฉลองแชมป์ของทั้งนักเตะ และ แฟนบอล ออกมาให้ได้ชื่นชมกันเรื่อยๆ ทั้งๆ ที่ เกมนัดชิงจบไปแล้วกว่าค่อนเดือน
อย่างน้อยก็น่าจะมีภาพๆ หนึ่งที่แฟนหงส์ทั่วโลกดูแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ดูวนไปซ้ำแล้วซ้ำเล่ากี่รอบกี่รอบก็ไม่มีเบื่อ นั่นคือ ภาพที่ กัปตันทีม จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ชูถ้วย บิ๊กเอียร์ ขึ้นเหนือหัวเพื่อประกาศก้องให้ทุกคนได้ทราบทั่วกันว่า ลิเวอร์พูล คือ ทีมแชมป์ยุโรป ในปีนี้
และอย่างที่น่าจะทราบกันอยู่แล้วว่า การคว้าแชมป์ยุโรปคราวนี้ เป็นแชมป์ยุโรปสมัยที่ 6 ของ ลิเวอร์พูล ซึ่งถ้าหากนับเฉพาะทีมในเกาะอังกฤษ พวกเขาคือทีมที่ได้แชมป์ถ้วยนี้มากที่สุด
เพราะฉะนั้น เพื่อเป็นการย้ำเตือนถึงการเป็นทีมเจ้ายุโรปตัวจริง เราเลยอยากจะขอพาทุกคนย้อนกลับไปรำลึกถึงช่วงเวลาแห่งความประทับใจเหล่านั้นกันอีกซักครั้ง ด้วยภาพของเหล่าบรรดากัปตันทีม Fantastic 5 ซึ่งเป็นผู้ชูถ้วยแชมป์ยุโรปให้กับ ลิเวอร์พูล
เอมลีน ฮิวจ์ ปี 1977 (โรม)
กัปตันทีมผู้พา ลิเวอร์พูล คว้าถ้วยใบใหญ่ที่สุดของยุโรปสมัยแรก (ยุคนั้นยังเรียกว่า ยูโรเปี้ยน คัพ) ก็คือ เอมลีน ฮิวจ์ โดยเกมนี้ ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายเอาชนะ โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค (ที่มีทั้ง แบร์ตี้ โฟ้กท์ส และ จุ๊ปป์ ไฮย์เกส) ไปได้ 3-1
เอมลีน ฮิวจ์ ปี 1978 (ลอนดอน)
หนึ่งปีถัดมา ลิเวอร์พูล ประกาศศักดาด้วยการคว้าแชมป์ ยูโรเปี้ยน คัพ สองสมัยติดกัน โดยการเอาชนะ คลับ บรูจจ์ 1-0 ที่สนาม เวมบลี่ย์ ซึ่งนั่นทำให้ เอมลีน ฮิวจ์ กลายเป็นกัปตันทีม ลิเวอร์พูล คนแรกและคนเดียวจนถึงตอนนี้ ที่ได้เป็นผู้ชูถ้วย บิ๊กเอียร์ สองปีติดต่อกัน
ฟิล ธอมป์สัน ปี 1981 (ปารีส)
ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ ยูโรเปี้ยน คัพ สมัยที่ 3 ด้วยการเอาชนะ รีล มาดริด (ที่มี บินเซนเต้ เดล บอสเก้) ไปได้ 1-0 จากประตูชัยของ อลัน เคนเนดี้ ที่เติมเกมขึ้นมาตะบันด้วยซ้ายเต็มข้อในนาทีที่ 82
แกรม ซูเนสส์ ปี 1984 (โรม)
ลิเวอร์พูล กลับมาเล่นนัดชิงชนะเลิศที่ โรม อีกครั้ง โดยครั้งนี้พวกเขาต้องเจอกับ โรม่า ที่เป็นเจ้าของสนาม เกมนี้จบ 90 นาที ด้วยการเสมอกัน 1-1 ต่อเวลาพิเศษออกไปก็ไม่มีใครทำอะไรกันได้ เลยต้องตัดสินด้วยการดวลลูกจุดโทษ ซึ่งปรากฎว่า ลิเวอร์พูล ยิงแม่นกว่า เอาชนะ โรม่า ไปได้ 4-2
สตีเว่น เจอร์ราร์ด ปี 2005 (อิสตันบูล)
นี่คือหนึ่งในเกมยุโรปที่จะอยู่ในความทรงจำของแฟนหงส์แดงไปตลอดกาล! เกมนี้ ลิเวอร์พูล ตกเป็นฝ่ายตามหลัง เอซี มิลาน ไปก่อนในครึ่งแรกถึง 0-3 แต่ ปาฏิหาริย์ อิสตันบูล ก็เกิดขึ้น เมื่อ สตีเว่น เจอร์ราร์ด โหม่งประตูจุดประกายให้ทีมกลับมามีความหวังอีกครั้ง ก่อนที่ วลาดิเมียร์ ซมิเซอร์ และ ชาบี้ อลอนโซ่ จะบวกคนละประตูจนสกอร์กลับมาเท่ากันที่ 3-3
เกมยืดเยื้อไปถึงช่วงดวลจุดโทษ และ เจอร์ซี่ ดูเด็ก ก็สวมบทเป็นฮีโร่ เมื่อเขาเซฟลูกจุดโทษของ อังเดร เชฟเชนโก้ เอาไว้ได้ ทำให้ ลิเวอร์พูล พลิกนรกกลับมาคว้าแชมป์ยุโรปได้อีกครั้ง หลังห่างหายจากถ้วยใบนี้ไปนานถึง 21 ปี
จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ปี 2019 (มาดริด)
หลังต้องอกหักจากการพ่ายให้กับ รีล มาดริด เมื่อปีก่อน เจอร์เก้น คล็อปป์ พาทีมลูกทีมเข้าสู่รอบชิงอีกครั้ง และคราวนี้พวกเขาก็แก้ตัวได้สำเร็จด้วยการเอาชนะ สเปอร์ส ไปได้ 2-0 คว้าถ้วยใบใหญ่ที่สุดของยุโรปมาครองได้อีกสมัย หลังจากต้องรอคอยมานาน 14 ปี
และที่สำคัญก็คือ นี่เป็นการคว้าแชมป์รายการแรกของ ลิเวอร์พูล ภายใต้การคุมทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ อีกด้วย
เดรดิตภาพ : Liverpool Echo, This is anfield, ESPN, Daily Mail, Euro Sport, Twitter – Liverpool FC
ABOUT THE AUTHOR
Sweeper Keeper
แม้ก่อนหน้านี้จะเคยผ่านงานเขียนบทความเกี่ยวกับ หนัง และ เพลง มาพอสมควร แต่ด้วยความที่ชอบดูฟุตบอลลีกอังกฤษ และมี ลิเวอร์พูล เป็นทีมโปรดในดวงใจ เขาจึงขอโอกาสมาแบ่งปันมุมมองด้านลูกหนังให้ได้อ่านกันบ้าง