ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับ เกมแดงเดือด ในยกแรกที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ซึ่งผลจบลงด้วยการเสมอกันไปแบบมีดราม่า 1-1

แน่นอนว่า ประเด็นดราม่าที่ว่าคงหนีไม่พ้นจังหวะประตูขึ้นนำของ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ฝั่ง ลิเวอร์พูล มองว่ามีการทำฟาวล์เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นก่อนแล้ว แต่กรรมการกลับไม่เป่าให้ แถม VAR ก็ยังตัดสินให้ลูกดังกล่าวเป็นประตูอีกด้วย มิหนำซ้ำ พอฝ่ายตัวเองได้ประตูบ้าง กลับโดน VAR ปฎิเสธอีกต่างหาก!

อย่างไรก็ตาม หากมองกันในรูปเกมต้องยอมรับว่า โอเล่ กุนนาร์ โซลชา วางแผนมาเล่นกับ ลิเวอร์พูล ในเกมนี้ได้อย่างน่าชื่นชม โดยเฉพาะการปรับหมากให้ทีมของเขาเปลี่ยนมาเล่นกองหลัง 5 ตัว จนทำให้เกมรุกทางริมเส้นทั้งสองข้างซึ่งเป็นอาวุธเด็ดของผู้มาเยือนทำอะไรไม่ได้เป็นชิ้นเป็นอัน

สำหรับทางฝั่ง ลิเวอร์พูล การที่พวกเขามีแต้มกลับออกไปในเกมที่ฟอร์มการเล่นของทีมทำไม่ได้ตามมาตฐาน แถมยังมีปัญหากับหลายๆ จังหวะที่การตัดสินของกรรมการดูจะเอื้อประโยชน์ให้กับฝ่ายเจ้าบ้านมากกว่า ก็ต้องถือว่า นี่เป็น 1 คะแนนที่น่าพอใจแล้ว

ในเกมที่เข้มข้น และเต็มไปด้วยดราม่ามากมาย นี่คือ 15 ประเด็น เก็บตกหลังเกมแดงเดือด ที่เรารวบรวมมาฝากกัน…

1. เจอร์เก้น คล็อปป์ ยังไม่สามารถนำลูกทีมบุกไปเอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ถึงโอลด์ แทร็ฟฟอร์ดเลยแม้แต่ครั้งเดียว โดยผลการแข่งขันในสี่เกมดังกล่าวคือ เสมอ 1-1, แพ้ 2-1, เสมอ 0-0 และนัดล่าสุดเสมอ 1-1

2. โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เป็นผู้จัดการทีมคนเดียวที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ ยังไม่สามารถเอาชนะได้เลยหลังจากที่คุมทีมเจอกันในพรีเมียร์ ลีกมาแล้วสองครั้ง (เสมอ 0-0, เสมอ 1-1)

3. นับตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้วเป็นต้นมา ลิเวอร์พูล ได้ประตูในช่วง 15 นาทีสุดท้ายมาแล้วทั้งหมด 28 ลูกเฉพาะในพรีเมียร์ ลีก

4. แมนฯ ยูไนเต็ด กลายเป็นทีมในพรีเมียร์ ลีกของฤดูกาลนี้ที่ทำแต้มหลุดมือมากที่สุดจากเกมที่ฝั่งตัวเองได้ประตูขึ้นในไปก่อน โดยพวกเขาทำแต้มหล่นไปแล้วถึง 8 คะแนน (เท่ากับ แอสตัน วิลล่า)

5. นับตั้งแต่ฤดูกาล 2017/18 เป็นต้นมา แอนดี้ โรเบิร์ตสัน คือกองหลังที่ทำแอสซิสต์ได้มากที่สุดในพรีเมียร์ลีก โดยเขาไปทำไปแล้ว 19 แอสซิสต์

6. นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2018 ลิเวอร์พูล แพ้ไปแค่เกมเดียวในพรีเมียร์ ลีกจากการลงเตะไป 47 นัด

7. อย่างไรก็ตาม จากการเสมอกับ แมนฯ ยูไนเต็ด นัดนี้ ทำให้ ลิเวอร์พูล หยุดสถิติชนะรวดเอาไว้ที่ 17 นัด ไม่สามารถทำสถิติเทียบเท่ากับที่แมนฯ ซิตี้เคยทำเอาไว้ 18 นัดเมื่อปี 2017

8. โดยนัดล่าสุดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะคู่แข่งไม่ได้ในพรีเมียร์ ลีกคือเกมที่บุกไปเสมอ เอฟเวอร์ตัน ที่ กูดิสัน ปาร์ค 0-0 เมื่อวันที่ 3 มี.ค. 2019

9. ประตูตีเสมอของ อดัม ลัลลน่า เป็นประตูแรกที่เขายิงได้จากการลงสนามในเกมพรีเมียร์ ลีก 29 นัด โดยประตูที่ ลัลลน่า ทำได้ก่อนหน้านี้ต้องย้อนหลังกลับไปในเกมที่พบกับ มิดเดิลสโบรห์ เมื่อเดือนพฤษภาคม 2017

10. สำหรับลูกยิงตีเสมอของ ลิเวอร์พูล เกิดจากการผ่านบอลกันไปมาทั้งหมด 17 ครั้ง ก่อนจะไปจบที่ อดัม ลัลลน่า เป็นคนแปบอลง่ายๆ เข้าประตูไป

11. 31 ประตูที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด ทำได้ในพรีเมียร์ ลีก เป็นประตูที่เขายิงใส่ทีมบิ๊ก 6 ด้วยกันถึง 11 ลูก (ลิเวอร์พูล 3 ลูก, เชลซี 3 ลูก, แมนฯ ซิตี้ 2 ลูก, อาร์เซน่อล 2 ลูก และ สเปอร์ส 1 ลูก)

12. นี่คือเกมแดงเดือดเกมแรกนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปี 2001 ที่ผู้ทำประตูทั้งสองฝั่งเป็นนักเตะอังกฤษทั้งคู่ โดยสองนักเตะอังกฤษที่ทำประตูได้ในเกมแดงเดือดนัดเดียวกันก่อนหน้านี้คือ เดวิด เบ็คแฮม และ ไมเคิล โอเว่น

13. หลังจบเกม เจอร์เก้น คล็อปป์ พูดถึงจังหวะปัญหาที่นำไปสู่การได้ประตูนำของ แมนฯ ยูไนเต็ด ว่า “ประตูที่พวกเขาทำได้แสดงให้เห็นถึงปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับ VAR ที่ มิสเตอร์ แอตกินสัน ปล่อยให้เกมดำเนินต่อไป ผมมั่นใจว่าเป็นเพราะมีการใช้ VAR และ VAR ก็แสดงให้เห็นว่ามันมีการปะทะกัน สำหรับผมมันเป็นจังหวะฟาวล์อย่างชัดเจน และพอเราทำประตูได้ กลับถูกปฎิเสธ วันนี้หลายสิ่งหลายอย่างมุ่งแต่จะเล่นงานมาที่เรา แต่เราก็ยังไม่แพ้ เราสมควรได้แต้ม ร้อยเปอร์เซ็นต์”

14. ในขณะที่ โซลชา ให้สัมภาษณ์ในประเด็นเดียวกันว่า “ไม่บ่อยนักที่ผมจะชื่นชมผู้ตัดสิน แต่วันนี้เขาปล่อยหลายอย่างให้ไหลไปตามเกม เพราะนี่คือเกมดาร์บี้ ไม่มีทางเลย ที่จังหวะนั้นจะเป็นลูกฟาวล์ เราไม่ได้กำลังเล่นบาสเก็ตบอลอยู่นะ มันมีการสัมผัสตัวกัน แต่มันเป็นจังหวะที่ไม่เคลียร์ และชัดเจนว่ามันเป็นการเล่นที่ผิดพลาด ซึ่งไม่ได้เป็นการฟาวล์”

15. มาร์ติน แอตกินสัน ถือเป็นผู้ตัดสินที่ไม่ค่อยถูกโฉลกกับ ลิเวอร์พูล เท่าไหร่นัก โดยมีสถิติระบุว่า 47 เกมล่าสุดในพรีเมียร์ ลีก มีอยู่ 9 เกมที่ ลิเวอร์พูล ทำแต้มหลุดมือ โดย 4 จาก 9 เกมดังกล่าว เป็นเกมที่ แอตกินสัน ลงทำหน้าที่เป็นผู้ตัดสิน ซึ่งรวมถึงเกมที่ ลิเวอร์พูล เสมอกับ เลสเตอร์ เมื่อฤดูกาลก่อน ที่ แอตกินสัน ไม่ให้ใบแดงกับ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ รวมถึงปฏิเสธที่จะให้ลูกจุดโทษในจังหวะที่ นาบี เกอิต้า โดนทำฟาวล์ในเกมเดียวกัน

เครดิตภาพ : Evening Standard