- Sport
เก็บตก 15 ประเด็น หลังเกม ลิเวอร์พูล ถล่ม เลสเตอร์ ขาดลอย
By Sweeper Keeper • on Dec 27, 2019 • 1,150 Views
แม้ก่อนเกมมีการคาดหมายกันว่า นี่จะเป็นอีกหนึ่งเกมที่ จ่าฝูง ลิเวอร์พูล มีโอกาสสะดุดทำแต้มหล่นมากที่สุด…
แต่สุดท้าย เหล่าบรรดากองแช่งทั้งหลายก็ต้องผิดหวังไปตามๆ กัน เมื่อลูกทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ บุกไปสอนบอล ทีมจิ้งจอกสยาม เลสเตอร์ ชนิดที่ต้องใช้คำว่า ‘สู้กันไม่ได้’
สามแต้มที่ได้เพิ่มมาในเกมนี้ ทำให้ ลิเวอร์พูล ขยับหนี เลสเตอร์ รองจ่าฝูงห่างออกไปเป็น 13 แต้ม และเตะน้อยกว่า 1 นัด และทิ้งห่าง แชมป์เก่า แมนฯ ซิตี้ ที่เตะเท่ากันไปเป็น 14 แต้ม
โดยชัยชนะด้วยสกอร์ห่างถึง 0-4 ว่ากันว่า นี่คือหนึ่งในเกมที่ ลิเวอร์พูล โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมที่สุดนับตั้งแต่เปิดฤดูกาลมาเลยทีเดียว
และต่อไปนี้ คือ 15 ประเด็นเก็บตก หลัง ลิเวอร์พูล บุกไปถล่ม เลสเตอร์ ถึงถิ่นแบบขาดลอย…
1. ชัยชนะเหนือ เลสเตอร์ 0-4 ทำให้ ลิเวอร์พูล ทำสถิติไม่แพ้ใครในลีกติดต่อกันเป็นนัดที่ 35
2. ลิเวอร์พูล เก็บชัยชนะ 26 (เสมอ 1) จาก 27 นัดล่าสุดในพรีเมียร์ ลีก เก็บได้ 79 แต้ม จาก 81 แต้มเต็ม
3. เฉพาะในฤดูกาลนี้ ลิเวอร์พูล เก็บชัยชนะ 17 จาก 18 เกมที่ลงสนาม เก็บไปแล้ว 52 จาก 54 แต้มเต็ม โดยนับตั้งแต่บุกไปเสมอ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ลูกทีมของเจอร์เก้น คล็อปป์ คว้าชัยมาติดต่อกัน 9 นัดรวด
4. เกมชนะ เลสเตอร์ 0-4 ทำให้ ลิเวอร์พูล สามารถบุกไปเอาชนะ ทีมจิ้งจอกสยามได้ 3 ฤดูกาลติดต่อกันได้เป็นครั้งแรก
5. นอกจากนั้น เกมที่บุกชนะ เลสเตอร์ นัดล่าสุด ทำให้ ลิเวอร์พูล ภายใต้การคุมทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ เก็บชัยชนะในเกมบ็อกซิ่งเดย์ได้ 5 ปีติดต่อกัน ไล่ตั้งแต่ ชนะ เลสเตอร์ 1-0 (2015 เหย้า), ชนะ สโต๊ค ซิตี้ 4-1 (2016 เหย้า), ชนะ สวอนซี 5-0 (2017 เหย้า), ชนะ นิวคาสเซิ่ล 4-0 (2018 เหย้า) และ ชนะ เลสเตอร์ 4-0 (2019 เยือน)
6. สองประตูของ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ในเกมนี้ ทำให้เขายิงไปแล้ว 4 ลูก จากการลงสนาม 3 เกมล่าสุดในทุกรายการ
7. โดยประตูที่สองที่บ็อบบี้ยิงใส่เลสเตอร์ในเกมนี้ คือประตูที่ 500 ของ ลิเวอร์พูล ภายใต้การคุมทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์
8. เจมส์ มิลเนอร์ ทำประตูให้ ลิเวอร์พูล จากลูกจุดโทษไปแล้วคนเดียว 13 ลูก จากการรับหน้าที่เป็นผู้สังหารไปทั้งหมด 14 ครั้ง
9. นับตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้วเป็นต้นมา เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ คือนักเตะที่ทำแอสซิต์มากที่สุดในพรีเมียร์ ลีก โดยเขาทำไปแล้ว 20 แอสซิสต์ หากนับเฉพาะในฤดูกาลนี้ เทรนท์ ทำไปแล้ว 8 แอสซิสต์ เป็นรองเพียง เควิน เดอ บรอยน์ ที่ทำไป 10 แอสซิสต์ คนเดียวเท่านั้น
10. ฤดูกาลนี้ โจ โกเมซ และ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค มีโอกาสได้ยืนเป็นเซ็นเตอร์คู่กันไปแล้ว 5 นัด และทีมเก็บคลีทชีทได้ทั้งหมด 5 นัด
11. ขณะที่ อลิสซอน เบ็คเกอร์ เก็บคลีทชีทได้ 5 จาก 6 นัดล่าสุดที่ลงสนาม โดยเสียไปแค่ 1 ประตูเท่านั้น
12. ในเกมนี้ เจมี่ วาร์ดี้ ยิงไม่ตรงกรอบเลยแม้แต่ครั้งเดียว ทั้งๆ ที่เขาคือดาวซัลโวของพรีเมียร์ ลีก ณ ตอนนี้ โดยยิงไปแล้วคนเดียว 17 ลูก จากการลงสนาม 19 เกม
13. โดย วาร์ดี้ ยิงประตูไม่ได้เป็นนัดที่ 8 ติดต่อกันในยามที่ต้องเผชิญหน้ากับ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค
14. นับตั้งแต่ที่ แมนฯ ซิตี้ เคยเอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ 6-1 เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2011 เกมระหว่าง เลสเตอร์ กับ ลิเวอร์พูล ถือเป็นเกมเจอกันระหว่างทีมระดับท๊อป 2 ซึ่งผลการแข่งขันที่ออกมามีสกอร์ขาดลอยที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ ลีก
15. โดยทั้งๆ ที่ เลสเตอร์ เพิ่งจะเสียประตูจากเกมที่เล่นในบ้านไปเพียง 5 ลูกเท่านั้น แต่พวกเขากลับเสียประตูในเกมที่พบกับ ลิเวอร์พูล เกมนี้เกมเดียวไปถึง 4 ลูก
เครดิตภาพ : Evening Standard
ABOUT THE AUTHOR
Sweeper Keeper
แม้ก่อนหน้านี้จะเคยผ่านงานเขียนบทความเกี่ยวกับ หนัง และ เพลง มาพอสมควร แต่ด้วยความที่ชอบดูฟุตบอลลีกอังกฤษ และมี ลิเวอร์พูล เป็นทีมโปรดในดวงใจ เขาจึงขอโอกาสมาแบ่งปันมุมมองด้านลูกหนังให้ได้อ่านกันบ้าง