ว่ากันว่ายุค 90’s คือยุคที่ใครหลายคนคิดถึงมากที่สุด ช่วงเวลาที่เทคโนโลยีอาจจะยังไม่พัฒนาก้าวไกลเหมือนปัจจุบัน หลายอย่างยังไม่ซับซ้อนเท่าทุกวันนี้ และความสัมพันธ์ระหว่างกันมันก็ยังเป็นเรื่องที่ติดอยู่ในความทรงจำมาอย่างยาวนาน ช่วงเวลานั้นถูกนำมาเป็นหัวใจหลักในการนำเสนอเรื่องราวของซีรีส์ที่เราอยากจะแนะนำ และเชิญชวนให้ทุกคนไปดูกันมาก ๆ กับเรื่อง Twenty Five Twenty One ซีรีส์เรื่องใหม่จากช่อง tvN ของเกาหลีใต้ ที่ตอนนี้ออกอากาศมาได้แล้ว 10 ตอน คนไทยเราสามารถชมผ่าน Netflix ได้แบบฟิน ๆ

Twenty Five Twenty One เป็นเรื่องราวของวัยรุ่นในช่วงประมาณ 1998 – 1999 ของประเทศเกาหลีใต้ ช่วงเวลาที่วิกฤตเศรษฐกิจ IMF พ่นพิษไปทั่วโลก ธุรกิจหลายแห่งล้มละลาย เกิดภาวะว่างงานขึ้นทุกหย่อมหญ้า ยุคสมัยที่โหดร้ายนี้พรากความฝันใครหลายคนไปอย่างไร้ความปราณี หนึ่งในนั้นคือ ความฝันของแพคอีจิน (รับบทโดย นัมจูฮยอก) หนุ่มวัย 22 ปีที่ต้องดิ้นรนยอมออกจากมหาวิทยาลัยมาทำงานพาร์ทไทม์เลี้ยงชีพตัวเอง ครอบครัวต้องแยกกันเพราะธุรกิจของพ่อล้มละลาย จนเขาได้เจอกับ นาฮีโด (รับบทโดยคิม แทรี) เด็กสาวม.ปลายผู้รักในกีฬาฟันดาบ และมี โกยูริม (รับบทโดย โบนา) นักกีฬาฟันดาบเหรียญทองเป็นแรงบันดาลใจ ความน่ารักสดใส มองโลกในแง่ดี และไม่ยอมแพ้ของนาฮีโด ค่อย ๆ เข้ามาเติมสีสันให้กับวันอันแสนยากลำบากของแพคอีจิน จนรู้ตัวอีกที ทั้งคู่ก็กลายเป็นกำลังใจให้กันและกันไปแล้ว

เสน่ห์ของซีรีส์เรื่องนี้ก็คือ การดำเนินเรื่องแบบไม่รีบร้อน แต่ไปข้างหน้าอยู่เสมอ พาเราไปรู้จักและผูกพันธ์กับตัวละครทุกตัวอย่างครบทุกมิติ และความสดใสของนาฮีโดก็ทำให้เรายิ้มให้ทุกตอนอย่างไม่รู้ตัว ขณะเดียวกันความเข้มข้นของบทที่แพคอีจินต้องแบกรับก็ทำให้เราเอาใจช่วยเขาไปได้ตลอด ผสมกับความซับซ้อนในตัวละครของโกยูรี ที่เหมือนว่าเธอต้องแบกรับความคาดหวังตลอดเวลา ทั้งบ้านที่ไม่ร่ำรวย และศักดิ์ศรีในฐานะของนักกีฬาเหรียญทองทีมชาติ มันทำให้เราติดตามซีรีส์นี้มาได้อย่างต่อเนื่อง

อย่างที่บอกว่าเรื่องราวของซีรีส์ Twenty Five Twenty One ดำเนินไปในยุคที่พิษเศรษฐกิจ IMF กำลังสำแดงอิทธิฤทธิ์อย่างร้ายกาจ เราจะได้เห็นผลกระทบที่ตกมาถึงครอบครัวคนทั่ว ๆ ไปอย่างครบถ้วน แต่ซีรีส์เรื่องนี้ก็ไม่ได้มีแค่นั้น เพราะพวกเขายังเล่าเรื่องราวความฝันของเด็กวัยมัธยม ความพยายาม และไม่ยอมแพ้ ผ่านตัวละคร นาฮีโดที่ใฝ่ฝันจะกลายเป็นมือหนึ่งในวงการกีฬาฟันดาบให้ได้ ไม่เพียงเท่านั้น ซีรีส์ยังมีเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวของตัวละครภายในเรื่องด้วยเช่นกัน และแน่นอนว่าเรื่องราวความสัมพันธ์โรแมนติกของตัวละครเองก็ชวนให้ฟินจิกหมอนได้ไม่แพ้เรื่องไหน ๆ

มาลองพูดถึงตัวนักแสดงกันบ้าง เริ่มต้นที่ นัม จูฮยอก ในบท แพค อีจิน คุณชายตกอับ ที่ขอบอกเลยว่าเสน่ห์ของเขาปล่อยออกมาได้เรี่ยราดมากในเรื่องนี้ การแสดงผ่านสีหน้าของชายที่แบกรับอะไรตลอดเวลา ผ่านสายตาที่เห็นแล้วเราก็รู้สึกใจอ่อนยวบจนรู้สึกเห็นใจไม่ได้ แต่พอมาเจอกับ นาฮีโด ความสดใสก็แต่งแต้มเข้ามาจนเขาคว้าหัวใจเราอยู่หมัด ขณะเดียวกัน คิม แทรี ในบทของ นาฮีโดเองก็มีเสน่ห์อย่างเหลือร้ายเช่นกัน เธอมาในมาดของสาวห้าว ๆ ลุย ๆ จริงใจ ตรงไปตรงมา คิดอะไรก็พูดอย่างนั้น มีความไม่ยอมแพ้ แต่ก็อ่อนไหว และอ่อนโยน ความตลกอย่างเป็นธรรมชาติที่เธอแสดงออกมาก็ทำให้ตัวละครนี้เหมาะจะเป็นรักแรกของใครหลายคนเลยทีเดียว จากเริ่มต้นที่บางคนอาจจะไม่ได้ยินดียินร้ายกับตัวละครนี้เท่าไรนัก แต่พอเรื่องราวผ่านไป เราได้รู้จักเธอมากขึ้น เชื่อเถอะว่า คุณจะโดนเธอ ‘ตก’ ไปโดยไม่รู้ตัว

อีกหนึ่งตัวละครที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ โกยูริม ที่รับบทโดย โบนา ในเรื่องนี้เธอคือนักกีฬาฟันดาบหญิงของเกาหลีใต้ ผู้คว้าเหรียญทองมาได้ในอายุที่น้อยที่สุด แน่นอนว่าเธอมีความงดงามของตัวเอง และเป็นแรงบันดาลใจของนาฮีโด จนทำให้นาฮีโดถึงขั้นย้ายโรงเรียนมาเพื่อจะได้อยู่ชมรมฟันดาบเดียวกัน แต่เบื้องลึกเบื้องหลังของตัวละครนี้มันซับซ้อนกว่าที่เราคิดเอาไว้ เธอมาจากครอบครัวที่ไม่ได้ร่ำรวย ติดจะเป็นชนชั้นกลางค่อนไปทางล่างด้วยซ้ำ นั่นทำให้เธอต้องแบกรับความคาดหวังมหาศาล ทั้งความคาดหวังที่มีต่อครอบครัว ความคาดหวังในฐานะของนักกีฬาเหรียญทอง ขณะเดียวกันเธอก็อยากจะใช้ชีวิตในฐานะของเด็กสาวปกติทั่วไปด้วยเช่นกัน และการแสดงของ โบนา ก็ถ่ายทอดมันออกมาได้จนเราอดรู้สึกเห็นใจเธอไปด้วยไม่ได้

สิ่งที่สามารถทำให้ Twenty Five Twenty One คว้าใจเราอยู่หมัดก็คือ การที่ซีรีส์เลือกจะนำเสนอเรื่องราวของ ‘กำลังใจ’ เป็นหลัก การที่ให้ตัวละคร แพคอีจิน และนาฮีโด เป็นเหมือนคนที่คอยให้กำลังใจซึ่งกันและกัน แล้วความสัมพันธ์นั้นก็ค่อย ๆ พัฒนามากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไม่รีบร้อน มันเหมือนเราได้ผูกพันกับทั้งคู่ แล้วก็ได้รับกำลังใจไปพร้อม ๆ กัน โดยซีรีส์นำเสนอภาพที่ตัดสลับระหว่างเหตุการณ์ในอดีต และปัจจุบัน ภาพซ้อนทับก็คือ ทั้ง 2 ช่วงเวลาเจอวิกฤตแบบเดียวกัน ในอดีตคือ IMF และปัจจุบันคือ โควิด-19 นั่นยิ่งทำให้เราสามารถเข้าใจสิ่งที่เหล่าตัวละครต้องเจอได้มากขึ้นไปอีก เรียกได้ว่าเป็นซีรีส์ที่มาได้ถูกจังหวะถูกเวลาดีจริง ๆ

ใครที่อยากจะตามไปสัมผัสเรื่องราวที่คุณจะต้องหลงรักอย่างแน่นอน ก็สามารถรับชมกันได้บน Netflix กับเรื่อง Twenty Five Twenty One โดยทางเน็ตฟลิกซ์จะอัพเดตตอนใหม่ทุกคืนวันเสาร์-อาทิตย์ เวลาประมาณ 21.00 น. เป็นต้นไป โดยซีรีส์จะมีทั้งหมด 18 ตอนจบ และตอนนี้ออกอากาศมาแล้ว 10 ตอนด้วยกัน