- Entertainment
รีวิว Twenty Five Twenty One ยุคสมัยกับความสัมพันธ์ การเติบโตที่เหลือไว้เพียงความทรงจำแสนงดงาม
By DiamondP • on Apr 04, 2022 • 842 Views
ขอยอมรับจากใจก่อนเลยว่า เป็นคนที่ไม่ค่อยดูซีรีส์เกาหลีมากนัก เพราะเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบเรื่องราวรัก ๆ ใคร่ ๆ หรือภาพยนตร์แนวโรแมนติกสักเท่าไรนัก แต่สาเหตุที่ตัดสินใจเลือกดูซีรีส์ Twenty Five Twenty One (หรือในชื่อไทยว่า ยี่สิบห้ายี่สิบเอ็ด) เป็นเพราะซีรีส์เรื่องนี้จะพาเราไปสู่ยุคปลายของ 90s ที่กำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคมิลเลเนียม หรือปี 2000s ผสมผสานกับเรื่องราวที่เหล่าตัวละครต้องเผชิญหน้ากับวิกฤตเศรษฐกิจ IMF วิกฤตทางการเงินที่สะเทือนไปทั้งโลก และแน่นอนว่ามันสะเทือนมาถึงทุกความสัมพันธ์ภายในเรื่องนี้… นี่แหละที่ทำให้มันน่าสนใจ
ความฉลาดของซีรีส์เรื่องนี้คือ การฉายภาพซ้อนทับของเหตุการณ์ในยุคปัจจุบันที่เรากำลังเผชิญหน้ากับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ผ่านตัวละคร คิมมินแช เด็กสาวนักเต้นบัลเลต์ ที่กำลังจะถอดใจไม่อยากไปต่อกับเส้นทางนี้ จนทะเลาะกับแม่ของเธอ แล้วหนีไปอยู่บ้านของคุณยาย ที่นั่นเธอได้เจอกับไดอารี่ของคุณแม่ เธอได้อ่านมัน ได้เรียนรู้เรื่องราวในช่วงวัยรุ่นของแม่ ในช่วงที่แม่ของเธอเป็นนักกีฬาฟันดาบดาวรุ่ง ได้เจอมิตรภาพ ได้มีความรัก ได้มีความสุข และได้เสียใจ แล้วซีรีส์ก็พาเราย้อนกลับไปในยุคนั้น ไปรู้จักกับแม่ของเธอ นาฮีโด
นาฮีโด คือ เด็กสาวผู้แสนสดใส มองโลกในแง่ดี แต่ก็มุ่งมั่นในเส้นทางที่ตัวเองรัก เธอฝันอยากเป็นที่หนึ่งในกีฬาฟันดาบ จนตัดสินใจย้ายโรงเรียนไปอยู่ในโรงเรียนที่ โกยูริม ไอดอลเจ้าของเหรียญทองของเธอเรียนอยู่ เพื่อหวังจะได้ใกล้ชิด แต่ โกยูริม กลับไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิด ทั้งคู่กลายเป็นคู่แข่งกัน นั่น นาฮีโด ได้เจอกับเพื่อนใหม่ ทั้งจีซึงวาน นักเรียนอันดับหนึ่งของโรงเรียน และมุนจีอุง เจ้าน่ารักแห่งห้องเจ็ด ที่ฝันอยากเป็นไอดอล แต่นอกเหนือจากมิตรภาพในโรงเรียน เธอก็ได้พบกับ หนุ่มส่งหนังสือพิมพ์ที่ทำรูปปั้นหน้าบ้านของเธอเสียหาย แพคอีจิน
การที่ นาฮีโด ได้รู้จักกับ แพคอีจิน นี่เองที่เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด ในขณะที่เรื่องเครียดของ นาฮีโด มีอยู่ไม่กี่อย่าง แต่แพคอีจิน คือคนที่ต้องแบกรับทุกสิ่งทุกอย่าง เขาต้องเสียชีวิตวัยรุ่นไป เพราะครอบครัวล้มละลายจากวิกฤตการเงิน ต้องหยุดเรียน ต้องแยกตัวจากพ่อแม่ ต้องทำงานหาเงินตั้งแต่อายุเพิ่งจะผ่านพ้นวัย 20 ปีมาหมาด ๆ ต้องเผชิญหน้ากับเจ้าหนี้ของพ่อที่มาตามทวงเงิน ยุคสมัยบีบบังคับให้เขาต้องเป็นผู้ใหญ่อย่างรวดเร็ว การได้เจอกับนาฮีโดก็เหมือนกับการได้ย้อนกลับไปในวัยเด็กของเขา เหมือนต้นไม้ที่แห้งเหี่ยวจากฤดูหนาว ได้มาเจอกับหยาดฝนของฤดูใบไม้ผลิ แล้วเริ่มเบ่งบานความสุขขึ้นมาอีกครั้ง
เรื่องราวดำเนินต่อไป โดยในทุกตอนสอดแทรกปัญหาทางสังคมเอาไว้แบบเน้น ๆ แม้ตัวซีรีส์จะมาในโทนของความฟีลกู๊ด ดูสบาย ดูเพลิน แต่ประเด็นนั้นแสนจะหนักหน่วง ทั้งการแบกรับความคาดหวังของการเป็นนักกีฬาทีมชาติ, ปัญหาทางเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อสถาบันครอบครัว พ่อต้องแยกไปทำงานต่างจังหวัด นาน ๆ ได้กลับมาสักครั้ง, ปัญหาการจัดลำดับความสำคัญระหว่างงานและครอบครัว, ปัญหาความรุนแรงที่ครูใช้กับนักเรียนในโรงเรียน, มุมมองของคนในยุคนั้นกับการเลือกเปลี่ยนสัญชาติของนักกีฬาทีมชาติ, ประเด็นการแยกความรู้สึกออกจากหน้าที่ในการทำงาน, ปัญหาความสัมพันธ์กับเวลาที่ไม่ตรงกัน, ความรักทางไกล หรือจะเป็น ความรักครั้งแรกและการจากลา ทั้งหมดนี้ถูกถ่ายทอด สอดแทรกเข้ามาในซีรีส์ความยาว 16 ตอน ผสมผสานกับเรื่องราวความสัมพันธ์ของแต่ละตัวละครที่ไต่ระดับขึ้นไปเรื่อย ๆ
เราจะไม่ได้เห็นพวกเขารักกันหวานชื่นอย่างรวดเร็ว แต่เนื้อเรื่องจะค่อย ๆ พาเราไปรู้จัก และผูกพันธ์กับแต่ละตัวละครทีละนิด ๆ จนรู้ตัวอีกทีเราก็เป็นเหมือนหนึ่งในสมาชิกกลุ่มของพวกเขาแล้ว ดังนั้นเมื่อถึงจุดพลิกผันของเรื่องราว มันไม่ยากเลยที่จะทำให้เรามีอารมณ์ร่วม และกระชากน้ำตาของเราออกมาได้อย่างท่วมถ้น ทั้งน้ำตาแห่งความสุข และความเศร้า
อีกหนึ่งสิ่งที่ซีรีส์เรื่องนี้สามารถทำได้อย่างยอดเยี่ยมเลยก็คือ การถ่ายทอดกีฬาฟันดาบ ออกมาได้อย่างน่าตื่นเต้น ฉากการแข่งขันฟันดาบ แม้จะไม่ได้ลงลึกในเชิงเทคนิคอะไรให้เราได้เห็นมากมาย แต่การใช้มุมกล้อง การเร้าอารมณ์ การปูเรื่องราวของการต่อสู้แต่ละครั้ง ทำออกมาได้ดีมาก เราจะลุ้น เราจะเชียร์ และเราจะเสียน้ำตาให้กับทุกการแข่งขันเลยทีเดียว
นอกจากนั้นแล้ว เพลงประกอบของซีรีส์เรื่องนี้ก็แสนจะไพเราะ ดนตรีมีกลิ่นอายความเป็นยุค 90s อย่างชัดเจน การใส่เข้ามาได้อย่างถูกที่ถูกเวลา มันช่วยเสริมอารมณ์ของซีนแต่ละซีนได้อย่างเหมาะเจาะ จนเราต้องตามไปหาเพลงเต็ม ๆ ฟัง แล้วก็ฟังวนไปไม่รู้จบ
การแสดงของบรรดานักแสดงในเรื่องก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่กระชากใจเราไปจนหมดสิ้น คิมแทรี นักแสดงวัย 32 ปี แต่ได้มาแสดงเป็น นาฮีโด เด็กสาววัย 18 ปี เราจะได้เห็นพัฒนาการของตัวละครนี้อย่างชัดเจน ตั้งแต่ความสดใสคือทุกสิ่ง จนเธอเข้มแข็งขึ้น เติบโตขึ้น เราจะเห็นทุกอย่างนั้นผ่านการแสดงทั้งหมด และเมื่อจบเรื่อง เราจะหลงรักนาฮีโด ของคิมแทรีหมดใจ และเชื่อสนิทว่าเธอเกิดมาเพื่อบทบาทนี้จริง ๆ
คนต่อมาคือ นัมจูฮยอก ในบท แพคอีจิน แม้ว่าเขาจะเคยถูกวิจารณ์ในเรื่องของฝีมือการแสดง แต่เรื่องนี้เขาพัฒนาขึ้นอย่างโดดเด่น และแสดงให้เห็นชัดเจนว่า นี่คือเรื่องราวของเขา การแสดงออกผ่านสีหน้า โดยเฉพาะแววตา คือสิ่งที่ไม่สามารถปฏิเสธได้จริง ๆ ว่ามันยอดเยี่ยม คุณจะเอาใจช่วยเขา จะหลงรักเขา จะโกรธเขา จะเศร้าไปกับเขา และเมื่อเรื่องราวจบลง คุณจะคิดถึงเขาแน่นอน
อีกหนึ่งคนที่เราอยากจะพูดถึงก็คือ โบนา ในบท โกยูริม ใบหน้าแสนหวานกับบทบาทที่แสนหนักหน่วง ภายนอก โกยูริม คือนักกีฬาฟันดาบทีมชาติ เจ้าของเหรียญทอง อนาคตดูสดใสและรุ่งโรจน์ แต่ภายในเธอแบกรับความยากลำบากของครอบครัวเอาไว้อย่างหนักหน่วง ปัญหาเศรษฐกิจทำร้ายครอบครัวนี้อย่างแสนสาหัส และมันพาโกยูริมไปสู่ทางเลือกที่ยุคสมัยบีบบังคับให้เธอต้องเติบโต ซึ่ง โบนา แสดงมันทั้งหมดออกมาได้อย่างหมดจด เราจะเริ่มจากหมั่นไส้เธอ โกรธเธอ ไปเป็นเห็นใจ หลงรัก เสียน้ำตา และภาคภูมิใจในตัวเธอ
ไม่เพียงเท่านั้น แต่ยังมีตัวละครสมทบ ทั้ง มุนจีอุง ที่รับบทโดน ชเวฮยอนอุค และ อีจูมยอง ในบท จีซึงวาน ทั้งสองคนนี้ก็ได้เข้ามาเติมเต็มเรื่องราวให้มีมิติ และพวกเขาก็มีเส้นเรื่องเป็นของตัวเองด้วยเช่นกัน แถมเส้นเรื่องของพวกเขาก็น่าประทับใจไม่แพ้ 3 คนข้างบนเลยแม้แต่น้อย
Twenty Five Twenty One เป็นซีรีส์ที่เราสามารถพูดได้เต็มปากเลยว่าเป็น ซีรีส์น้ำดี ที่คุณจะต้องดูให้ได้สักครั้ง ในรีวิวนี้เราอาจจะเน้นไปที่ตัวเนื้อเรื่องสภาพสังคมที่เกี่ยวพันกับความสัมพันธ์ของตัวละคร และประเด็นที่ซีรีส์สอดแทรกเอาไว้ แต่ประเด็นเรื่องความรักเองก็โดดเด่นไม่แพ้กัน นี่จะเป็นเหมือนซีรีส์สืบสวนสอบสวน ที่จะพาคุณตั้งคำถามไปตลอดจนจบเรื่อง ย้ำว่า จนจบเรื่อง ว่าใครคือ พ่อของมินแช?
เรารู้ว่า แม่ของเธอคือ นาฮีโด แต่พ่อของเธอจะใช่ แพคอีจีน ไหม? นี่คือเรื่องที่คุณต้องไปหาคำตอบเอาเอง
แต่อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากเนื้อหาหนัก ๆ ข้างบนที่กล่าวไปแล้ว ซีรีส์เรื่องนี้จะพาคุณย้อนไปสู่ช่วงเวลาวัยรุ่น ช่วงเวลาที่คุณจะมีความรักครั้งแรกอันแสนร้อนแรง ความทรงจำอันแสนสวยงาม มิตรภาพอันแสนเบ่งบาน ก่อนจะเรียนรู้และเติบโต เข้าใจชีวิตมากขึ้น จนเมื่อมองย้อนกลับไป มันจะคงไว้ซึ่งรอยยิ้มที่เปื้อนคราบน้ำตาแห่งความสุข
ABOUT THE AUTHOR
DiamondP
คนอยากเขียน กับความสนใจเยอะแยะ และเราเชื่อว่า คนทุกคนเท่าเทียมกัน