ผลพวงจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ไม่ได้ส่งผลแค่โครงสร้างทางสาธารณสุขเท่านั้น แต่มันได้สะเทือนเลื่อนลั่นไปถึงระบบเศรษฐกิจเป็นที่เรียบร้อย เพราะถ้าเราลองสังเกตดูอย่างต่อเนื่อง ในตอนนี้บรรดาราคาข้าวของมีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งสินค้าอุปโภค บริโภค, น้ำมัน และของใช้อื่น ๆ ทั้งหมดเป็นผลพวงที่กำลังจะแสดงให้เห็นว่า ภาวะเงินเฟ้อ มันใกล้เข้ามาเต็มทีแล้ว และตอนนี้ประเทศยักษ์ใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกาก็ได้รับผลกระทบเข้าไปเต็ม ๆ

กระทรวงแรงงานของสหรัฐฯ ได้เปิดเผยรายงานว่า ตอนนี้ค่าใช้จ่ายในครัวเรือนของประชาชนมีอัตราเพิ่มสูงขึ้น 7.5% ตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคม ปีที่แล้ว ต่อเนื่องมาจนถึงมกราคมในปีนี้ ทำให้ราคาสินค้าในตลาดพุ่งสูงขึ้นมากที่สุดตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปี 1982 ทำลายสถิติในรอบ 42 ปีเลยทีเดียว โดยราคาน้ำมันเพิ่มสูงกว่า 40% จากปีที่แล้ว ทำให้ราคาพลังงานโดยรวมเพิ่มกว่า 27% ส่งผลถึงราคาของเนื้อสัตว์, สัตว์ปีก, ปลา และไข่ เพิ่มกว่า 12.2% และสินค้าอุปโภคบริโภคอีกกว่า 7.4%

แต่นักเศรษฐศาสตร์ Dean Baker จาก the Center for Economic and Policy Research มองว่า ภาวะข้าวของแพงในครั้งนี้อาจจะไม่รุนแรงอย่างที่คิด เพราะสินค้าทุกอย่างไม่ได้ปรับตัวสูงขึ้น เขาให้ความเห็นว่า “เรื่องที่ดีก็คือ ราคารถยนต์, เนื้อวัว และโทรทัศน์มีราคาต่ำลง รวมไปถึงดัชนีค่าเช่าที่ลดลงอย่างรวดเร็วก็คือจุดเปลี่ยนที่สำคัญ”

ทางฝั่งประธานาธิบดี โจ ไบเดน ได้แสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้เอาไว้ว่า “ยังคงมีการคาดการณ์ว่าในช่วงสิ้นปีนี้อัตราเงินเฟ้อจะมีการผ่อนคลายลง เพราะเราได้เห็นการเติบโตของค่าจ้างที่เป็นไปในเชิงบวกเมื่อเดือนที่แล้ว รวมไปถึงการปรับราคารถยนต์ให้ลดลง ซึ่งคิดเป็น 1 ใน 4 ของอัตราเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นในปีที่แล้ว”

นั่นคือข้อมูลจากทางฝั่งสหรัฐอเมริกา ที่ดูเหมือนว่าจะมีทิศทางที่สามารถคลี่คลายไปได้ในช่วงสิ้นปีนี้ แต่สำหรับประเทศไทยเองยังคงต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด ซึ่งล่าสุด กรมการค้าภายใน ก็ได้มีการเปิดเผยข้อมูลการจับตาอย่างใกล้ชิดในบรรดาสินค้าต่าง ๆ ทั้งอุปโภคบริโภค เพื่อดูแลและควบคุมราคาไม่ให้ผู้ค้าฉวยโอกาสขึ้นราคามากจนเกินไป ไม่เพียงเท่านั้น เรายังต้องมาคอยติดตามราคาสินค้ากันต่อไปอีก เพราะในวันที่ 1 เมษายนนี้ จะมีการยกเลิกการตรึงราคาแก๊สหุงต้ม ทำให้มีความเป็นไปได้ว่าราคาข้าวของ โดยเฉพาะอาหารปรุงสำเร็จอาจถีบตัวสูงขึ้น

ข้อมูลจาก: Highest Inflation Rates in America: Midwest, Tampa, Denver | Money