- Lifestyle
เมื่อ แดงเดือด กลายเป็น แดงเดี้ยง!
By Sweeper Keeper • on Feb 26, 2019 • 2,023 Views
ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับศึก วันแดงเดือด แม็ตช์แห่งศักดิ์ศรีที่คอบอลทั่วโลกตั้งตารอคอย…
โดยเฉพาะทางฝั่งกองเชียร์ ปีศาจแดง ที่หมายมั่นปั้นมือว่าจะล้างแค้นให้ได้ในนัดนี้ หลังจากที่ เกมแดงเดือด ที่แอนฟิลด์พวกเขาตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไปก่อน
อย่างที่เราทราบว่า นอกจากเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีที่ไม่มีทางยอมกันง่ายๆ แล้ว แดงเดือด นัดนี้ ยังเป็นเกมที่มีความหมายอย่างมากของทั้งคู่ โดยเฉพาะทีมที่กำลังลุ้นแชมป์อยู่อย่าง ลิเวอร์พูล ที่จำเป็นต้องมีแต้ม หากหวังจะกลับขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูง
ในขณะที่ฝั่ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นอกจากจะใช้แม็ตช์นี้เป็นเกมล้างตาแล้ว พวกเขายังจำเป็นต้องเก็บสามแต้มให้ได้ หากไม่ต้องการโดน อาร์เซน่อล แซงขึ้นไปอยู่อันดับที่สี่
นั่นคือสาเหตุว่าทำไม เหล่าบรรดาคอบอลทั้งหลายถึงพากันคาดหวังว่า เกมนี้จะต้องเป็นเกม แดงเดือด ขนานแท้ ที่เราจะได้เห็นนักเตะทั้งสองทีมหวดกันแบบไฟแล่บ!
แต่ทำไปทำมา จากเกม แดงเดือด กลับกลายเป็น แดงเดี้ยง! ไปซะอย่างงั้น เพราะแค่ครึ่งแรกก็มีนักเตะบาดเจ็บจนต้องถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามกันทั้งสองทีมไปถึง 4 คนด้วยกัน
ทางฝั่ง ลิเวอร์พูล เป็น โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ที่ได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้าจนเล่นต่อไม่ไหว ทำให้ เจอร์เก้น คล็อปป์ ต้องส่ง แดเนี่ยล สเตอริดจ์ ลงสนามมาแทน
ส่วนทาง แมนฯ ยูไนเต็ด นี่อาการหนักหน่อย เพราะพวกเขาใช้โควต้าเปลี่ยนตัวในครึ่งแรกครบทีเดียวเลย 3 ตัว!
โดยเป็น อันเดร์ เอร์เรร่า ที่บาดเจ็บจนต้องส่ง อันเดรียส เปเรยร่า ลงมาแทน จากนั้นไม่นานนัก ฆวน มาต้า ก็เจ็บไปอีกคน โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เลยต้องส่ง เจสซี่ ลินการ์ด ลงมาแทน
แต่ ลินการ์ด ที่น่าจะเพิ่งผ่านการทดสอบความฟิตกลับมามีชื่อเป็นตัวสำรอง ก็ดันมาเจ็บซ้ำซะอย่างนั้นทั้งๆ ที่ลงสนามไปได้แป๊บเดียว
มิหนำซ้ำ มาร์คัส แรชฟอร์ด ก็มีอาการบาดเจ็บรบกวนตั้งแต่ยังไม่จบครึ่งแรก แต่ต้องฝืนเล่นจนครบ 90 นาที เพราะ แมนฯ ยูไนเต็ด เปลี่ยนตัวไม่ได้แล้ว
ซึ่งแน่นอนว่า อาการบาดเจ็บของนักเตะทั้งสองฝ่ายส่งผลต่อแผนการเล่นอย่างชัดเจน ทำให้รูปเกมที่ออกมาไม่ค่อยเร้าใจเท่าที่ควร เพราะทั้งคู่เล่นกันแบบกล้าๆ กลัวๆ จนแทบไม่มีโอกาสลุ้นทำประตูกันเลย
ภายหลังจบเกม ทั้ง โซลชา และ คล็อปป์ ต่างออกมาให้สัมภาษณ์ในทำนองเดียวกันว่า การบาดเจ็บของนักเตะมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่ทำให้รูปเกมออกมาอย่างที่เห็น จนสุดท้ายต้องแบ่งแต้มกันไป
โดย โซลชา กล่าวว่า “ครึ่งแรกทุกอย่างมันดูผิดพลาดไปหมด เรามีผู้เล่นบาดเจ็บถึง 4 คน แต่เราต้องให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด อยู่ในสนามต่อไป มันดูเหมือนจะเป็นเกมที่ยากลำบาก แต่ผมก็จำไม่ได้เหมือนกันนะว่า ลิเวอร์พูล มีโอกาสทำประตูสักครั้งมั้ย ถึงแม้พวกเขาจะเป็นฝ่ายครองบอลได้มากกว่า แต่ผมจำไม่ได้เลยว่า ดาบิด เด เคอา ได้เซฟซักครั้งหรือเปล่า”
ส่วน คล็อปป์ บอกว่า “มันเป็นเกมที่ประหลาด เราเริ่มต้นได้ค่อนข้างดี แต่อาการบาดเจ็บทำให้จังหวะเกมของพวกเราเสียไป มันเกิดขึ้นกับ บ็อบบี้ ซึ่งมันทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปหมด ยูไนเต็ดเปลี่ยนมิดฟิลด์ลงมาใหม่ รวมถึง แนวรุกสามตัวบนด้วย ในวันที่เราควรจะเก็บชัยชนะจากยูไนเต็ดได้ แต่เรากลับทำไม่ได้ จังหวะเกมของเราเสียไป และไม่สามารถดึงมันกลับมา เราได้เพิ่มมาหนึ่งคะแนน และจะสู้ต่อไปในเกมวันพุธนี้”
ทั้งหลายทั้งปวง เกม แดงเดือด นัดนี้ ก็เลยไม่เดือดสมใจแฟนบอลเท่าไหร่ เพราะจบลงด้วยการเสมอกันไปแบบไร้สกอร์ 0-0
ทำให้สถานการณ์ทั้งการลุ้นอันดับท็อปโฟร์ยังคงเปิดกว้างต่อไปสำหรับ เชลซี, แมนฯ ยูไนเต็ด และอาร์เซน่อล
รวมถึงการลุ้นแชมป์ระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ แมนฯ ซิตี้ ก็ยังคงเบียดกันอย่างสนุกสูสีต่อไปเช่นกัน
เครดิตภาพ : www.standard.co.uk
Copyright© Bsite.In
ABOUT THE AUTHOR
Sweeper Keeper
แม้ก่อนหน้านี้จะเคยผ่านงานเขียนบทความเกี่ยวกับ หนัง และ เพลง มาพอสมควร แต่ด้วยความที่ชอบดูฟุตบอลลีกอังกฤษ และมี ลิเวอร์พูล เป็นทีมโปรดในดวงใจ เขาจึงขอโอกาสมาแบ่งปันมุมมองด้านลูกหนังให้ได้อ่านกันบ้าง